ศบค.เผยผู้ป่วยใหม่ 28 ราย

ทำเนียบรัฐบาล 13 เม.ย.-โฆษกศบค. เผยตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 28 ราย เสียชีวิต2 ราย รวม 40 ราย มั่นใจเตียงรองรับพอ หลังคนป่วยกลับบ้าน ป่วยใหม่น้อยลง ส่วนการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับตัวเลขสถิติที่ต้องลดลง


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้(13 เม.ย.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 28 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,579 ราย รักษาหาย 1,288 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวม 40 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นชายไทยอายุ 56 ปีมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรปราการด้วยอาการไข้ 38 องศาเซลเซียส ไอ หอบ เหนื่อย แพทย์ส่งตรวจทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 พบว่าผลตรวจไข้หวัดใหญ่เป็นลบและยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จากนั้นมีอาการเหนื่อยมากขึ้นและใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา

โฆษกศบค. กล่าวว่า อีกรายเป็นชายไทยอายุ 43 ปี อาชีพพนักงานบริษัทมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ไตวายเรื้อรังไขมันในเลือดสูง เริ่มป่วย 23 มีนาคมด้วยอาการไข้ 39.4 องศาเซลเซียส ไอ เหนื่อย มีน้ำมูกและถ่ายเหลว เข้ารักษาโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานครและกลับบ้าน จากนั้นวันที่ 5 เมษายน อาการไม่ดีขึ้น เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งเดิม วินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดติดเชื้อและส่งตรวจยืนยันพบเป็นโควิด-19 จากนั้นมีอาการแย่ลง หอบเหนื่อยมากขึ้น ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดลดลง หัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตวันที่ 11 เมษายน


“จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 28 ราย พบว่าอยู่ที่กรุงเทพมหานคร 12 ราย ภูเก็ต 6 ราย ชลบุรี ยะลา สตูล จังหวัดละ 2 ราย และชุมพร นครพนม นนทบุรี เลย จังหวัดละ 1 ราย โดยพบว่าปัจจัยเสี่ยงมาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 18 ราย คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย ไปสถานที่ชุมนุมชน 1 ราย อาชีพเสี่ยง 2 ราย และ บุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย มีผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซียและเข้ารับการกักกันตัว 3 ราย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า ยอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,579 ราย จาก 68 จังหวัด แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 1,306 รายภูเก็ต 182 ราย นนทบุรี 150 ราย สมุทรปราการ 105 ราย และยะลา 84 ราย ขณะที่จากการจำแนกอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคน พบว่าจังหวัดภูเก็ต มีผู้ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 44.03 รองลงมาคือกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 23.03 และยะลา ร้อยละ15.72 ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ตั้งแต่วันที่ 8-9 เมษายนและ 11-13 เมษายนพบว่าเป็นกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากอินโดนีเซียรวม 61 รายและจากสหรัฐอเมริกาจำนวน 1 ราย ซึ่งการจำแนกปัจจัยเสี่ยง 5 อันดับของผู้ป่วยยืนยัน 2 สัปดาห์ล่าสุด พบว่ามาจากการสัมผัสกับผู้ป่วย ยืนยันก่อนหน้านี้จำนวน 441 ราย คนไทยกลับจากต่างประเทศ 145 ราย อาชีพเสี่ยง 104 รายบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 55 ราย และสถานบันเทิง 39 ราย

“สำหรับจังหวัดภูเก็ต ที่พบยอดผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง พบว่าเป็นผู้ป่วยจากสถานบันเทิง 71 รายสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 33 รายอาทิตย์เสียง 33 รายคนต่างชาติเดินทางจากต่างประเทศ 10 รายและคนไทยมาจากต่างประเทศ 4 ราย โดยพบว่าผู้ป่วยมาตรวจหลังมีอาการภายในวันเดียว คิดเป็นร้อยละ 22.69 มาตรวจภายใน 3 วัน ร้อยละ 22.69 มาตรวจภายใน 7 วัน ร้อยละ 26.89 และมาตรวจหลังจาก 7 วันร้อยละ 27.73” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว 


โฆษกศบค. กล่าวว่ามาตรการของจังหวัดภูเก็ตเริ่มตั้งแต่ปิดสถานบันเทิง ปิดซอยบางลา นวดแผนไทย สนามกีฬา โรงแรมและปิดพื้นที่ป่าตอง จึงจะสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ ซึ่งบทเรียนที่ได้จากการดำเนินงานเพื่อควบคุมป้องกันโรคที่จังหวัดภูเก็ต พบว่ากลุ่มผู้สัมภาษณ์ที่มีความเสี่ยงสูงต้องกักกัน 100% ด้วยการกักกันในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพราะหากกักตัวเองที่บ้าน ยังพบว่ามีผู้ป่วยต่อเนื่อง ส่วนการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกทำในกรณีการระบาดในวงกว้างเฉพาะกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยงเท่านั้น เพราะอาจมีปัญหาในการติดตามตรวจสอบได้ไม่ทั้งหมด และการคัดกรองในวงกว้าง ยังไม่เกิดความคุ้มค่า ส่วนผู้ที่ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว มีประชาชนออกนอกเคหสถาน 820 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน 135 ราย 

“กระทรวงสาธารณสุขมั่นใจจำนวนเตียง รองรับผู้ป่วยทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพียงพอ โดยในช่วงนี้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหายแล้วได้กลับบ้านไป และผู้ป่วยใหม่น้อยลง ทำให้จำนวนเตียงนั้นว่างมากขึ้น ยืนยันว่าแม้สถานการณ์รุนแรงมากกว่านี้ อย่างที่มีการประเมินว่าอาจมีผู้ป่วยจำนวนหลายแสนคน ก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถรองรับได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค.กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญกับการหามาตรการเยียวยากับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและพบว่าปัญหาต่าง ๆ มีมากและต้องเร่งแก้ไข โดยจะตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมขึ้นมาดูแล ขณะที่มาตรการต่าง ๆ จะผ่อนคลายได้ เช่นการเรียกร้องให้เปิดร้านตัดผม ต้องพิจารณาจากจำนวนตัวเลขสถิติที่จะต้องลดลง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะให้คณะกรรมการวิชาการของกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้พิจารณา ยืนยันว่ารัฐบาลเข้าใจผลกระทบ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.รับทราบรายงานภาพรวมการติดตั้งจุดควบคุมการเฝ้าระวังว่าเป็นไปอย่างเข้มงวด การจัดเครื่องบินไปรับส่งตัวอย่างสารคัดหลั่งของบุคคลเสี่ยงที่จังหวัดภูเก็ตมาตรวจที่กรุงเทพมหานคร เพราะสรรพกำลังการตรวจในต่างจังหวัดยังไม่เท่ากับของกรุงเทพมหานคร ส่วนการกระจายหน้ากากอนามัยขณะนี้แจกจ่ายไปแล้ว กว่า 50 ล้านชิ้นทั่วประเทศ  

“มาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศ ได้ทยอยนำคนไทยกลับจากต่างประเทศโดยไม่ให้แพร่กระจายเชื้อ ส่วนปัญหาแรงงานข้ามแดนได้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงและประสานกับประเทศต้นทางเพื่อจะชะลอการเดินทางเอาไว้ ขณะนี้แรงงานชายแดนทางบก ไม่มีติดค้างแล้ว และจะเพิ่มความเข้มงวด รถรับจ้างขนแรงงานและผู้ที่จะเดินทางเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ได้มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นของคนไทย คือ “หมอชนะ”ที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลของประชาชนเพื่อการตรวจสอบความเสี่ยงติดเชื้อได้ด้วยตนเอง และ “DDC-Care” เพื่อติดตามดูแลและประเมินกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อด้วย.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]