สหรัฐโจมตีเรือขนยาเสพติดจากเวเนซุเอลาอีกครั้ง คร่า 3 ชีวิต

วอชิงตัน 16 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววันจันทร์ว่า กองทัพสหรัฐโจมตีเรือต้องสงสัยว่าเป็นของขบวนการค้ายาเสพติดจากเวเนซุเอลา ซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่สหรัฐ นับเป็นการโจมตีเรือขนยาเสพติดครั้งที่สองในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นายทรัมปฺ์ระบุด้วยว่ามีชาย 3 คนเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในน่านน้ำสากล นายทรัมป์ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ ยืนยันว่าเรือลำดังกล่าวบรรทุกยาเสพติด นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางแอปพลิเคชัน “ทรูธโซเชียล” (Truth Social) ของเขาว่า กองกำลังทหารสหรัฐโจมตีกลุ่มค้ายาเสพติดที่มีความรุนแรงอย่างยิ่ง ครั้งที่ 2 ตามคำสั่งการของเขา ซึ่งคนร้ายถูกระบุตัวได้อย่างชัดเจนในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยบัญชาการทหารสหรัฐภาคใต้ หรือ “เซาท์คอม” (SOUTHCOM) นายทรัมป์กล่าวเสริมว่ากลุ่มค้ายาเสพติดที่มีความรุนแรงอย่างยิ่งเหล่านี้ เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ นโยบายต่างประเทศ และผลประโยชน์ที่สำคัญของสหรัฐ สำหรับเซาท์คอมเป็นหน่วยบัญชาการรบที่ดูแลพิ้นที่ 31 ประเทศในอเมริกาใต้ อเมริกากลาง และแคริบเบียน ในโพสต์ทางสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว นายทรัมป์ยังเผยแพร่ตลิปวิดีโอความยาวเกือบ 30 วินาที ซึ่งมีข้อความ “ไม่เป็นความลับ” (Unclassified) ที่ด้านบน ปรากฏภาพเรือลำหนึ่งกำลังระเบิดและลุกไหม้ในทะเล นายทรัมป์กล่าวในเวลาต่อมาว่า สหรัฐมีหลักฐานแล้ว โดยมีการพบสินค้าที่กระจัดกระจายไปทั่วมหาสมุทร มีถุงโคเคนและเฟนทานิลขนาดใหญ่อยู่เต็มไปหมด นายทรัมป์ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ปฏิบัติการอาจขยายไปสู่การโจมตีทางบกกับผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดด้วย การโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้นท่ามกลางการเสริมกำลังทางทหารของสหรัฐครั้งใหญ่ในแถบทะเลแคริบเบียนตอนใต้ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา […]

อังกฤษคุมเข้มความปลอดภัยก่อน ‘ทรัมป์’ เยือนพรุ่งนี้

ลอนดอน 16 ก.ย. – อังกฤษเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ก่อนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐและนางเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่ง จะเริ่มต้นการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นการเดินทางเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการครั้งที่สองของทรัมป์ ตำรวจอังกฤษลาดตระเวนบริเวณน่านน้ำใกล้พระราชวังวินด์เซอร์เมื่อวานนี้ ขณะที่มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ก่อนการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการของนายทรัมป์และนางเมลาเนียในสัปดาห์นี้ โดยในระหว่างการเยือนวันพุธนี้ ทรัมป์และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะได้รับการต้อนรับด้วยพิธีการสุดหรูตามธรรมเนียมของราชวงศ์อังกฤษ รวมถึงการนั่งขบวนรถม้า การจัดเลี้ยงอย่างเป็นทางการ (state banquet) การบินผ่านของเครื่องบินทหาร (flypast) และการยิงสลุต เรียกได้ว่าไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐคนใดได้รับเชิญในลักษณะนี้มาก่อน เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง จะได้รับเชิญให้ร่วมดื่มชาหรือรับประทานอาหารกลางวันกับพระประมุขเท่านั้น รัฐบาลอังกฤษหวังว่า “พลังที่นุ่มนวล” (soft power) ของราชวงศ์จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับทรัมป์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐในด้านการป้องกันประเทศ ความมั่นคง และพลังงาน โดยก่อนหน้านี้ ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทแล้วส่วนในวันพฤหัสบดี นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำสหรัฐที่บ้านพักในชนบท “เช็คเกอร์ส” (Chequers) เพื่อหารือความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญ เช่น สถานการณ์ในยูเครน และการผลักดันให้สหรัฐฯ ปรับลดภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมตามที่เคยให้คำมั่นไว้ นายทรัมป์เดินทางเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2562 ตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ซึ่งตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และตรงกับช่วงที่เทเรซา […]

‘เนทันยาฮู’ ไม่ปฏิเสธโจมตีผู้นำฮามาสอีก

เทลอาวีฟ 16 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลยืนยันระหว่างการประชุมร่วมกับนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐว่า จะยังเดินหน้าโจมตีผู้นำกลุ่มฮามาสเพิ่มอีกหากมีโอกาส นายเนทันยาฮูไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการโจมตีผู้นำกลุ่มฮามาสเพิ่มเติม หลังจากเหตุโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในกาตาร์ โดยระบุว่าผู้นำฮามาสจะไม่มีทางปลอดภัยหรือได้รับการคุ้มกันไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน โดยในการแถลงข่าวร่วมที่นครเยรูซาเลมกับรูบิโอ นายเนทันยาฮูกล่าวว่า ทุกประเทศมีสิทธิ์ในการป้องกันตนเองเกินขอบเขตพรมแดนของตนได้ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการโจมตีครั้งนั้นมีสหรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ เนทันยาฮูตอบว่าการตัดสินใจทั้งหมดเป็นของอิสราเอล ส่วนรูบิโอ ได้เรียกร้องให้กาตาร์ยังคงมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการแก้ไขความขัดแย้งในฉนวนกาซา ย้ำว่ากาตาร์ยังสามารถมีบทบาทช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการปล่อยตัวประกันทั้ง 48 คนที่ยังถูกควบคุมตัวในกาซา การปลดอาวุธกลุ่มฮามาส และการสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา การตัดสินใจของอิสราเอลในการโจมตีผู้นำฮามาสในกาตาร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐ ทำให้เกิดกระแสประณามจากนานาชาติ รวมถึงจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐโดยกลุ่มฮามาสระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 6 คน แต่ผู้นำของกลุ่มรอดชีวิต ขณะที่ถ้อยแถลงของเนทันยาฮูมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากทำเนียบขาวออกมาระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ให้คำมั่นกับกาตาร์ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกบนแผ่นดินของพวกเขา การพบปะของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลและรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเกิดขึ้นขณะที่ผู้นำชาติอาหรับกำลังจัดการประชุมสุดยอดในกรุงโดฮา เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อกาตาร์และตอบโต้การโจมตีของอิสราเอล ซึ่งนายกรัฐมนตรีกาตาร์ได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศยุติพฤติกรรมสองมาตรฐานและดำเนินการลงโทษอิสราเอลในเรื่องนี้.-815.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นระบุเกาหลีเหนือเพิ่มการปราบปรามประชาชน

เจนีวา 12 ก.ย. – รายงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติที่เผยแพร่ในวันศุกร์ ระบุว่า การปราบปรามและควบคุมประชาชนในเกาหลีเหนือได้ทวีความรุนแรงขึ้นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสอดแนมที่เข้มข้นขึ้น การบังคับใช้แรงงานที่ขยายวงกว้าง และการประหารชีวิตที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีการควบคุมจำกัดประชาชนมากที่สุดในโลก รายงานฉบับใหม่ของสหประชาชาตินี้ออกมาหลังจากที่รายงานฉบับประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติเมื่อกว่าสิบปีก่อน ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยรายงานฉบับใหม่นี้ครอบคลุมการพัฒนาตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา และอ้างอิงจากการสัมภาษณ์พยานและเหยื่อกว่า 300 คนที่หลบหนีออกจากประเทศ และรายงานว่าเสรีภาพต่างๆ ได้ลดลงไปอีก รายงานระบุว่า การสอดแนมได้แพร่หลายมากขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ขณะที่บทลงโทษก็รุนแรงขึ้น รวมถึงการนำโทษประหารชีวิตมาใช้สำหรับความผิดต่างๆ เช่น การเผยแพร่ละครโทรทัศน์ของต่างชาติ รายงานความยาว 14 หน้าฉบับนี้ สรุปและระบุว่า ภายใต้กฎหมาย นโยบาย และแนวทางปฏิบัติที่นำมาใช้ตั้งแต่ปี 2015 พลเมืองได้ถูกเฝ้าระวังและควบคุมเพิ่มขึ้นในทุกส่วนของชีวิต ไม่มีประชากรชาติใดในโลกปัจจุบันที่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม รายงานยังพบข้อดีที่อยู่ในวงจำกัดบางประการ เช่น การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ในสถานที่ควบคุมตัวลดลง และมีการออกกฎหมายใหม่ที่ดูเหมือนจะช่วยเพิ่มการรับรองการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม.-813.-สำนักข่าวไทย

จีนออกกฎหมายปรับปรุงสาธารณสุข-ถอดบทเรียนจากโควิด

ปักกิ่ง 12 ก.ย. – สภาประชาชนแห่งชาติของจีนได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่งในวันนี้ เพื่อให้การรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยให้อำนาจประชาชนในการรายงานเหตุฉุกเฉินได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านโครงสร้างลำดับชั้นของรัฐบาลตามปกติ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เมืองอู่ฮั่นของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงแรก ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการล่าช้าในการรายงานการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงปลายปี 2019 จักษุแพทย์คนหนึ่งในโรงพยาบาลที่เมืองอู่ฮั่น เคยแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ในช่วงต้นปี 2020 แต่กลับถูกตำรวจท้องถิ่นตักเตือนฐาน “เผยแพร่ข่าวลือ” โดยเขาเสียชีวิตในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ซึ่งจุดชนวนให้เกิดคลื่นความโศกเศร้าและความไม่พอใจในหมู่ประชาชน นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 รัฐบาลจีนได้กำหนดให้ท้องถิ่นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และปรับปรุงการตรวจจับและควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงต้น ตามร่างกฎหมายนี้ระบุว่า บุคคลหรือหน่วยงานใดก็ตามที่พบภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข สามารถรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปยังรัฐบาลท้องถิ่นหรือหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนระดับกลาง นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังระบุว่า หลังจากเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขึ้น รัฐบาลประจำเขตที่เกิดเหตุควรเริ่มดำเนินการรับมือทันที และสามารถรายงานไปยังหน่วยงานที่สูงขึ้นได้หากจำเป็น ในช่วงการรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข รัฐบาลท้องถิ่นระดับเขตขึ้นไปควรให้บริการทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน ดูแลเป็นพิเศษ และรับประกันว่าผู้คนจะได้รับการรักษาพยาบาล ตามข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก นับจนถึงสิ้นปี 2023 มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกสูงถึง 21 ล้านคน ซึ่งเกินกว่ายอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการที่ประมาณ 7 ล้านคน.-813.-สำนักข่าวไทย

แรงงานเกาหลีใต้กลับถึงบ้าน หลังถูกบุกจับในสหรัฐ

อินชอน 12 ก.ย. – แรงงานชาวเกาหลีใต้ประมาณ 300 คน ได้เดินทางกลับถึงเกาหลีใต้แล้วในวันศุกร์ หลังจากถูกควบคุมตัวจากการบุกตรวจค้นครั้งใหญ่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐ ที่ไซต์งานโครงการผลิตแบตเตอรี่ในรัฐจอร์เจียของสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แรงงานที่สวมหน้ากากอนามัยทยอยลงจากเครื่องบินเช่าเหมาลำที่สนามบินอินชอน โดยมีเจ้าหน้าที่ รวมถึงหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดี คอยต้อนรับอย่างอบอุ่น การเดินทางกลับบ้านครั้งนี้เป็นผลมาจากการเจรจาอย่างเข้มข้นตลอดสัปดาห์ของรัฐบาลเกาหลีใต้ เพื่อให้แรงงานได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับประเทศ หลังจากที่พวกเขาถูกจับกุมโดยใส่กุญแจมือและล่ามโซ่ ซึ่งสร้างความตกใจให้กับชาวเกาหลีใต้ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐอย่างมาก ธุรกิจของเกาหลีใต้ประสบปัญหามาอย่างยาวนานในการขอวีซ่าที่เหมาะสมสำหรับแรงงานผู้เชี่ยวชาญที่จำเป็นในไซต์งานเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้แรงงานบางส่วนต้องพึ่งพาช่องโหว่ในการบังคับใช้วีซ่าของสหรัฐ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ที่เดินทางไปเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ กล่าวว่า ทั้งสองประเทศกำลังพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาวีซ่าประเภทใหม่สำหรับชาวเกาหลีใต้ แรงงานที่เดินทางกลับครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงชาวจีน 10 คน ชาวญี่ปุ่น 3 คน และชาวอินโดนีเซีย 1 คน ได้รับการต้อนรับจากสมาชิกในครอบครัวและเจ้าหน้าที่จากบริษัท แอลจี เอนเนอจี โซลูชัน (LG Energy Solution) รวมถึงบริษัทผู้รับเหมาช่วง บริษัทแบตเตอรี่ดังกล่าวเป็นพันธมิตรกับบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) ในการสร้างโรงงานที่รัฐจอร์เจีย การบุกตรวจค้นไซต์ก่อสร้างครั้งนี้สร้างความตกใจอย่างยิ่งให้กับชาวเกาหลีใต้ และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ในช่วงเวลาที่กำลังจะสรุปข้อตกลงทางการค้า ซึ่งรวมถึงกองทุนเพื่อการลงทุนมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐ […]

กรุงปักกิ่งติดอันดับ ‘เมืองท่องเที่ยว’ ชั้นนำของโลก

ปักกิ่ง 12 ก.ย. — รายงานจากการประชุมโลกด้านความร่วมมือและการพัฒนาทางการท่องเที่ยว (World Conference on Tourism Cooperation and Development) ปี 2025 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาระบุว่า กรุงปักกิ่งของจีนจัดอยู่ในกลุ่มเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลกด้วยจุดแข็งรอบด้าน รายงานการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวโลก (ปี 2024-2025) ซึ่งเป็นรายงานหลักของสหพันธ์เมืองท่องเที่ยวโลก (WTCF) ที่เผยแพร่เป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2014 ได้จัดให้กรุงปักกิ่งอยู่อันดับ 7 ของโลกตามการประเมินอย่างรอบด้าน ทำให้กรุงปักกิ่งขยับขึ้นมาหนึ่งอันดับจากการประเมินครั้งก่อน ส่วนนครเซี่ยงไฮ้ครองอันดับ 9 และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงครองอันดับ 11 ขณะสามอันดับแรกของการประเมินครั้งนี้ ได้แก่ มหานครนิวยอร์ก กรุงโตเกียว และกรุงปารีส สำหรับห้าเมืองของจีนได้แก่ มาเก๊า ฮ่องกง หางโจว เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 10 อันดับแรกของโลกในด้านความอัจฉริยะของเมือง ซึ่งตอกย้ำความก้าวหน้าของจีนในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และการบริการการท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) นอกจากนั้นกรุงปักกิ่งครองอันดับ 5 ในรายงานดัชนีศักยภาพการแข่งขันจุดหมายท่องเที่ยวโลก (ปี […]

เจ้าชายแฮร์รีเสด็จเยือนยูเครน

ลอนดอน 12 ก.ย. – หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้ว่า เจ้าชายแฮร์รีแห่งสหราชอาณาจักร เสด็จเยือนยูเครนในวันศุกร์ โดยเสด็จถึงกรุงเคียฟพร้อมกับทีมงานจากมูลนิธิอินวิคตัสเกมส์ (Invictus Games Foundation) ของพระองค์เพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการของมูลนิธิ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลในการช่วยเหลือฟื้นฟูทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ เสด็จยูเครนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่พระองค์เคยเสด็จไปเยี่ยมศูนย์สำหรับบุคลากรทางทหารที่ได้รับบาดเจ็บในเมืองลวิฟเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าชายแฮร์รี พระโอรสองค์เล็กของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 เคยทรงรับราชการในกองทัพบกอังกฤษเป็นเวลา 10 ปี ก่อนที่จะทรงก่อตั้งมูลนิธิอินวิคตัสเกมส์ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่จัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติสำหรับบุคลากรทางทหารที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เจ้าชายแฮร์รีตรัสกับเดอะการ์เดียนบนรถไฟระหว่างการเดินทางช่วงกลางคืนไปยังกรุงเคียฟว่า แม้ไม่สามารถสามารถหยุดยั้งสงครามได้ แต่สิ่งที่สามารถทำได้คือทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยในกระบวนการฟื้นฟู พระองค์ตรัสว่าได้รับเชิญให้เดินทางไปเยือนเมืองหลวงโดยรัฐบาลยูเครน และได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอังกฤษและจากพระชายาของพระองค์ก่อนที่จะเดินทางในครั้งนี้ การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงท้ายของการเสด็จเยือนสหราชอาณาจักรเป็นเวลาสี่วันของเจ้าชายแฮร์รี จากที่ประทับในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งพระองค์ประทับอยู่กับเมแกน พระชายา และพระโอรสและพระธิดาทั้งสองพระองค์ นับตั้งแต่ทรงถอนตัวจากการเป็นสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์ในปี 2020 ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแฮร์รีกับพระบิดาของพระองค์ได้ตึงเครียดขึ้นหลังจากที่พระองค์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ทั้งสองพระองค์ได้ทรงพบกันเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

คาดมีการแต่งตั้ง รก.นายกฯ เนปาลวันนี้

กาฐมาณฑุ 12 ก.ย. – แหล่งข่าวในกลุ่มผู้ประท้วง “เจนซี” (Gen Z) ในเนปาลเผยจะมีการแต่งตั้งรักษาการนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ขณะที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการยุบสภาด้วย แหล่งข่าวในกลุ่มผู้ประท้วง Gen Z เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่านางสุชีลา คาร์กี อดีตประธานศาลฏีกาวัย 73 ปีจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการในวันนี้ ตามข้อเสนอของกลุ่มผู้ประท้วง หลังจากมีการประชุมกันที่ทำเนียบประธานาธิบดีระหว่างประธานาธิบดีกับนางการกีและผู้บัญชาการกองทัพ โดยมีตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าร่วมด้วย คาดว่าการแต่งตั้งน่าจะมีขึ้นในช่วงสายวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อวานนี้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังเรียกร้องให้มีการยุบสภาด้วย โดยจะไม่ยุบรัฐธรรมนูญแต่ยอมรับว่าอาจจะต้องมีการแก้ไขในบางมาตรา แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ ด้านประธานาธิบดีรามจันทรา เพาเดล ออกแถลงการณ์ระบุว่ากำลังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่ยากลำบากภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องประชาธิปไตย รักษาสันติภาพและความสงบเรียบร้อย โดยขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่าจะต้องมีทางออกในการแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด สถานการณ์ในกรุงกาฐมาณฑุวันนี้เริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้ว โรงเรียนและร้านค้าเริ่มกลับมาเปิดทำการ ทหารยังคงลาดตระเวนตามที่ต่างๆ แต่มีจำนวนลดน้อยลงกว่าวันก่อน ขณะที่ถนนบางสายยังถูกปิด ด้านโฆษกสนามบินเปิดเผยว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศกลับมาให้บริการได้แล้ว ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 34 คนและมีผู้บาดเจ็บกว่า 1,300 คน.816.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐเผยภาพและตั้งค่าหัวมือยิง ‘ชาร์ลี เคิร์ก’

ยูทาห์ 12 ก.ย. – สหรัฐเดินหน้าตามล่ามือสังหารชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวคนดัง ซึ่งล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพของผู้ต้องสงสัยพร้อมกับตั้งรางวัลนำจับให้แก่ผู้ที่ให้เบาะแส สำนักงานความปลอดภัยสาธารณะของรัฐยูทาห์ และสำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอได้เผยแพร่ภาพถ่ายของผู้ต้องสงสัยว่าเป็นมือปืนยิงนายชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวสายอนุรักษ์นิยมซึ่งให้การสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ภาพถ่ายที่นำออกเผยแพร่เป็นชายผิวขาวรูปร่างผอมเพรียวสวมชุดสีดำ สะพายเป้หลัง สวมหมวกแก๊ป แว่นกันแดด รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส และที่หน้าอกเสื้อมีรูปนกอินทรีอยู่บนธงชาติสหรัฐ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ามือปืนเดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยยูทาห์วัลเลย์ ในเมืองโอเรมไม่กี่นาทีก่อนที่งานจะเริ่มขึ้น ซึ่งในงานดังกล่าวเคิร์กเป็นผู้นำการอภิปรายท่ามกลางผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 3,000 คน ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพมือยิงเดินขึ้นบันไดไปยังดาดฟ้าของอาคารก่อนจะลั่นกระสุนสังหาร โดยกระสุนเจาะเข้าที่คอของเคิร์ก ต่อหน้าผู้ร่วมงานที่หนีตายกันจ้าละหวั่น นอกจากน้ันยังมีการเปิดเผยคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เป็นภาพของมือปืนวิ่งอยู่บนดาดฟ้าก่อนจะไต่ลงมาและวิ่งข้ามถนนหลบหนีเข้าไปในป่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบอาวุธปืนยาวถูกทิ้งอยู่ในป่าไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ พร้อมกันนี้เอฟบีได้ได้ตั้งรางวัล 1 แสนดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3 ล้าน 2 แสนบาทสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสในการนำจับมือปืน จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้หารือถึงมูลเหตุจูงใจในการสังหารเคิร์ก แต่ประธานาธิบดีทรัมป์บอกว่าเขามีหลักฐานบ่งชี้แรงจูงใจของฆาตกรแล้ว และจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง และว่าการสอบสวนของเจ้าหน้าที่มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ผู้นำสหรัฐยังกล่าวด้วยว่าเขาจะมอบเหรียญอิสรภาพแห่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุดสำหรับพลเรือนของสหรัฐให้แก่เคิร์ก และยืนยันว่าจะไปร่วมงานศพด้วย ขณะที่รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ได้ยกเลิกภารกิจไปร่วมงานรำลึกเหตุวินาศกรรมครั้งใหญ่ 11 กันยายนที่นครนิวยอร์ก และได้เดินทางไปยังรัฐยูทาห์เพื่อให้กำลังใจครอบครัวเคิร์กพร้อมทั้งพาพวกเขาและนำร่างของเคิร์กเดินทางกลับบ้านที่รัฐแอริโซนาด้วยเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ ฟอร์ซ ทู.-816.-สำนักข่าวไทย

เรือบรรทุกเครื่องบินใหม่ของจีนล่องผ่านช่องแคบไต้หวัน

ปักกิ่ง 12 ก.ย. – เรือบรรทุกเครื่องบิน “ฝูเจี้ยน” ที่ทันสมัยที่สุดของจีนล่องผ่านช่องแคบไต้หวันและเข้าสู่ทะเลจีนใต้ เพื่อทำการทดสอบในทะเลและอาจจะเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าประจำการอย่างเป็นทางการ กองทัพเรือจีนแถลงวันศุกร์ว่า การเดินทางครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และภารกิจการฝึกซ้อม โดยเรือ “ฝูเจี้ยน” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 3 ของจีน และเริ่มการทดสอบในทะเลเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าประจำการอย่างเป็นทางการ แถลงการณ์ของกองทัพเรือจีนระบุว่าการทดสอบและฝึกซ้อมข้ามภูมิภาคของเรือ “ฝูเจี้ยน” ครั้งนี้เป็นกิจวัตรตามปกติในขั้นตอนการสร้างเรือ และไม่ได้มุ่งเป้าไปที่เป้าหมายใดๆ เป็นพิเศษ การเดินเรือของเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้มีขึ้นในขณะที่นาวิกโยธินสหรัฐและญี่ปุ่นกำลังซ้อมรบร่วมกันเป็นเวลาสองสัปดาห์บนเกาะโอกินาวาที่อยู่ใกล้เคียง โดยใช้ระบบขีปนาวุธไทฟอนและอาวุธต่อต้านเรือที่ทันสมัยอื่นๆ ซึ่งการฝึกซ้อมมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 25 กันยายนนี้ เมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เรือ “ฝูเจี้ยน” ได้เข้าสู่ทะเลจีนตะวันออก โดยแล่นไปทางตะวันตกเฉียงใต้ในทิศทางมุ่งสู่ไต้หวัน พร้อมด้วยเรือพิฆาตติดขีปนาวุธของจีนอีกสองลำ ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวด้วยการใช้การเฝ้าระวังข่าวกรองร่วม และได้ใช้มาตรการที่เหมาะสมแล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของไต้หวันเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เรือ “ฝูเจี้ยน” ซึ่งตั้งชื่อตามมณฑลของจีนที่อยู่ตรงข้ามกับไต้หวัน น่าจะมุ่งหน้าไปยังทะเลจีนใต้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพิธีเข้าประจำการ เรือ “ฝูเจี้ยน” ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นภายในประเทศ ซึ่งมีขนาดใหญ่และทันสมัยกว่าเรือบรรทุกเครื่องบินลำอื่นๆ อย่าง “ซานตง” ที่เข้าประจำการปลายปี 2019 และเรือ “เหลียวหนิง” ที่จีนซื้อต่อมาจากยูเครนเมื่อปี […]

พิธีรำลึก 9/11 ที่อนุสรณ์สถานเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

นิวยอร์ก 12 ก.ย. – พลเมืองสหรัฐร่วมกันรำลึกเหตุการณ์วินาศกรรมครั้งใหญ่ 11 กันยายน 2001 ในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นเวลา 24 ปี หลังจากที่ผู้ก่อการร้ายได้จี้เครื่องบินโดยสารและพุ่งชนอาคารแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์ก และอาคารเพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหม ในกรุงวอชิงตัน ในพิธีที่จัดขึ้นที่อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 11 กันยายนแห่งชาติ ในเขตโลเวอร์แมนฮัตตัน ญาติของผู้เสียชีวิตได้อ่านออกเสียงชื่อของเหยื่อ 2,977 ราย ท่ามกลางผู้เข้าร่วมงานนับพันคน ซึ่งรวมถึงนายเอริค อดัมส์ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก และนางเคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เหตุการณ์โจมตี “ไนน์ อีเลฟเวน” (Nine Eleven) ได้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 3,000 ราย และผลักดันให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในขณะนั้นประกาศ “สงครามต่อต้านการก่อการร้าย” ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางทหารในอัฟกานิสถาน เพื่อตามล่าตัวนายอุซามะ บิน ลาดิน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ซึ่งนายบิน ลาดิน สามารถหลบหนีการจับกุมได้ จนกระทั่งเขาถูกสังหารในปฏิบัติการของสหรัฐในปากีสถาน เมื่อปี 2011 […]

1 7 8 9 10 11 694