“โรม” ประณามรัฐบาลกัมพูชา เหตุปะทะเดือดไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 24 ก.ค.-“โรม” ประณามรัฐบาลกัมพูชา เหตุปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา ไทยต้องแจ้งนานาประเทศทราบ ห่วงประชาชน กลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบ ชี้ “ฮุนเซน” อายุเยอะ คาดใช้แผนยั่วไปโฆษณาว่าชนะไทย รัฐบาลต้องรักษาศักดิ์ศรีประเทศ ด้วยการตอบโต้ตามเหตุจำเป็น นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ล่าสุดเกิดการใช้อาวุธและการประทะกันแล้วว่าอยากใช้โอกาสนี้ในการประณามรัฐบาลกัมพูชา คิดว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นการยั่วยุการใช้ความรุนแรงการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา โดยใช้ระเบิดในลักษณะที่เป็นกับดักซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่ควรมีการใช้อีกแล้วคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่ก้าวร้าวที่ยอมรับไม่ได้ดังนั้นประเทศไทยก็คงต้องประณามการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาที่ดำเนินการให้เรื่องนี้เกิดขึ้นซึ่งตนเชื่อว่าการที่รัฐบาลกัมพูชาจะต้องมีส่วนรู้เห็น การกระทำนี้อย่างแน่นอน มองว่ากัมพูชาควรที่จะเข้าใจกว่าหลายประเทศด้วยซ้ำว่าความร้ายแรงเน้นเรื่องกับดักระเบิดเป็นอย่างไรว่าชาวบ้านและ คนกัมพูชาได้รับความสูญเสียในเรื่องกับดักระเบิดนี้มาเป็นเวลานานกัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้มากที่สุดแต่กลับใช้พฤติกรรมนี้ กับฝ่ายไทยดังนั้นต้องยอมรับว่าการที่จะพูดคุยเจรจาเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายฝ่ายไทยคงต้อง มีการตอบโต้เรื่องนี้ อย่างเหมาะสมคิดว่าเบื้องต้น ที่ฝ่ายไทยสามารถดำเนินได้หลังจากที่ได้ชี้แจงต่อทูตทหารต่อหลายประเทศ ที่สามารถทำได้ทันทีคือการสังเกตสถานการณ์โดยเชิญทูตจากประเทศต่างๆร่วมสังเกตการณ์ด้วย เรื่องนี้โลกต้องเห็น และมีข้อมูลที่เพียบพร้อมว่ากัมพูชามีความก้าวร้าวที่จะยั่วยุเพื่อให้สถานการณ์บานปลาย และกระทรวงการต่างประเทศต้องทำงาน เชิงรุกกว่านี้การไปรอเดือนธันวาคมเพื่อหารือในอนุสัญญาออตตาวา เป็นสิ่งที่ช้าเกินไปและมากไปกว่านั้นในสิ่งที่เป็นรูปธรรมคือควรนำเรื่องนี้นำเสนอต่อ UNGA ที่เป็นเวทีสำคัญของสหประชาชาติเพื่อให้ทั่วโลกได้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าวันนี้มีการยิงปืนใหญ่แล้วสถานการณ์บานปลายสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบสิ่งนี้ต้องเตรียมความพร้อมเบื้องต้นทราบว่ามีการซักซ้อมในพื้นที่ ที่เชื่อว่ามีความพร้อมแต่ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายไปนานแค่ไหนดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเตรียมความเป็นไปได้เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนทั่วไปและผู้บริสุทธิ์ไม่สมควรได้รับผลกระทบ ต้องหาวิธีรองรับให้มากที่สุดโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง และเด็กที่ต้องหามาตรการรองรับต้องฝากไปถึงรัฐบาลเมื่อมีการขัดกันทางอาวุธเกิดขึ้น กลุ่มเปราะบางประชาชนทั่วไปเค้าควรจะได้รับความปลอดภัย นายรังสิมันต์ กล่าวว่าการประชุมคณะกรรมาธิการวันนี้เป็นการ ใช้อำนาจเรียกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายหรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายภูมิธรรม […]

รมว. ศธ.สั่งปิดโรงเรียน​ชายแดนสุรินทร์​-ตั้งศูนย์​พักพิง​

กรุงเทพฯ​ 24​ ก.ค.​- รมว.ศึกษาธิการ สั่งปิดโรงเรียนชายแดนสุรินทร์ หลังเกิดเหตุปะทะไทย-กัมพูชา พร้อมจัดแผนหลบภัยดูแลนักเรียน​ ตลอด​จนตั้งศูนย์​พักพิง​รองรับ​นักเรียน​และครอบครัว​ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุปะทะระหว่างกำลังความมั่นคง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ใกล้พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่ ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในเขตที่เกิดเหตุปะทะเป็นการชั่วคราว “ดิฉันกำชับให้โรงเรียนชายแดนจัดทำแผนรับมืออย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการเตรียมหลุมหลบภัยหรือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน รวมถึงสั่งตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อรองรับนักเรียนและครอบครัวที่อาจต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง” ศ.ดร.นฤมล กล่าว กระทรวงศึกษาธิการจะประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง และจะพิจารณาเปิดเรียนตามปกติเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเรียนการสอนของนักเรียนในระยะยาว. -512-สำนักข่าว​ไทย​

ตลาดทุนจับตาสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “ตลาดทุน-ตลาดเงิน” จับตาสถานการณ์ชายแดน และความคืบหน้าเจรจาภาษีไทย-สหรัฐ ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.11/13 บาท/ดอลลาร์ฯ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.15 บาท/ดอลลาร์ฯ เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า หลังดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลง โดยตลาดยังคงจับตาดูความคืบหน้าของการเจรจาภาษีสหรัฐทั่วโลก รวมถึงการต่อรองการค้าไทยกับสหรัฐฯ เป็นหลัก รวมถึงปัจจัยใหม่ที่เข้ามาคือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดความบานปลาย สถานการณ์นี้กำลังถูกจับตามองจากสื่อระหว่างประเทศ และอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศในระยะยาวและสร้างปัจจัยเสี่ยงเพิ่ม DOWNSIDE GDP ไทยในช่วงครึ่งหลังปี 68 เป็นต้นไป จากตัวเลข NET EXPORTS (การค้าระหว่างประเทศ) ที่มีสัดส่วนราว 5% ของ GDP โดยกัมพูชามีดุลการค้ากับไทยราว 8 พันล้านเหรียญฯ ณ ปี 2567 (ไทยเกินดุลการค้ากับกัมพูชาเป็นอันดับ 2) หากพิจารณา 10 […]

ส่งออกไทย มิ.ย.ขยายตัว 15.5% คาด ก.ค.ชะลอตัวจากภาษีทรัมป์

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – ส่งออกไทยเดือน มิ.ย.ขยายตัว 15.5% คาด ก.ค.ชะลอตัวจากภาษีทรัมป์ และเงินบาทแข็งค่า โดยส่งออกไทยครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ 15.0 เหตุผลหลักผู้นำเข้าสหรัฐฯ เร่งนำเข้าสินค้าจากไทยปิดความเสี่ยงผลกระทบภาษี นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ แถลงการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่า 28,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (938,533 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ที่ร้อยละ 15.5 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 15.6 การชะลอการใช้มาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้นำเข้าในสหรัฐฯ เร่งนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้นเพื่อปิดความเสี่ยงด้านราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเติบโตได้ดี ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัล ขณะที่สินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะผลไม้สดและแช่แข็งฟื้นตัวกลับมาได้ดีในเดือนนี้ เช่นเดียวกับ มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม น้ำตาลทราย ไก่แปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยง ต่างขยายตัวในเดือนนี้ ทั้งนี้ การส่งออกครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ […]

“ภูมิธรรม” สั่งดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.น่าน เต็มที่

ทำเนียบ 24 ก.ค.-“ภูมิธรรม” สั่งการเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม ใน จ.น่าน อย่างเต็มที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการประชุมวอร์รูมร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) ติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากผลกระทบพายุโซนร้อนวิภา รวมถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยให้ตั้งหน่วยดูแลสถานการณ์และทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ขณะนี้โรงพยาบาลได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยแล้ว และยืนยันรัฐบาลเตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว มีการติดตั้งเครื่องจักรกลสาธารณะภัยขนาดใหญ่ในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เหตุที่เกิดขึ้นเป็นภัยธรรมชาติ ซึ่งพยายามจะหาทางแก้ไขให้ดีที่สุด นายภูมิธรรม ย้ำว่า ขอให้ไม่ต้องกังวล ทุกข์ของประชาชนคือทุกข์ของรัฐบาลเช่นกันเพราะฉะนั้นจะดำเนินการให้ดีที่สุด.-315.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เผยอยู่ระหว่างทบทวนตามกฎเกณฑ์ ตัดงบท้องถิ่น 4.2 หมื่นล้านบาท

กทม. 24 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ย้ำการตัดงบท้องถิ่น 4.2 หมื่นล้านบาท ยังอยู่ระหว่างการทบทวนตามกฎเกณฑ์ เพื่อความเหมาะสม พร้อมคำนึงถึงผลกระทบต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 10/2568 งบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท จะทบทวนงบประมาณท้องถิ่น 4.2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาทุนมนุษย์ ว่า คณะกรรมการที่ดูแลรับผิดชอบได้ดำเนินการตามที่เห็นสมควรตามกฎเกณฑ์ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยจะต้องทบทวน ว่าจะสามารถชี้แจงหรือแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของงบประมาณได้อย่างไร หากสามารถแก้ไขได้ก็จะดำเนินการ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกติกาและความถูกต้อง เหมาะสม ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการตัดงบของท้องถิ่นแต่อย่างใด เพียงแต่อยู่ระหว่างการทบทวน เท่าที่รับทราบก็มีเหตุมีผลมากพอสมควร อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหานั้นๆ ด้วย ส่วนที่นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าจะนำงบประมาณส่วนนี้ไปจัดการเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐ นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า เรื่องนี้ต้องถามนายเผ่าภูมิ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้สรุป และจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าเป็นเหตุมาจากพรรคภูมิใจไทย ทำให้ต้องตัดงบท้องถิ่นหรือไม่ แต่การจัดการงบประมาณต้องคำนึงถึงความเหมาะสม.-315.-สำนักข่าวไทย

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

พล.อ.ณัฐพล ยันทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน

ทำเนียบ 24 ก.ค.-พล.อ.ณัฐพล ยันทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน เตรียมถก ศบ.ทก. มอบความชอบธรรมให้กองทัพใช้อำนาจ ย้ำยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน เผย “ภูมิธรรม” เตรียมหารือ ผบ.เหล่าทัพ บ่ายนี้ใช้มาตรการตอบโต้ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการรายงานว่าเกิดเหตุปะทะที่ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดอุบราชธานี ว่า ถ้าถึงขั้นนี้ก็คงไม่พูดคุยกันแล้ว เพราะที่ผ่านมาเราพยายามให้กัมพูชาพูดคุยแบบทวิภาคีแก้ปัญหาด้วยกระบวนการที่มีอยู่ และเสนอให้ทั้งสองฝ่ายเคลื่อนกำลังออกจากบริเวณชายแดน เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ที่มีการกระทบกระทั่งกันได้ เพราะที่ผ่านมาจากประสบการณ์ของตนทหารกัมพูชาไม่ค่อยมีวินัยและยั่วยุ แต่ฝ่ายผู้บังคับบัญชาระบุว่ายึดแนวทางสันติ ทั้งนี้ จากเหตุการณ์เมื่อวานตนได้หารือกับทางกองทัพและตัดสินใจ ว่าจะมอบอำนาจให้กับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในการอำนวยการยุทธ์ ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ปี 2539 และหลังจากการหารือทางแม่ทัพภาคที่สอง ได้ขอวางลวดหนามในพื้นที่ที่ฐานกัมพูชาล้ำเข้ามา เพราะนอกจากเข้ามาแล้วก็ยังประสงค์ร้ายกับฝ่ายไทยด้วย ซึ่งเหตุการณ์เมื่อเช้าได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ขณะนี้กัมพูชามีการปฏิบัติการอยู่ และเมื่อเวลา 8.20 น. ฝ่ายไทยได้ไปวางลวดหนาม แต่ฝ่ายกัมพูชาได้ยิงกลับมา หลังจากนี้จะต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉินอะไรหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี ทางบัญชาการกองทัพไทยสามารถดำเนินได้ตามกฏหมายตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม มาตรา 39 ซึ่งผู้บัญชาการเหล่าทัพจะหารือกันในช่วงเช้าวันนี้ โดยหลังจากนี้ตนจะของดให้สัมภาษณ์ […]

“ภูมิธรรม” เรียกถก สมช. บ่ายวันนี้ ยันทำดีที่สุดตาม กม.ระหว่างประเทศ

ทำเนียบ24 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เรียกถก สมช. บ่ายวันนี้ หลังเกิดเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา ยันทำดีที่สุด ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องอธิปไตย ย้ำต้องระมัดระวังและรอบคอบ ขอรอฟังรายละเอียดหลังประชุม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ ปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ว่าได้รับทรายรายงานเมื่อประมาณ 08.00 น. ที่ผ่านมา มีเสียงปืนเกิดขึ้น ขณะนี้กำลังเข้าไปดูรายละเอียด และ พื้นที่กำลังทำงาน แต่ขอทราบรายละเอียดก่อนว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้ต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบ และต้องปฏิบัติตามหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ ขออนุญาตยังไม่อยากพูดอะไรที่มากไปว่านี้ ขอให้สื่อมวลชนทั้งหมดระมัดระวังเรื่องการเสนอข่าว เพราะจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ตลอดเวลา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ ศบ.ทก. และ ผบ.ทบ. ประชุม ผู้นำเหล่าทัพอยู่ และตนเองจะเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในช่วงเวลา 14.00 น. เมื่อถามว่า สถานการณ์เริ่มตึงเครียดต้องทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เพิ่มเติมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนกฎการใช้กำลัง ต้องขออนุญาตมาทางรัฐบาลหรือไม่ […]

น่าน จมบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check :  เตือน ! ห้ามใช้ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย อันตราย จริงหรือ ?

บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ 22 กรกฎาคม 2568 ตามที่มีการแชร์เตือนผู้ใช้งานรถยนต์ว่า ห้ามใช้งานอุปกรณ์เสียบหลอกเข็มขัดนิรภัย เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้นั้น สรุป : จริง แชร์ได้ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ นายสุรมิส เจริญงาม นักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ (สัมภาษณ์เมื่อ 14 พฤษภาคม 2568) ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย “อันตราย” ที่คุณอาจไม่เคยรู้ “แค่เสียบไว้ไม่ให้เสียงเตือนดัง” คือเหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้หลายคนเลือกใช้อุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ตัวหลอกเข็มขัดนิรภัย” โดยไม่เคยตระหนักว่าอุปกรณ์ที่ดูไม่มีพิษสงชิ้นนี้ จะสามารถเปลี่ยนอุบัติเหตุธรรมดาให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมถึงชีวิตได้ในพริบตา บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ และไขข้อข้องใจว่าทำไมการ “ไม่คาดเข็มขัด” ถึงอันตรายยิ่งกว่า เมื่อมีอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่ในรถของคุณ Airbag และ เข็มขัดนิรภัย คู่หูที่ต้องทำงานร่วมกัน ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าระบบความปลอดภัยในรถยนต์สมัยใหม่ถูกออกแบบมาให้ทำงานประสานกัน โดยเฉพาะ ถุงลมนิรภัย (Airbag) และ เข็มขัดนิรภัย (Seatbelt) ระบบทั้งสองนี้จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อผู้ขับขี่และผู้โดยสาร “คาดเข็มขัดนิรภัย” เท่านั้น […]

1 514 515 516 517 518 34,748