โปแลนด์สอยโดรนรัสเซียร่วงในน่านฟ้าตนเอง

วอร์ซอ 10 ก.ย. – โปแลนด์ได้ยิงโดรนที่รุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของตนระหว่างที่รัสเซียปฎิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในพื้นที่ทางตะวันตกของยูเครนในวันพุธที่ผ่านมา โดยโปแลนด์ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เรียกการรุกล้ำครั้งนี้ว่าเป็น “การกระทำที่เป็นการรุกราน” และถือเป็นครั้งแรกที่สมาชิกนาโตยิงต่อสู้ในสงครามนี้ นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ กล่าวว่า มีโดรนของรัสเซียจำนวนมากละเมิดน่านฟ้าของโปแลนด์ และโดรนที่ก่อให้เกิดภัยคุกคามโดยตรงได้ถูกยิงตกไปแล้ว โฆษกของนาโตกล่าวว่า นายมาร์ค รุตเตอร์ เลขาธิการนาโตได้ติดต่อกับผู้นำของโปแลนด์ และนาโตกำลังหารืออย่างใกล้ชิดกับโปแลนด์ กองบัญชาการทหารของโปแลนด์ระบุว่า โดรนได้ละเมิดน่านฟ้าของโปแลนด์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างที่รัสเซียโจมตีฝั่งตะวันตกของยูเครน แต่ปฏิบัติการตอบโต้การละเมิดน่านฟ้าโปแลนด์เหล่านี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยเรดาร์สามารถติดตามวัตถุได้มากกว่า 10 ชิ้น และชิ้นที่อาจเป็นภัยคุกคามก็ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว กองบัญชาการฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า การค้นหาและพยายามระบุตำแหน่งที่อาจเป็นจุดตกของวัตถุเหล่านี้ยังคงดำเนินอยู่พร้อมขอบคุณกองบัญชาการทางอากาศของนาโตและเครื่องบินรบเอฟ-35 ของกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ที่ให้ความช่วยเหลือ ทางการโปแลนด์ขอให้ประชาชนอยู่ในบ้าน พร้อมระบุชื่อภูมิภาค พ็อดลาสคี มาซอเวียตสกี และลูบ-ลิน ว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด นับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครน เริ่มขึ้นในปี 2022 มีเหตุการณ์โดรนของรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของประเทศต่างๆ ที่มีพรมแดนติดกับยูเครนหลายครั้ง รวมถึงโปแลนด์และโรมาเนีย แต่ที่ผ่านมาต่างก็หลีกเลี่ยงการยิงโดรนเหล่านั้นตก เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าการกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายและต้องการที่จะหลีกเลี่ยงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและนาโต ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า รัสเซียใช้โดรน 415 ลำและขีปนาวุธ 40 […]

น้ำท่วมบาหลีในอินโดนีเซีย คร่าชีวิตอย่างน้อย 6 ราย

จาการ์ตา, 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเปิดเผยว่า เกิดเหตุอุทกภัยบนเกาะบาหลี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอินโดนีเซีย ทำใหัมีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 6 รายในสัปดาห์นี้ และยังทำให้ถนนสายหลักในเมืองเดนปาซาร์ เมืองเอกของเกาะบาหลีถูกปิด ทำให้การเดินทางในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต้องหยุดชะงัก หัวหน้าหน่วยงานค้นหาและกู้ภัยของเกาะบาหลี กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันอังคารถึงเช้าวันพุธ ทำให้เกิดอาคารถล่ม 2 แห่งในเมืองเดนปาซาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน ในขณะที่สำนักงานบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติของอินโดนีเซียเปิดเผยในวันพุธว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย และต้องอพยพประชาชน 85 คนในเขตเจ็มบรานาไปยังสถานที่ปลอดภัย หัวหน้าสำนักงานบรรเทาสาธารณภัยกล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องเกาะบาหลีจนถึงวันพุธ การเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติของเกาะซึ่งอยู่ใกล้เมืองเดนปาซาร์เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากมีเพียงรถบรรทุกเท่านั้นที่สามารถใช้เส้นทางได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยประมาณ 200 นายถูกส่งลงพื้นที่ นอกจากนี้ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักยังส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในจังหวัดนูซาเติงการาตะวันออกของอินโดนีเซีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 4 คน.-813.-สำนักข่าวไทย

ทหารเนปาลลาดตระเวนกรุงกาฐมาณฑุหลังการประท้วงรุนแรง

กาฐมาณฑุ 10 ก.ย. – ทหารเนปาลได้ออกลาดตระเวนตามท้องถนนในกรุงกาฐมาณฑุ ท่ามกลางมาตรการเคอร์ฟิวที่ประกาศใช้แบบไม่มีกำหนดในเมืองหลวงของเนปาล หลังจากการประท้วงรุนแรงต่อต้านการทุจริตที่ดำเนินมาสองวันและทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีเคพี ชาร์มา โอลิ ต้องลาออกจากตำแหน่ง เหตุการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ถือเป็นความวุ่นวายที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของเนปาล โดยมีชนวนเหตุมาจากการสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแม้จะมีการยกเลิกคำสั่งในภายหลังแต่การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปและลุกลามรุนแรง โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อควบคุมฝูงชน โฆษกกองทัพเนปาลกล่าวในวันพุธว่า กองทัพกำลังพยายามทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ทหารมุ่งมั่นที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในวันนี้ไม่มีรายงานการประท้วงในเมืองหลวง แต่สื่อท้องถิ่นระบุว่ามีผู้ที่พยายาม “สร้างความวุ่นวาย” บริเวณชานเมืองกาฐมาณฑุประมาณ 25 คนถูกจับกุม อาคารของรัฐบาลหลายแห่ง ตั้งแต่ศาลฎีกาและรัฐสภาไปจนถึงบ้านพักของรัฐมนตรี รวมถึงบ้านพักส่วนตัวของนายโอลิ ถูกเผาทำลายในระหว่าการประท้วงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยสถานการณ์เพิ่งจะสงบลงหลังจากที่นายโอลิประกาศลาออกและมีรายงานในสื่อท้องถิ่นว่า ขณะนี้กำลังมีการเตรียมการเพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงได้เจรจากัน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจน ผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่แสดงความไม่พอใจต่อสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ปัญหาการทุจริตและการส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจ ปัญหาการว่างงานและไม่มีงานให้ทำเป็นสาเหตุให้คนหนุ่มสาวชาวเนปาลหลายล้านคนต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย ตะวันออกกลาง และเกาหลีใต้ โดยส่วนใหญ่ทำงานในไซต์ก่อสร้าง เพื่อส่งเงินกลับบ้าน เนปาลซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอินเดียและจีน ต้องเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจมาตั้งแต่มีการล้มเลิกระบอบกษัตริย์จากการประท้วงในปี 2008 คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอินเดียก็ได้มีการประชุมเมื่อค่ำวันอังคารเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้าน นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในเวลาต่อมาว่า เสถียรภาพ สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเนปาลมีความสำคัญสูงสุด เขาขอเรียกร้องต่อชาวเนปาลทุกคนให้รักษาความสงบเรียบร้อย.-813.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินเกาหลีใต้ออกเดินทางไปรับแรงงานที่ถูกคุมตัวในสหรัฐ

โซล 10 ก.ย. – เครื่องบินของสายการบินเกาหลีใต้ได้ออกเดินทางจากสนามบินอินชอนของเกาหลีใต้แล้วในวันนี้ มุ่งหน้าสู่นครแอตแลนตา สหรัฐ เพื่อรับตัวแรงงานชาวเกาหลีใต้ประมาณ 300 คนที่ถูกควบคุมตัวจากการบุกตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในรัฐจอร์เจียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แรงงานกลุ่มนี้ถูกควบคุมตัวที่ไซต์ก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า มูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง “ฮุนได มอเตอร์” (Hyundai Motor) และ “แอลจี เอนเนอจี โซลูชัน” (LG Energy Solution) สำนักข่าวยอนฮับรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูตที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า แรงงานที่ถูกควบคุมตัวจะเดินทางออกจากสหรัฐ ในเวลาประมาณ 14.30 น. วันพุธตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ หรือ ตรงกับ 01.30 น. ของวันพฤหัสตามเวลาในประเทศไทย นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐมีกำหนดจะพบกับนายโช ฮยอน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ที่ทำเนียบขาวในวันพุธ โดยก่อนออกเดินทางไปวอชิงตันเมื่อวันจันทร์ นายโชกล่าวว่า เขามีแผนที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ซ้ำรอย และกำลังหาทางยืนยันว่าชาวเกาหลีที่เดินทางกลับประเทศครั้งนี้จะสามารถเดินทางกลับเข้าไปยังสหรัฐ ด้อีกครั้งในอนาคต ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐจะเปิดโอกาสให้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและถูกกฎหมายสำหรับบริษัทต่างชาติที่จะนำพนักงานเข้ามาในประเทศ หากบริษัทเหล่านั้นเคารพกฎหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อความดังกล่าวและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบวีซ่าของสหรัฐนางคาโรไลน์ เลวิตต์ […]

‘ทรัมป์’ ไม่ปลื้มอิสราเอลโจมตีกลุ่มฮามาสในกาตาร์

วอชิงตัน 10 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววันอังคารว่าเขาไม่ค่อยปลื้มนักกับการโจมตีของอิสราเอลในกาตาร์ และระบุว่าการตัดสินใจโจมตีครั้งนี้เป็นของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลไม่ใช่การตัดสินใจของเขาเอง พร้อมเสริมว่าการโจมตีแต่เพียงฝ่ายเดียวในกาตาร์นั้นไม่เป็นผลดีต่อผลประโยชน์ของทั้งอเมริกาและอิสราเอล อิสราเอลพยายามสังหารผู้นำทางการเมืองของกลุ่มฮามาสด้วยการใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศในกาตาร์เมื่อวันอังคาร ถือเป็นการยกระดับปฏิบัติการทางทหารในตะวันออกกลางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การโจมตีครั้งนี้ถูกประณามอย่างกว้างขวางทั้งในและนอกภูมิภาคว่าเป็นพฤติกรรมที่อาจทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคที่กำลังเปราะบางอยู่แล้วยิ่งเลวร้ายลงไปอีก นายทรัมป์กล่าวว่าเขาได้สั่งการให้นายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐแจ้งเตือนกาตาร์ล่วงหน้าถึงการโจมตีที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ก็สายเกินไปที่จะหยุดยั้งได้ อย่างไรก็ตามกาตาร์ปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว โดยระบุว่ารายงานที่ว่ากาตาร์ได้รับแจ้งล่วงหน้าก่อนการโจมตีนั้นไม่เป็นความจริง และได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่สหรัฐเมื่อได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นแล้วในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ นายทรัมป์โพสต์ข้อความทางแพลตฟอร์ททรูธ โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของตนเองว่า การทิ้งระเบิดโจมตีแต่เพียงฝ่ายเดียวในกาตาร์ ซึ่งเป็นประเทศอธิปไตยและเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐ ที่ทำงานอย่างหนักและเสี่ยงอันตรายเพื่อเป็นคนกลางในการสร้างสันติภาพนั้น ไม่ได้ส่งเสริมเป้าหมายของอิสราเอลหรืออเมริกาเลย อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังเสริมว่า การกำจัดกลุ่มฮามาสซึ่งแสวงหาผลประโยชน์จากความทุกข์ยากของผู้ที่อาศัยอยู่ในกาซานั้นเป็นเป้าหมายที่คุ้มค่า กลุ่มฮามาสเปิดเผยว่าสมาชิก 5 คนของกลุ่มเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในกรุงโดฮา ซึ่งรวมถึงลูกชายของ คาลิล อัล-ฮายยา ผู้นำกลุ่มฮามาสพลัดถิ่นในกาซา กาตาร์ถือเป็นพันธมิตรสำคัญในภูมิภาคอ่าวของสหรัฐ กาตาร์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางร่วมกับการอียิปต์ในการพยายามจัดทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในกาซา เพื่อแลกกับการปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัว และวางแผนสำหรับกาซาหลังความขัดแย้ง หลังจากการโจมตี นายทรัมป์ได้พูดคุยกับทั้งนายเนทันยาฮูและชีคตามิม บิน ฮามัด อัล-ธานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ นายทรัมป์กล่าวว่าเขาได้ให้คำมั่นกับผู้นำกาตาร์ว่า เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกบนแผ่นดินของพวกเขา พร้อมเสริมว่าเขารู้สึกไม่ดีอย่างมากเกี่ยวกับสถานที่ที่เกิดการโจมตี ซึ่งต่อมานายทรัมป์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงวอชิงตันว่าเขา “ไม่ปลื้มนัก” กับการโจมตีของอิสราเอลในกาตาร์.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นประณามเหตุความรุนแรงในเนปาล

กาฐมาณฑุ 10 ก.ย. – นายโวลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ในวันอังคารประณามเหตุความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่เกิดขึ้นในเนปาล และเรียกร้องให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตของผู้ประท้วงระหว่างการเดินขบวนต่อต้านการทุจริตที่นำโดยกลุ่มคนหนุ่มสาว การประท้วงครั้งนี้ส่งผลให้นายเคพี ชาร์มา โอลิ นายกรัฐมนตรีเนปาล ต้องลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ผู้ประท้วงได้ฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันก่อนหน้ามีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงถึง 19 คน ชนวนเหตุสำคัญของการประท้วงมาจากการที่รัฐบาลของนายโอลิสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งแม้จะมีการยกเลิกคำสั่งในภายหลัง แต่ความรุนแรงก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีผู้บาดเจ็บกว่า 100 คน และผู้เสียชีวิตรวม 19 คน หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสลายการชุมนุม เหตุการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ถือเป็นความวุ่นวายครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของเนปาล ที่เป็นประเทศที่ยากจนในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ยกเลิกระบอบกษัตริย์ในปี 2008 กลุ่มคนหนุ่มสาวชาวเนปาลจำนวนมากต่างไม่พอใจกับปัญหาการว่างงาน และหลายล้านคนต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศเพื่อหาเลี้ยงชีพและส่งเงินกลับบ้านเกิด.-813.-สำนักข่าวไทย

อิสราเอลโจมตีคณะผู้นำกลุ่มฮามาสในกาตาร์

โดฮา 10 ก.ย. – กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีกลุ่มผู้นำฮามาส ที่มีฐานอยู่ในกรุงโดฮา เมืองหลวงกาตาร์ แต่ฮามาสอ้างว่าคณะผู้นำของกลุ่มรอดชีวิต ขณะที่กาตาร์ประณามอิสราเอลละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ผู้นำสหรัฐบอกอิสราเอลแจ้งล่วงหน้าก่อนโจมตี นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล แถลงวานนี้ว่า เขาได้อนุมัติการโจมตีเฉพาะจุดอย่างแม่นยำต่อผู้นำกลุ่มฮามาสในกรุงโดฮาของกาตาร์ เป็นการขยายปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่ครอบคลุมไปทั่วตะวันออกกลาง รวมถึงกาตาร์ ฐานทางการเมืองของกลุ่มฮามาสมายาวนาน การโจมตีดังกล่าวมีเป้าหมายที่บรรดาผู้นำระดับสูงของฮามาส รวมถึง คาลิล อัล-ฮายา ผู้นำฮามาสในฉนวนกาซาที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ และเป็นหัวหน้าคณะเจรจาหลัก เนื่องจากเชื่อว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลังการเปิดฉากโจมตีอิสราเอล เมื่อ 7 ตุลาคม 2023 ฮามาสเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ 6 ราย รวมถึงบุตรชายของ อัล-ฮายา ที่เหลือเป็นทีมงานและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ส่วน อัล-ฮายาและคนอื่นๆ ในบรรดากลุ่มผู้นำรอดชีวิต ด้านรัฐบาลกาตาร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางร่วมกับอียิปต์ในการเจรจาหยุดยิงในสงครามฉนวนกาซาที่ดำเนินมานานเกือบสองปี ประณามการโจมตีดังกล่าวของอิสราเอลว่าเป็นการกระทำที่ขี้ขลาดและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับอิหร่าน สหประชาชาติ และสหภาพยุโรป ที่ประณามอิสราเอลเช่นกัน และเตือนว่าจะยิ่งส่งผลให้สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐโพสต์บนสื่อออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ของตนเองว่า […]

ประท้วงเผาเมืองป่วนเนปาล

กาฐมาณฑุ 10 ก.ย. – การประท้วงกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ หรือ เจนซี (Gen Z) ในเนปาลลามไม่หยุด แม้นายกรัฐมนตรีจะยอมลาออกจากตำแหน่งและรัฐบาลยกเลิกการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ โดยเมื่อวานนี้ การประท้วงใหญ่เกิดขึ้นทั้งในกรุงกาฐมาณฑุและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ แม้จะมีคำสั่งเคอร์ฟิวตลอด 24 ชั่วโมงของรัฐบาลแต่ผู้ประท้วงไม่สนใจ ออกมารวมตัวชุมนุมประท้วงและก่อจลาจลอย่างบ้าคลั่ง มีการจุดไฟเผาอาคารรัฐสภา อาคารที่ทำการรัฐบาลหลายแห่ง ที่ทำการของพรรคร่วมรัฐบาล บ้านพักของ เค.พี.ชาร์มา โอลี นายกรัฐมนตรีที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ รวมถึงบ้านพักของรัฐมนตรีในรัฐบาลอีกหลายคน ที่ต้องพากันหนีเอาตัวรอดจากม็อบที่โกรธแค้นไปหลบภายใต้การดูแลความปลอดภัยของทหาร ผู้ประท้วงได้บุกเข้าสู่พื้นที่รัฐสภาหลังจากได้ทราบข่าวการลาออกของนายกรัฐมนตรี ชูมือโห่ร้อง และทำล้ายทรัพย์สินภายในอาคารรัฐสภาก่อนจุดไฟเผา ขณะเดียวกัน มีรายงานว่านักโทษกว่า 900 คนได้หลบหนีออกจากเรือนจำ 2 แห่งทางตะวันตกของกรุงกาฐมาณฑุด้วย สถานการณ์ทั่วเมืองหลวงปั่นป่วนหนัก ท่าอากาศยานระหว่างประเทศถูกสั่งปิดเพื่อความปลอดภัย มีรายงานผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้เพิ่มอีก 3 ราย เค.พี. ชาร์มา โอลี นายกรัฐมนตรีเนปาล ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ หลังจากเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงเมื่อวันจันทร์ที่มีผู้เสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 300 คน โดยมีสาเหตุมาจากการความไม่พอใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่อรัฐบาลที่สั่งห้ามการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ แม้ว่ารัฐบาลจะยกเลิกคำสั่งดังกล่าวในเวลาต่อมา แต่การประท้วงยังคงเกิดขึ้นต่อไปและลุกลามบานปลายต่อเนื่อง กลุ่มผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ […]

แอปเปิลเปิดตัว iPhone Air บางเฉียบพร้อม iPhone 17

วอชิงตัน 10 ก.ย. – แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ ทั้ง iPhone 17 และ iPhone 17 Pro รวมถึง iPhone Air ที่บางเฉียบ สนนราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 31,700 บาท) เมื่อวานนี้ บริษัทแอปเปิลจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ไฮไลท์ของปีนี้อยู่ที่ iPhone Air ไอโฟนรุ่นที่บางที่สุด หนาเพียง 5.6 มม. กับขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว รองรับเทคโนโลยี ProMotion 120Hz พร้อมจอแบบ Always On มีกล้องหน้าอย่างเดียวแต่อัปเกรดเป็น 18 ล้านพิกเซล ยังคงใช้วัสดุเป็นไทเทเนียม ร่วมกับกระจกเซรามิกซิลด์ทั้งหน้า และหลัง ทำให้มั่นใจได้ถึงเรื่องความแข็งแรงของตัวเครื่อง มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี คือ ดำ ขาว ทอง และฟ้า […]

นายกฯ เนปาลลาออก หลังเกิดการประท้วงหนัก

กาฐมาณฑุ 9 ก.ย. – สถานการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเนปาลกำลังลุกลามอย่างหนัก ล่าสุดนายกรัฐมนตรีตัดสินใจลาออกแล้ว ส่งผลให้การเมืองเนปาลต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอีกครั้ง บุคคลใกล้ชิดของนายเค.พี ชาร์มา โอลี นายกรัฐมนตรีเนปาลเปิดเผยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาว่านายโอลีตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลลุกลามบานปลายและยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในวันนี้มีการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง ผู้ประท้วงได้จุดไฟเผายางรถยนต์บนถนนวงแหวนรอบกรุงกาฐมาณฑุโดยไม่สนใจการประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาล ซึ่งเป็นการประกาศแบบไม่กำหนดช่วงเวลา และบังคับใช้อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งในระหว่างนี้การชุมนุมประท้วง และการรวมตัว เป็นสิ่งต้องห้าม โรงเรียนห้างร้านต่างๆ ต้องปิดทำการ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายโอลีได้เรียกประชุมพรรคการเมืองทุกพรรคโดยกล่าวว่าความรุนแรงไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและต้องหาทางแก้ปัญหาด้วยการเจรจาอย่างสันติ หลังจากเมื่อคืนนี้รัฐบาลได้ยอมยกเลิกมาตรการปิดกั้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดียหลายแพล็ตฟอร์ม รวมทั้งเฟสบุ๊ก โดยให้เหตุผลว่าแพล็ตฟอร์มเหล่านี้ไม่ยอมลงทะเบียนกับทางการเพื่อปรามปรามการใช้โซเชียลมีเดียอย่างไม่เหมาะสมหลังจากเมื่อวานนี้เกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมที่พยายามจะบุกเข้าไปในรัฐสภา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 คนในกรุงกาฐมาณฑุ และที่เมืองอิตาฮารีมีผู้เสียชีวิตไป 2 คน นอกจากนี้ยังผู้บาดเจ็บกว่า 100 คน.-816.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐคว่ำบาตรเครือข่ายหลอกลวงทางไซเบอร์ในเมียนมาและกัมพูชา

วอชิงตัน 9 ก.ย. – กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศวานนี้ว่า สหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้ดำเนินการหลอกลวงทางไซเบอร์ในเมียนมาและกัมพูชา ซึ่งเป็นธุรกิจผิดกฎหมายที่กำลังเติบโตและสหรัฐระบุว่าบรรดาผู้ประกอบการที่เป็นมิจฉาชีพเหล่านี้ได้ฉ้อโกงเงินจากชาวอเมริกันไปหลายหมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว เครือข่ายอาชญากรได้ลักลอบค้ามนุษย์หลายแสนคนไปทำงานที่อาคารหลายแห่งที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่ซึ่งพวกเขาถูกบังคับให้ทำงานใช้หนี้และฉ้อโกงบุคคลที่ไม่รู้จักกันมาก่อนผ่านช่องทางออนไลน์ นายจอห์น เค เฮอร์ลีย์ (John K. Hurley) ปลัดกระทรวงการคลังด้านการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงิน กล่าวในแถลงการณ์ว่า อุตสาหกรรมการหลอกลวงทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เพียงแต่คุกคามความเป็นอยู่และความมั่นคงทางการเงินของชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนหลายพันคนตกเป็นเหยื่อของแรงงานทาสสมัยใหม่ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการฟอกเงิน การพนันที่ผิดกฎหมาย และการชักชวนเหยื่อให้ลงทุนในสิ่งที่ฉ้อโกง โดยผู้ดำเนินงานส่วนใหญ่มักเป็นชาวต่างชาติที่ถูกลักลอบค้ามนุษย์และถูกบีบบังคับให้ทำงานในอาคารที่เป็นสำนักงานที่ดำเนินการหลอกลวงทางออนไลน์และโทรศัพท์ หน่วยงานที่ถูกสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (Office of Foreign Assets Control) ของกระทรวงการคลังสหรัฐคว่ำบาตรประกอบด้วยบริษัทและบุคคล 9 แห่งในเมืองชเวโก๊กโก่ (Shwe Kokko) ซึ่งเป็นเมืองในรัฐกะเหรี่ยงที่อยู่ติดกับชายแดนไทย มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ มีเป้าหมายเพื่อตัดช่องทางการเงินของเครือข่ายอาชญากร ซึ่งดำเนินกิจการในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมทั้งของกลุ่มติดอาวุธและรัฐบาลทหารเมียนมา กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ที่ชเวโก๊กโก่ ผู้ประกอบการได้ล่อลวงผู้คนจากทั่วโลกด้วยข้อเสนอที่หลอกลวง จากนั้นก็กักขัง ทำร้าย และบีบบังคับให้พวกเขาทำการฉ้อโกงออนไลน์ให้กับเครือข่ายอาชญากร กระทรวงฯ ระบุว่า อาชญากรเหล่านี้มักใช้การบังคับให้ทำงานใช้หนี้ ใช้ความรุนแรง และการข่มขู่ว่าจะถูกส่งไปค้าประเวณีเพื่อเป็นยุทธวิธีในการบีบบังคับ กระทรวงฯ ยังได้คว่ำบาตรอีก 10 องค์กรในกัมพูชา ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ฉ้อโกงที่บริหารโดยเครือข่ายอาชญากรชาวจีน โดยมุ่งเน้นไปที่การฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล […]

ผู้ประท้วงต้านคอร์รัปชันในเนปาลเมินเคอร์ฟิว

กาฐมาณฑุ 9 ก.ย. – ผู้ชุมนุมต่อต้านการคอร์รัปชันในเนปาลฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว หรือ ห้ามออกนอกเคหะสถาน ที่บังคับใช้ตลอดเวลา โดยมีการปะทะกับตำรวจและตะโกนคำขวัญต่อต้านนายกรัฐมนตรีเค พี ชาร์มา โอลิ (K.P. Sharma Oli) หลังจากเหตุประท้วงที่รุนแรงจากคำสั่งห้ามใช้งานโซเชียลมีเดียทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 19 คน รัฐบาลของนายโอลิได้ยกเลิกคำสั่งห้ามใช้งานโซเชียลมีเดียแล้ว หลังจากที่การประท้วงทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 รายและบาดเจ็บกว่า 100 ราย ภายหลังจากที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่ผู้ประท้วงที่พยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ ความไม่สงบครั้งนี้นับเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของเนปาล ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจมาตั้งแต่การประท้วงที่นำไปสู่การยกเลิกระบอบกษัตริย์ในปี 2008 ในวันอังคาร นายโอลิยังได้เรียกประชุมพรรคการเมืองทุกพรรค โดยกล่าวว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและต้องหันมาใช้การเจรจาอย่างสันติเพื่อหาทางออกให้กับทุกปัญหา อย่างไรก็ตาม ความโกรธเคืองต่อรัฐบาลยังไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาลง เนื่องจากผู้ประท้วงได้รวมตัวกันหน้าอาคารรัฐสภาและสถานที่อื่น ๆ ในกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อท้าทายคำสั่งเคอร์ฟิวที่ทางการประกาศใช้ ผู้ประท้วงยังได้เรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยเพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในการประท้วงเมื่อวันจันทร์ด้วย ผู้ประท้วงบางส่วนได้จุดไฟเผายางรถยนต์บนถนนบางสาย ขว้างก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลที่ไล่ติดตามพวกเขาไปตามตรอกซอกซอยที่แคบ ขณะที่บางคนเฝ้าดูและถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ปะทะกันด้วยโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ควันดำหนาทึบพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ผู้ประท้วงจุดไฟเผาบ้านของนักการเมืองบางคนในกรุงกาฐมาณฑุ และสื่อท้องถิ่นรายงานว่ารัฐมนตรีบางคนถูกเฮลิคอปเตอร์ทหารนำตัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย นายโอลิ วัย 73 ปี สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สี่เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 14 ของประเทศนับตั้งแต่ปี 2008 รัฐมนตรีสองคนในคณะรัฐมนตรีของเขาได้ลาออกเมื่อคืนวันจันทร์ […]

1 9 10 11 12 13 694