ชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check : ข้อแนะนำขับรถ EV ลุยน้ำท่วม จริงหรือ ?

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ 30 กันยายน 2568 ตามที่มีการแชร์ข้อแนะนำเมื่อต้องขับรถยนต์ไฟฟ้าลุยน้ำท่วม เช่น ประเมินสถานการณ์ก่อนขับ และ ลดความเร็วเพื่อลดแรงปะทะจากคลื่นน้ำนั้น บทสรุป : จริง แชร์ได้ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ นายสุรมิส เจริญงาม นักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ ยืนยันว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นความจริง แต่มีบางจุดที่ควรเพิ่มเติมรายละเอียดเพื่อความชัดเจน ข้อแนะนำการขับรถ EV ลุยน้ำท่วมที่ตรวจสอบแล้ว ตอบ : จริง รถ EV ไม่ควรขับเร็วในน้ำท่วม เพราะแม้จะไม่มีช่องเปิดขนาดใหญ่ที่ตัวรถ ก็ยังมีช่องรับอากาศเพื่อระบายอากาศของระบบแอร์ การขับเร็วเกินไปอาจทำให้น้ำเข้าสู่พื้นที่ระบายอากาศ และ สร้างแรงดันกระแทกชุดแบตเตอรี่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ ตอบ : จริง ถึงแม้จะเป็นรถไฟฟ้า แต่ระบบแอร์ยังมีแผงรังผึ้งและช่องรับลมระบายอากาศคล้ายกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาบ แม้ช่องรับลมอาจจะไม่ได้อยู่ด้านหน้ากระจังรถโดยตรง แต่อาจมีช่องอยู่ด้านล่าง ดังนั้นควรปิดแอร์ก่อนลุยน้ำ ตอบ : จริง แบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนที่ค่อนข้างบอบบางและทนแรงกระแทกได้จำกัด หากเจอสิ่งกีดขวางในน้ำที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน การขับด้วยความเร็วต่ำจะช่วยให้ สามารถหยุดชะลอหรือถอยออกได้ทันท่วงที จึงช่วยลดความรุนแรงของแรงกระแทกได้ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨 : ระวัง ! กลโกงรูปแบบใหม่ หลอกโอนเงินผ่าน “บัญชีม้านิติบุคคล” สูญเงินไม่รู้ตัว

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB ได้เปิดเผยถึงรูปแบบการกระทำความผิดของมิจฉาชีพในปัจจุบัน ซึ่งมีการใช้บัญชีธนาคารที่จดทะเบียนในนามบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน (นิติบุคคล) เป็นเครื่องมือในการรับเงินจากผู้เสียหาย ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่มักใช้บัญชีในนามบุคคลธรรมดา จากการตรวจสอบพบว่า การใช้บัญชีนิติบุคคลทำให้ผู้เสียหายเกิดความไว้วางใจได้ง่ายกว่า เนื่องจากเข้าใจว่าการทำธุรกรรมกับบริษัทมีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ โดยมิจฉาชีพจะใช้วิธีการ 2 รูปแบบหลักในการได้มาซึ่งบัญชีเหล่านี้ 1) การจ้างวานบุคคลอื่นให้ไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ 2) การซื้อหรือนำบัญชีของนิติบุคคลที่เคยจดทะเบียนไว้แล้วแต่ได้หยุดดำเนินการไป มาใช้ในการกระทำความผิด ทำให้เหยื่อไม่ทันได้ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนและต้องสูญเสียทรัพย์สินในที่สุด ดังนั้น ก่อนการโอนเงินไปยังบัญชีของนิติบุคคลใด ๆ ควรทำการตรวจสอบข้อมูลของบริษัทนั้น ๆ ทุกครั้ง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เพื่อพิจารณาว่าบริษัทดังกล่าวมีตัวตนจริงหรือไม่ และมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการตรงกับสินค้าหรือบริการที่กำลังจะชำระเงินหรือไม่ ทั้งนี้ CIB ขอย้ำเตือนว่า การเปิดบัญชีหรือขายบัญชีให้กับผู้อื่นเพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดนั้น มีโทษตามกฎหมาย ดังนี้ จึงขอให้ประชาชนโปรดใช้ความระมัดระวังและตระหนักถึงภัยอันตรายจากมิจฉาชีพในรูปแบบดังกล่าว 30 กันยายน 2568ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨 :  กรมบัญชีกลาง ย้ำ ! ไม่มีนโยบายติดต่อผู้รับบำนาญทางไลน์ ขออย่าส่งข้อมูลส่วนตัวเด็ดขาด

ปัจจุบันยังคงมีมิจฉาชีพแอบอ้าง “กรมบัญชีกลาง” อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลโกงล่าสุด มิจฉาชีพจะใช้วิธีโทรศัพท์หาผู้รับบำนาญโดยตรง และสร้างบัญชีไลน์ปลอม โดยแอบอ้างใช้ชื่อและรูปภาพของผู้บริหารระดับสูงของกรมบัญชีกลาง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะหลอกลวงว่า จากนั้นจะหลอกลวงว่า “ท่านยังมีเงินสวัสดิการที่ยังไม่ได้รับ” หรือ “มีเงินตกค้าง” และพยายามหว่านล้อมให้เหยื่อติดต่อกลับผ่านไลน์ปลอมดังกล่าว เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและติดต่อกลับไป มิจฉาชีพจะสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ที่คอยอำนวยความสะดวก และขอให้เหยื่อส่งข้อมูลส่วนตัวหรือเอกสารสำคัญต่างๆ ผ่านมาทางไลน์ ซึ่งหากมีผู้หลงเชื่อและส่งเอกสารไปให้ นอกจากจะเสี่ยงต่อการสูญเสียทรัพย์สินแล้ว ข้อมูลส่วนตัวอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น การเปิดบัญชีม้า หรือสวมรอยทำธุรกรรมทางการเงินได้ ด้านโฆษกกรมบัญชีกลางได้กล่าวย้ำว่า “กรมบัญชีกลางขอยืนยันว่า ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อผู้รับบำนาญหรือทายาท เพื่อให้ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์, SMS หรือไลน์โดยเด็ดขาด” พร้อมทั้งขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากช่องทางที่เป็นทางการของกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีเครื่องหมายยืนยันตัวตน (Verified) เท่านั้น เพื่อให้รู้เท่าทันกลโกงรูปแบบใหม่ ๆ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง สามารถติดต่อได้ที่ Call Center ของกรมบัญชีกลาง หมายเลข 0-2270-6400 ในวันและเวลาราชการ หรือผ่านทางเว็บไซต์ www.cgd.go.th เท่านั้น 30 กันยายน 2568ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท

ชัวร์ก่อนแชร์ : 6 อาหารแสลงโรคไซนัส จริงหรือ ?

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ 26 กันยายน 2568 ตามที่มีการแชร์คำแนะนำ 6 อาหารแสลงต้องห้ามสำหรับคนเป็นไซนัส ไม่ควรกินอาหารเหล่านี้ เช่น ปลาร้า อาหารทะเล เนื้อและนมวัว ขนมปัง หน่อไม้ดอง และแอลกอฮอล์นั้น บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ รศ.นพ.บุญสาม รุ่งภูวภัทร ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (สัมภาษณ์เมื่อ 5 กันยายน 2568) ไขข้อข้องใจ 6 อาหารแสลงสำหรับคนเป็นไซนัส…จริงหรือ ? อาจารย์ได้อธิบายว่า โดยรวมแล้วไซนัสเอง “ไม่มี” คำว่าอาหารแสลง แต่บางคนอาจนำไปรวมกับการแพ้อาหาร ซึ่งเมื่อแพ้อาหาร อาจทำให้บางรายมีผื่น คัดจมูก แน่นคอ หรือเสมหะเยอะขึ้นได้ การแพ้อาหารรุนแรงอาจถึงขั้นช็อกได้ แต่หากแพ้ไม่รุนแรง บางคนอาจมีแค่อาการคัน แน่นจมูก […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ดอกปีบ แก้ปัญหาไซนัสได้ จริงหรือ ?

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ 28 กันยายน 2568 ตามที่มีการแชร์คำแนะนำการแก้ปัญหาไซนัสให้หายได้ ด้วยการนำดอกปีบ ล้างน้ำ ดึงเกสรออก และตากแห้งให้สนิท จากนั้นม้วนด้วยใบตองใส่ยาเส้น จุดและสูบพ่นออกทางจมูกวันละ 2 ครั้ง อาการไซนัสจะหายไปได้ภายใน 1 สัปดาห์นั้น บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ รศ.นพ.บุญสาม รุ่งภูวภัทร ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (สัมภาษณ์เมื่อ 19 มิถุนายน 2568) ดอกปีบแก้ไซนัสได้จริงหรือ ? ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าวิธีการใช้ดอกปีบม้วนใบตองใส่ยาเส้น จุดสูบควันพ่นทางจมูกนั้น “น่าจะไม่จริงเลย” และ “ไม่น่าจะถูกหลักทางการแพทย์” ที่สำคัญคือ “น่าจะทำให้อาการแย่ลงด้วยซ้ำ” ทำไมวิธีนี้จึงไม่ถูกต้องและเป็นอันตราย ? เยื่อบุของช่องไซนัสมีขนและเซลล์พัดโบกที่ทำหน้าที่ขับเสมหะและสิ่งแปลกปลอมออกไป ควันพิษต่าง ๆ รวมถึงควันบุหรี่ จะทำให้เยื่อบุจมูกเกิดการอักเสบและบวมมากยิ่งขึ้น การเผาสมุนไพรในลักษณะนี้ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨: อย่าหลงเชื่อ ! รพ.รามา ยืนยันไม่มีนโยบายโทรขอเงิน-ข้อมูลส่วนตัว

รพ.รามาธิบดี ออกประกาศเตือนภัยประชาชน หลังพบมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อโรงพยาบาล โทรหลอกลวงขอเงินและข้อมูลส่วนตัว โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกประกาศเตือนภัยเร่งด่วน เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้โทรศัพท์ไปหาประชาชน โดยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ เพื่อหลอกลวงให้โอนเงินในรูปแบบต่างๆ เช่น อ้างเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือหลอกว่าจะมีการโอนเงินบริจาค/เงินนำเข้าให้ ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีขอยืนยันว่า “ไม่มีนโยบาย” ในการโทรศัพท์ไปหาประชาชนเพื่อขอให้โอนเงิน ขอข้อมูลส่วนตัว หรือส่งลิงก์ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใดๆ ทั้งสิ้น การกระทำดังกล่าวเป็นการหลอกลวงจากมิจฉาชีพทั้งสิ้น เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการตกเป็นเหยื่อ ขอให้ประชาชนโปรดระมัดระวังและยึดหลักปฏิบัติดังนี้: หากท่านได้รับโทรศัพท์หรือข้อความในลักษณะดังกล่าว โปรดอย่าหลงเชื่อ ให้วางสายทันที และสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้โดยตรงผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารอย่างเป็นทางการของโรงพยาบาลรามาธิบดีเท่านั้น หากตกเป็นผู้เสียหายให้รีบแจ้งความดำเนินคดีทันที 29 กันยายน 2568ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ซีสต์ที่ดวงตา

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ 21 กันยายน 2568 ซีสต์เกิดขึ้นบริเวณใดของดวงตาได้บ้าง และซีสต์แบบไหนที่จะบ่งบอกถึงอันตรายต่อดวงตา ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย (สัมภาษณ์เมื่อ 29 สิงหาคม 2568) ทำความเข้าใจกับซีสต์ที่ดวงตา : สาเหตุและกลไกการเกิด ซีสต์ที่ดวงตาคือถุงน้ำที่เกิดขึ้นจากการอุดตันหรือความผิดปกติของต่อมต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่สร้างสารคัดหลั่ง เช่น น้ำตา ไขมัน หรือเหงื่อ ในบริเวณดวงตา เมื่อปากต่อมเหล่านี้เกิดการอุดตัน สารคัดหลั่งจะถูกกักเก็บและสะสมอยู่ภายใน ทำให้เกิดเป็นถุงน้ำหรือซีสต์ขึ้นมา ซึ่งสามารถพบได้ในสองบริเวณหลัก ๆ ของดวงตา สัญญาณเตือน : เมื่อซีสต์ที่ดวงตาอาจเป็นอันตราย โดยทั่วไปแล้ว ซีสต์ที่ดวงตาจะไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด แต่อาจมีอาการระคายเคืองบ้าง หากมีการอักเสบหรือติดเชื้อจากปัจจัยภายนอก เช่น การสัมผัสด้วยมือที่ไม่สะอาดหรือโดนฝุ่นละอองบ่อย ๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่าอาการเจ็บปวดไม่ได้บ่งบอกถึงการเป็นเนื้อร้าย สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตและเป็นสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติหรืออันตรายของซีสต์ที่ดวงตา ได้แก่ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปปรึกษาจักษุแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของเนื้อร้ายบางชนิดที่บริเวณเยื่อบุตาหรือเปลือกตา […]

ชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check : 6 ข้อแนะนำ เมื่อต้องขับรถลุยน้ำท่วม จริงหรือ ?

23 กันยายน 2568 บนสังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อแนะนำเมื่อต้องขับรถในสถานการณ์ที่ฝนตกหนัก จนเกิดน้ำท่วม เช่น รักษารอบเครื่องยนต์ให้คงที่ และ ย้ำเบรกและคลัตช์บ่อย ๆ หลังลุยน้ำ เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามได้ใน ซีรีส์ ชัวร์ก่อนแชร์ มอเตอร์เช็ก กับคุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ นายสุรมิส เจริญงาม นักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ (สัมภาษณ์เมื่อ 16 กันยายน 2568) 6 ข้อควรรู้เมื่อขับรถลุยน้ำท่วม: ป้องกันความเสียหาย เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ในฤดูฝนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถานการณ์น้ำท่วมขังบนท้องถนน การเตรียมพร้อมและมีข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการขับรถลุยน้ำท่วมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันความเสียหายต่อรถยนต์และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง รายการ “ชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check” ได้รวบรวม 6 ข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่า “จริง” และควรนำไปปฏิบัติ 1. ปิดระบบปรับอากาศ (แอร์) ทันที เมื่อต้องขับรถลุยน้ำท่วม สิ่งแรกที่ควรทำคือปิดแอร์ทันที เพราะระบบปรับอากาศมีพัดลมไฟฟ้าที่อาจพัดละอองน้ำจากภายนอกเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ ซึ่งมีอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟต่าง ๆ การปิดแอร์จะช่วยลดความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าไปทำความเสียหายต่ออุปกรณ์เหล่านี้ และยังช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์อีกด้วย 2. […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨 : เช็กก่อนแอด ! ไลน์ PEA ปลอมระบาด แอบอ้างหลอกโอนเงิน

24 กันยายน 2568 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เตือนประชาชนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่กำลังแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กฟภ. ให้บริการผ่านบัญชีไลน์ปลอม โดยอ้างว่า กฟภ. ได้เปิดบัญชีไลน์ใหม่ ยกระดับบริการออนไลน์ ใช้ชื่อไลน์ไอดี pea463 กฟภ. ขอย้ำชัดเจนว่าบัญชีไลน์ดังกล่าวไม่ใช่บัญชีทางการของ กฟภ. และ กฟภ. มีช่องทางการติดต่อสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันไลน์เพียงช่องทางเดียวเท่านั้นคือ LINE Official Account ชื่อว่า “@PEAThailand” ซึ่งจะมีสัญลักษณ์โล่สีเขียวปรากฏอยู่ข้างหน้าชื่อบัญชี ประชาชนควรตรวจสอบให้ดี อย่าหลงเชื่อบุคคลหรือบัญชีไลน์ที่ไม่เป็นทางการที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กฟภ. โดยเด็ดขาดหากได้รับข้อความหรือการติดต่อที่น่าสงสัย ขอให้ติดต่อสอบถามกับ กฟภ. โดยตรงผ่านช่องทางต่อไปนี้เท่านั้น 1129 PEA Contact Center สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่

ชัวร์ก่อนแชร์ : สมุนไพรบำรุง เลือดลม ผิวพรรณ และระบบไขมัน จริงหรือ ?

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ 18 กันยายน 2568 ตามที่มีการแชร์คำแนะนำ แนะนำให้กินสมุนไพรในตำรายาจีน เช่น รากและใบกุ้ยช่าย เผือก ขิง กินแล้วจะช่วยบำรุงร่างกาย เลือดลม ผิวพรรณ และระบบไขมันได้นั้น บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ อาจารย์แพทย์จีน วีรชัย สุทธิธารธวัช คณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ (สัมภาษณ์เมื่อ 19 มิถุนายน 2568) หลักการพื้นฐานของ “อาหารเป็นยา” ในศาสตร์การแพทย์จีน ผู้เชี่ยวชาญได้ให้หลักการสำคัญไว้ว่า อาหารหลายชนิดในศาสตร์การแพทย์จีนนั้นมีฤทธิ์เป็นยาและสามารถช่วยบำบัดโรคได้จริง อย่างไรก็ตาม ฤทธิ์ของมันจะอยู่ในระดับ “อ่อน ๆ” เพราะหากมีฤทธิ์รุนแรงก็จะถูกจัดเป็นยา ไม่ใช่อาหารอีกต่อไป ดังนั้น เราจึงไม่ควรคาดหวังว่าการกินอาหารสมุนไพรเหล่านี้จะสามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ 100% หรือเห็นผลอย่างรวดเร็ว 8 เรื่องที่แชร์มายอดฮิตเกี่ยวกับสมุนไพรจีน 1. แครอท ลดความดันและไขมันได้อย่างน่าอัศจรรย์ จริงหรือ ? […]

ชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST : 5 เรื่องฮิต สารพัดประโยชน์ขององุ่น จริงหรือ ?

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ 17 กันยายน 2568 องุ่น ผลไม้รสหวานฉ่ำที่หลายคนชื่นชอบ ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังมักถูกกล่าวขานถึงสรรพคุณทางสุขภาพนานัปการ ตั้งแต่การเป็น “ยาอายุวัฒนะ” ไปจนถึงการช่วยลดน้ำหนัก แต่ความเชื่อเหล่านั้นเป็นความจริงมากน้อยเพียงใด? รายการ “ชัวร์ก่อนแชร์” ได้ทำการตรวจสอบ 5 เรื่องที่แชร์มาเกี่ยวกับองุ่น เพื่อให้ผู้บริโภคได้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนที่สุด 1. ฝ้าขาว บนผลองุ่นคือสารเคมี จริงหรือ ? แชร์ว่า : ฝ้าขาว หรือคราบขาว ที่อยู่บนผิวองุ่น เป็นสารเคมีที่ตกค้างอยู่บนผิวองุ่น ต้องล้างออกให้เกลี้ยง ตรวจสอบกับ อาจารย์รัฐพล ฉัตรบรรยงค์ ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ : จริงบางส่วน ไม่ควรแชร์ ข้อเท็จจริงคือ คราบขาวที่พบบนผิวองุ่นนั้นมีอยู่ 2 ชนิด 2.  ประโยชน์ขององุ่นแดง จริงหรือ ? แชร์ว่า : การกินองุ่นสีแดงป้องกันโรคหัวใจ […]

1 2 3 216
...