ศบค.เตรียมพิจารณาผ่อนปรนระยะสอง 17 พ.ค.นี้

ทำเนียบรัฐบาล 7 พ.ค.-โฆษกศบค.เผย ผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม นายกฯย้ำเข้มงวดทุกมาตรการต่าง เน้น ทำงานที่บ้าน-เหลื่อมเวลา ลดเคลื่อนย้ายคน เตรียมพิจารณาผ่อนปรนระยะสอง 17 พ.ค.


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (7 พ.ค.)ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 3 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,992 ราย รักษาหาย 2,772 ราย รักษาอยู่ 165 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตคงเดิมรวม 55 ราย ทั้งนี้ จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 3 ราย รายแรกเป็นหญิงไทยอายุ 59 ปี เป็นแม่บ้าน ภูมิลำเนาจังหวัดยะลา มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันจากประเทศมาเลเซีย ส่วนอีกสองคนเป็นชายอายุ 46 ปีและ 51 ปี อาชีพรับจ้าง เป็นผู้ป่วยเดินทางมาจากประเทศคาซัคสถาน และเข้ากักกันตัวในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ให้

โฆษกศบค. กล่าวว่า สถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 3,822,860 ราย เสียชีวิต 265,076 ราย สหรัฐอเมริกาติดเชื้อมากที่สุด  1,263,092 ราย เสียชีวิต 69,921 ราย ส่วนในกลุ่มอาเซียนและเอเชีย อินเดียมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 52,987 รองลงมาคือปากีสถานและสิงคโปร์ ขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่ 64 ของโลก 


“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะ ผอ.ศบค.มอบแนวทางการทำงาน โดยขอให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญการดูแลระยะเปลี่ยนผ่านของมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด และขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคนที่ทำให้เกิดความสำเร็จ ซึ่งสถานการณ์ยังอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ แต่ยังต้องดำเนินการเชิงรุกตามแนวทางดูแลทุกอย่างอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการเข้าออกต่างประเทศผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยต้องไม่ให้นำเชื้อเข้ามาภายในประเทศ และต้องกักกันตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ ต้องมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขและหน่วยงานด้านความมั่นคงดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานและข้อกำหนด ให้หน่วยงานต่าง ๆรายงานผลกระทบการผ่อนคลายมาตรการและแนวทางการแก้ไข โดยเฉพาะการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และรับฟังข้อเสนอของผู้ประกอบการวย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานอย่างหนักต้องให้ได้รับเบี้ยเลี้ยงตามสิทธิ์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

“พล.อ.ประยุทธ์แนะให้มีมาตรการและแนวทางเฉพาะของกิจการและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินทางโดยรถไฟฟ้า ต้องมีมาตรการต่าง ๆ ดูแล การเหลื่อมเวลาการทำงาน ที่อาจจะต้องเหลื่อมหลายช่วงเวลา โดยให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายดูแลเรื่องนี้ เพราะเมื่อออกมาทำงาน จะทำให้คนแออัดกันในขนส่งมวลชน และมาตรการคือ Work from home การทำงานที่บ้าน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี ที่ให้ทำงานที่บ้านให้มากที่สุดหรือร้อยละ 50 ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดการเคลื่อนย้ายของคนได้ โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจรายงานการทำงานที่บ้านและการเหลื่อมเวลาการทำงานว่าเป็นอย่างไรบ้าง” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในส่วนของสถานศึกษาเตรียมขยายเวลาการเปิดเรียน รวมถึงปรับการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งเรียนผ่านโทรทัศน์ดาวเทียมและระบบออนไลน์ ส่วนการออกกำลังกายในสวนสาธารณะต้องระวังไม่ให้มีการแพร่กระจายโรค ซึ่งการออกกำลังด้วยการเดินถือเป็นวิธีที่ดี แต่การวิ่งออกกำลังต้องระมัดระวัง เพราะมีบางคนใส่หน้ากากผิดแบบ ทำให้หายใจไม่สะดวก

“มีรายงานในที่ประชุมศบค.เรื่องการปิดสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งหากเป็นผู้สูงอายุที่ต้องพักค้างสามารถทำได้ แต่หากเป็นประเภทที่ต้องไปกลับจะไม่อนุญาต เพราะอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ สินเชื่อ ประกันภัยในห้าง ที่ประชาชนมีความจำเป็นต้องใช้  ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบประเด็นเหล่านี้ แต่ต้องหารือเพื่อออกเป็นข้อกำหนดและพิจารณาข้อกฎหมายอีกครั้ง” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ก่อนการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่สอง มีไทม์ไลน์ที่ต้องดำเนินการ คือวันที่ 8-12 พฤษภาคมเป็นช่วงของการรับฟังความคิดเห็นทั้งเชิงสถิติและสถานการณ์ วันที่ 13 พฤษภาคมจะซักซ้อมทำความเข้าใจ วันที่ 14 พฤษภาคมจะยกร่างการผ่อนปรนระยะที่สองและนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี หากไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในวันที่ 17 พฤษภาคม จะเริ่มมาตรการผ่อนปรนระยะที่สองได้ ซึ่งจะเป็นการผ่อนปรนในกิจการขนาดใหญ่และมีประชาชนเข้าไปจำนวนมาก ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับทุกคนที่จะต้องช่วยกัน

โฆษกศบค. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าจะต้องพัฒนาการตรวจประชากรกรที่มีกลุ่มเสี่ยงและในสถานที่เสี่ยงให้ได้มากที่สุด โดยเป้าหมายคือต้องตรวจให้ได้ 6,000 รายต่อหนึ่งล้านประชากร คือประมาณ 400,000 ราย ซึ่งขณะนี้ตรวจไปแล้ว 230,000 ราย นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทยรายงานว่าได้ปิดสถานที่ตามมาตรการของสถานการณ์ฉุกเฉินไปกว่า 46,000 แห่ง และเปิดสถานที่ตามมาตรการผ่อนปรนกว่า 140,000 แห่ง ส่วนกรุงเทพมหานครจัดชุดตรวจ กิจการและกิจกรรมต่าง ๆ พบว่ากว่า 3,000 แห่งที่มีความผิดและตักเตือนแล้ง

“ขณะที่การพิจารณาเกณฑ์การรับคนไทยกลับประเทศ แบ่งเป็นด่วนที่สุดที่จะได้กลับก่อนได้แก่ ผู้ป่วย ผู้ตกค้างจากสนามบิน ผู้ที่วีซ่าหมดอายุและนักท่องเที่ยวที่ตกค้าง  อีกกลุ่มคือด่วนมากได้แก่ พระสงฆ์ที่ไปปฏิบัติธรรม นักเรียน นักศึกษาและคนตกงาน โดยวันนี้ที่ประชุมศบค.หารือเตรียมรับนักเรียนไทยกลับจากประเทศอาร์เจนตินา 52 คน และอุรุกวัย 2 คน โดยจะเดินทางมาถึงวันที่ 20 พฤษภาคม” นพ.ทวีศิปล์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า การแพร่ระบาดของโรคในต่างประเทศยังมีอยู่ต่อเนื่อง พบว่าผู้ติดเชื้อในไทยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และการระบาด ของเชื้อมาจากทั้งการเคลื่อนย้ายประชากร เช่น จากกรุงเทพมหานครปยังต่างจังหวัด และการรวมกลุ่มมั่วสุม เช่น การดื่มสุรา ดังนั้น ยังต้องคงมาตรการในประเทศอย่างเข้มข้น และตรึงการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศให้ได้ เพื่อให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเลขหลักเดียวหรือดีขึ้นกว่านี้

“สถานการณ์การติดเชื้อของประเทศต่าง ๆ ดีขึ้น เช่น จีนและเกาหลีใต้ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เสนอว่า น่าจะปรับเรื่องการประกาศรายชื่อและถอนประเทศบางประเทศที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตรายออกไป เพื่อให้มีเรื่องของการทำงานหรือมีความสัมพันธ์ในเชิงด้านเศรษฐกิจสังคมต่างๆ ที่ดีกันไปด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีและที่ประชุมเห็นชอบ แต่ต้องนำไปสู่การดำเนินการต่าง ๆ ที่เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเข้าประเทศได้ทันที ยังต้องมีมาตรการต่าง ๆ ที่จะจัดการ ซึ่งที่ประชุมต้องพูดคุยกันต่อ” นพ.ทวีศิปล์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]