“โรม” ประณามรัฐบาลกัมพูชา เหตุปะทะเดือดไทย-กัมพูชา

รัฐสภา 24 ก.ค.-“โรม” ประณามรัฐบาลกัมพูชา เหตุปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา ไทยต้องแจ้งนานาประเทศทราบ ห่วงประชาชน กลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบ ชี้ “ฮุนเซน” อายุเยอะ คาดใช้แผนยั่วไปโฆษณาว่าชนะไทย รัฐบาลต้องรักษาศักดิ์ศรีประเทศ ด้วยการตอบโต้ตามเหตุจำเป็น

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ล่าสุดเกิดการใช้อาวุธและการประทะกันแล้วว่าอยากใช้โอกาสนี้ในการประณามรัฐบาลกัมพูชา คิดว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นการยั่วยุการใช้ความรุนแรงการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา โดยใช้ระเบิดในลักษณะที่เป็นกับดักซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่ควรมีการใช้อีกแล้วคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่ก้าวร้าวที่ยอมรับไม่ได้ดังนั้นประเทศไทยก็คงต้องประณามการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาที่ดำเนินการให้เรื่องนี้เกิดขึ้นซึ่งตนเชื่อว่าการที่รัฐบาลกัมพูชาจะต้องมีส่วนรู้เห็น การกระทำนี้อย่างแน่นอน มองว่ากัมพูชาควรที่จะเข้าใจกว่าหลายประเทศด้วยซ้ำว่าความร้ายแรงเน้นเรื่องกับดักระเบิดเป็นอย่างไรว่าชาวบ้านและ คนกัมพูชาได้รับความสูญเสียในเรื่องกับดักระเบิดนี้มาเป็นเวลานานกัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้มากที่สุดแต่กลับใช้พฤติกรรมนี้ กับฝ่ายไทยดังนั้นต้องยอมรับว่าการที่จะพูดคุยเจรจาเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายฝ่ายไทยคงต้อง มีการตอบโต้เรื่องนี้ อย่างเหมาะสม
คิดว่าเบื้องต้น ที่ฝ่ายไทยสามารถดำเนินได้หลังจากที่ได้ชี้แจงต่อทูตทหารต่อหลายประเทศ ที่สามารถทำได้ทันทีคือการสังเกตสถานการณ์โดยเชิญทูตจากประเทศต่างๆร่วมสังเกตการณ์ด้วย เรื่องนี้โลกต้องเห็น และมีข้อมูลที่เพียบพร้อมว่ากัมพูชามีความก้าวร้าวที่จะยั่วยุเพื่อให้สถานการณ์บานปลาย และกระทรวงการต่างประเทศต้องทำงาน เชิงรุกกว่านี้การไปรอเดือนธันวาคมเพื่อหารือในอนุสัญญาออตตาวา เป็นสิ่งที่ช้าเกินไปและมากไปกว่านั้นในสิ่งที่เป็นรูปธรรมคือควรนำเรื่องนี้นำเสนอต่อ UNGA ที่เป็นเวทีสำคัญของสหประชาชาติเพื่อให้ทั่วโลกได้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ


นายรังสิมันต์ กล่าวว่าวันนี้มีการยิงปืนใหญ่แล้วสถานการณ์บานปลายสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบสิ่งนี้ต้องเตรียมความพร้อมเบื้องต้นทราบว่ามีการซักซ้อมในพื้นที่ ที่เชื่อว่ามีความพร้อมแต่ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายไปนานแค่ไหนดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเตรียมความเป็นไปได้เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนทั่วไปและผู้บริสุทธิ์ไม่สมควรได้รับผลกระทบ ต้องหาวิธีรองรับให้มากที่สุดโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง และเด็กที่ต้องหามาตรการรองรับต้องฝากไปถึงรัฐบาลเมื่อมีการขัดกันทางอาวุธเกิดขึ้น กลุ่มเปราะบางประชาชนทั่วไปเค้าควรจะได้รับความปลอดภัย

นายรังสิมันต์ กล่าวว่าการประชุมคณะกรรมาธิการวันนี้เป็นการ ใช้อำนาจเรียกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายหรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แต่เข้าใจว่าบุคคลเหล่านี้ติดภารกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น พลเอก ณัฐพล ที่ติดภารกิจเรื่องการแก้ไขสถานการณ์ และบางท่านที่ไม่เกี่ยวต้องฟังคำอธิบายว่าที่ไม่มาชี้แจงต่อกรรมาธิการด้วยสาเหตุอะไรโดยเฉพาะนางสาวแพทองธาร ชินวัตรที่เป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงที่ต้องยอมรับว่าวันนี้เรื่องคลิปเสียงทำให้ระดับรัฐบาลและรัฐบาลคุยกันไม่ได้วันนี้ต้องยอมรับว่าผู้นำสองคนอาจมีปัญหาส่วนตัว หรือขัดกันระหว่างผลประโยชน์หรือไม่แต่นำไปสู่การทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในครั้งนี้ดังนั้นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่มีทีท่าที่จะหาทางออกได้จึงต้องยอมรับว่าวันนี้บุคคลเหล่านี้ต้องรับผิดชอบ ว่าที่นางสาวแพทองธาน ได้ออกมาพูดก่อนหน้านี้มีประเด็นการชี้แจงต่ออธิการอย่างไร


นอกจากนี้นายรังสิมันต์ ยังฝากไปถึงกระทรวงการต่างประเทศว่า ถ้ากระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่ของตนได้ดีเชื่อว่าจะลดโอกาสความขัดแย้งลงมาได้ซึ่งอาจไม่การันตีร้อยเปอร์เซ็นต์แต่น้อยที่สุดคือถ้ามีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพการใช้อาวุธก็อาจจะลดความสำคัญ ลงมาส่วนตัวคิดว่าไทยควรตอบโต้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่อยากให้ลุกลามบานปลายไปจนถึงการสูญเสีย

เมื่อถามว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะที่กองทัพออกมากล่าวว่าสถานการณ์ เจรจาไม่ได้แล้ว นั้นนายรังสิมันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นการเชิญนักการทูต ไปดูสถานการณ์ในพื้นที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อกำกับกัมพูชาไม่ได้ไม่เป็นไรแต่เราคุยกับโลกได้ ดังนั้นการพูดคุยกับต่างประเทศให้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความจำเป็นและต้องไล่สถานการณ์จากเบาหาหนักพร้อมกับการหาวิธีรองรับไม่ให้พลเรือนได้รับผลกระทบ และสุดท้ายสถานการณ์จะไปไปถึงไหน คงตอบไม่ได้ว่ากัมพูชาจะยั่วยุและใช้ความรุนแรงไปถึงเมื่อไหร่แต่ดูแล้วท่าทีของสมเด็จฯ ฮุนเซนต์พร้อมทำทุกอย่าง จึงต้องยอมรับว่าการพูดคุยกับสมเด็จฯ ฮุนเซนต์ ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่การคุยกับโลกและประเทศต่างๆเป็นเรื่องที่สำคัญสูงสุด

เมื่อที่ผ่านมากัมพูชาเริ่มการยั่วยุก่อน ส่วนนี้จะเข้าทางของกัมพูชาหรือไม่นายรังสิมันต์กล่าว คงเป็นไปไม่ได้ที่ไทยจะไม่ตอบโต้อะไรเลย ต้องยอมรับตรงไปตรงมาว่ากัมพูชาต้องการอะไร กัมพูชาต้องการ พาไทยไปศาลโลก ประเด็นสำคัญคือเมื่อทหารได้รับบาดเจ็บต้องใช้โอกาสนี้ในการแสดงความเสียใจต่อผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวส่วนนี้ไทยคงต้องตอบโต้ต่อไปและต้องยืนยันกับโลกว่าไทยไม่ได้รังแกกัมพูชาแต่กัมพูชามีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวไม่เหมาะสมละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ


ส่วนมาตรการคอลเซ็นเตอร์รัฐบาลต้องกระตุ้นมากกว่านี้ คงต้องเอาทุกทางเท่าที่จะทำได้ และต้องตอบโต้ภัยคุกคามที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่าสิ่งที่กัมพูชาทำอีกนิดจะกลายเป็นการก่อการร้ายแล้วเป็นพฤติกรรมที่แย่มากคงต้องประณามในสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องอาศัยยาหลายตัวไม่มีตัวไหนที่จะหยุดยั้งความบ้าคลั่งของผู้นำกัมพูชาได้

“ฮุนเซน เขาอายุเยอะแล้วเค้าคิดว่าการใช้วิธีแบบนี้ พูดง่ายๆคือเขาต้องการ ไปโฆษณาชวนเชื่อว่าเห็นไหมว่าเขาชนะประเทศไทยการที่เขามีวิธีคิดแบบนี้จึงพยายามทำทุกทางโดยที่ไม่สนใจว่าความสูญเสียจะเป็นอย่างไรเมื่อเราเท่าทันสถานการณ์รู้ว่ากัมพูชาต้องการอะไรแท็กทริกนี้สิ่งสำคัญคือถ้าทำให้ทั่วโลกเข้าใจว่ากัมพูชามีพฤติกรรมอย่างไรอย่างไรมีปัญหาเรื่องคอลเซ็นเตอร์อย่างไรคิดว่าเราจะแสวงหาพันธมิตรจำนวนมากในการทำให้กัมพูชาเห็นว่าวิธีการที่กัมพูชาทำมันไม่ได้อะไร”

นายรังสิมันต์ ยังฝากไปถึงรัฐบาลอีกว่า เราต้องคิดว่าเราจะชนะสงครามอย่างไร แน่นอนว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ใช่สงคราม แต่การจะเอาชนะอย่างไร ไม่ใช่เฉพาะเรื่องศึกในศึกหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องเห็นถึงภาพรวมว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกัมพูชาจะไม่ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ ขณะเดียวกันไทยก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีของประเทศการตอบโต้ตามความจำเป็นและเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]