ม็อบนักศึกษาติมอร์-เลสเตประท้วงรัฐบาลแจกรถฟรี สส.

ดิลี 18 ก.ย. – รัฐบาลติมอร์-เลสเต ยกเลิกแผนการแจกรถยนต์ฟรีและให้เงินบำนาญตลอดชีพแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลังม็อบนักศึกษาออกมาประท้วงต่อต้านอย่างรุนแรง หวั่นซ้ำรอยเนปาล ผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักศึกษา ออกมาเดินขบวนในกรุงดิลี ของติมอร์-เลสเตตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อประท้วงที่รัฐบาลมีแผนที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่ เป็นรุ่นโตโยต้า พราโด เอสยูวี แจกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สส. ทั้ง 64 คนในสภา ผู้ประท้วงคนก่อเหตุจุดไฟเผายางรถยนต์ และเผารถยนต์ของรัฐบาล ขณะที่ตำรวจตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา จนในที่สุดหลายชั่วโมงหลังจากนั้น รัฐบาลก็ยอมยกเลิกแผนแจกรถตามที่ผู้ประท้วงต้องการ อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ ยังมีผู้ชุมนุมประมาณ 2,500 คน ออกมารวมตัวประท้วงในเมืองหลวงต่อ เนื่องจากพวกเขาต้องการให้รัฐบาลยกเลิกการจ่ายเงินบำนาญตลอดชีวิตให้แก่สมาชิกสภาที่เกษียณอายุด้วย ต่อมา สมาชิกรัฐสภาจากพรรคการเมืองต่างๆ ยอมให้ตัวแทนนักศึกษาในกลุ่มผู้ประท้วงเข้าหารือ ก่อนลงนามในข้อตกลงว่ารัฐบาลจะยอมยกเลิกแผนการดังกล่าวด้วยเช่นกัน ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงพอใจยอมสลายตัวไปในช่วงเย็น สมาชิกสภานิติบัญญัติในติมอร์-เลสเต ได้เงินเดือนประมาณปีละ 36,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1 ล้าน 1 แสน 4 หมื่นบาท ตามข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยเมื่อปี 2566 มากกว่ารายได้เฉลี่ยของชาวติมอร์-เลสเตในประเทศเกิน 10 เท่า โดยรายงานของรัฐบาลในปี […]

‘ทรัมป์-ลี’ เตรียมพบกันนอกรอบการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้

โซล 17 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ถูกคาดหมายว่าจะเดินทางเยือนเกาหลีใต้ ในเดือนหน้า เพื่อเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค และจะพบปะกับประธานาธิบดีลี แจ มย็อง ของเกาหลีใต้ นอกรอบการประชุมดังกล่าว สำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่า นายโจเซฟ ยุน รักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเกาหลีใต้ กล่าวถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมเกี่ยวกับพันธมิตรเกาหลีใต้-สหรัฐ ขณะที่เกาหลีใต้กำลังจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดเอเปคที่เมืองคย็องจู ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ระหว่างช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีลีได้เชิญทรัมป์เข้าร่วมการประชุมนี้เมื่อตอนที่ทั้งสองได้พบกันระหว่างการประชุมสุดยอดทวิภาคีที่กรุงวอชิงตัน เมื่อเดือนที่แล้ว นายยุน กล่าวว่า เขาเชื่อว่าผู้นำทั้งสองได้มีการหารือที่ “ประสบความสำเร็จ” ในเดือนสิงหาคม และคาดว่าจะได้พบกันอีกครั้งที่เมืองคย็องจู ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน นายวี ซอง-แลค ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า เขาคาดว่านายทรัมป์จะเดินทางเยือนเกาหลีใต้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมเอเปค แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการก็ตาม.-813.-สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหลังฝนตกหนักในอินเดีย คร่าชีวิต 15 ราย

นิวเดลี 17 ก.ย. – สื่อท้องถิ่นของอินเดียรายงานวันนี้ว่า เหตุดินถล่มและฝนตกหนักในรัฐอุตตราขัณฑ์ ที่ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาหิมาลัยของอินเดีย คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 15 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 16 คน ภาพวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อต่างๆ แสดงให้เห็นกระแสน้ำโคลนที่ไหลบ่าเข้าท่วมเมืองสหัสตราธารา (Sahastradhara) ในเขตเดห์ราดูน เมื่อวันอังคาร ทำให้ร้านค้า ถนนหนทาง และบ้านเรือนพังเสียหาย ในขณะที่ผู้คนต้องหาที่กำบังอยู่หลังกำแพง ชาวบ้านรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าวเอเอ็นไอว่า ร้านค้าของเขาถูกน้ำพัดหายไปทั้งหมด และร้านของเขาเป็น 1 ใน 7 ร้านที่ถูกกระแสน้ำพัดหายไปจากตลาดจนไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย หนังสือพิมพ์ “อินเดียนเอ็กซ์เพรส” (Indian Express) รายงานว่าในวันอังคาร เจ้าหน้าที่กู้ร่างผู้เสียชีวิตได้ 13 ราย สำหรับรัฐอุตตราขัณฑ์เป็นพื้นที่ที่มักเกิดน้ำท่วมและดินถล่มบ่อยครั้ง เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กระแสน้ำและโคลนจากน้ำท่วมได้ไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านดาราลิ (Dharali) ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ซึ่งทางการระบุว่ายังมีผู้สูญหายอีกกว่า 60 คน.-813.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษจับผู้ฉายภาพ ‘ทรัมป์-เอปสตีน’ บนกำแพงปราสาทวินด์เซอร์

ลอนดอน 17 ก.ย. – ตำรวจอังกฤษจับกุมผู้ต้องหา 4 คนในวันอังคาร หลังเกิดเหตุการณ์ฉายภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ คู่กับนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดทางเพศ ขึ้นบนปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ระหว่างการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ นายทรัมป์เดินทางถึงอังกฤษเมื่อช่วงค่ำวันอังคารเพื่อเยือนรัฐอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่สองซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเขาจะได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ในวันพุธ ที่ปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางตะวันตกประมาณ 40 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร กลุ่มผู้ประท้วงได้นำป้ายผ้าขนาดใหญ่ซึ่งมีภาพของนายทรัมป์และนายเอปสตีนไปกางไว้ใกล้ปราสาทวินด์เซอร์ และต่อมาได้ฉายภาพหลายภาพของทั้งสองคนขึ้นบนหอคอยแห่งหนึ่งของปราสาท ตำรวจแถลงว่า ผูัเกี่ยวข้อง 4 คนถูกจับกุมในข้อหาการสื่อสารที่ประสงค์ร้ายจากเหตุการณ์ “การฉายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต” ที่ปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งตำรวจอธิบายว่าเป็นการสร้างกระแสในที่สาธารณะ โดยขณะนี้ทั้งสี่ยังอยู่ระหว่างการควบคุมตัว นายทรัมป์เคยเป็นเพื่อนกับนายเอปสตีนก่อนที่จะมาเป็นประธานาธิบดี แต่ได้เลิกคบหากับอดีตนักการเงินผู้นี้หลายปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อปี 2019.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เดินทางถึงอังกฤษแล้ว

ลอนดอน 17 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเดินทางถึงกรุงลอนดอนแล้วเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร เพื่อเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่สอง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เครื่องบินของประจำตำแหน่งประธานาธิบดี “แอร์ฟอร์ซ วัน” ของนายทรัมป์ลงจอดที่สนามบินลอนดอนสแตนสเต็ด โดยมีนางอีเวตต์ คูเปอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศและไวเคานต์ เฮนรี ฮูด ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 รอต้อนรับ หลังจากน้ันประธานาธิบดีสหรัฐและนางเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังวินฟิลด์เฮาส์ ซึ่งเป็นบ้านพักอย่างเป็นทางการของเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหราชอาณาจักร เพื่อพักค้างคืน นายทรัมป์มีกำหนดเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ที่ปราสาทวินด์เซอร์ในวันนี้ ในระหว่างการเยือน คาดว่าทั้งสองประเทศจะทำข้อตกลงมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์พิเศษที่นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น.-813.-สำนักข่าวไทย

‘โรเบิร์ต เรดฟอร์ด’ นักแสดงระดับตำนานเสียชีวิตแล้ว

ลอสแอนเจลิส 15 ก.ย. – โรเบิร์ต เรดฟอร์ด นักแสดงและผู้กำกับระดับตำนาน เจ้าของรางวัลออสการ์ และผู้ก่อตั้งเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ เสียชีวิตที่บ้านพักในรัฐยูทาห์ ด้วยวัย 89 ปี โฆษกส่วนตัวของ เรดฟอร์ด ยืนยันว่า เรดฟอร์ดเสียชีวิตที่บ้านพักในเมืองซันแดนซ์ รัฐยูทาห์ สถานที่ที่เขารักเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางครอบครัวที่เขารัก โดยไม่ได้เปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมขอความเป็นส่วนตัวแก่ครอบครัว เรดฟอร์ด ผู้เป็นขวัญใจผู้ชมทั่วโลก แจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์ยุค 1960 และก้าวสู่จุดสูงสุดในช่วงปี 1970 จากผลงานอย่าง The Candidate, The Way We Were และ All the President’s Men ก่อนคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ในปี 1981 จากภาพยนตร์ Ordinary People ซึ่งคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีเดียวกัน นอกจากนี้ เรดฟอร์ดยังเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง สิ่งแวดล้อม และอุทิศตนสร้างพื้นที่ให้ภาพยนตร์อิสระ จนได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘บิดาแห่งวงการหนังอินดี้’ ขณะเดียวกัน เขายังก่อตั้ง สถาบันและเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ […]

ท่องเที่ยวเนปาลกระทบหนักจากเหตุประท้วงใหญ่

กาฐมาณฑุ 17 ก.ย. – การท่องเที่ยวในเนปาลได้รับผลกระทบจากการประท้วงนองเลือดต่อต้านรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยอดจองห้องพักและโรงแรมหายไปกว่าครึ่งทั้งที่อยู่ในช่วงไฮซีซั่น แม้ผู้คนในกรุงกาฐมาณฑุ จะเริ่มออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติอีกครั้งตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังผ่านพ้นเหตุการณ์ประท้วงนองเลือดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ภาพรวมบรรยากาศในเมืองหลวงของเนปาลก็ยังถือว่าค่อนข้างเงียบเหงา ขณะที่ยังสามารถพบเห็นร่องรอยความเสียหายของอาคารและยวดยานจำนวนมากที่ถูกวางเพลิงเผาทำลายในช่วงการประท้วง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 72 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน การประท้วงต่อต้านรัฐบาลซึ่งมีแกนนำเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่ม Gen Z ที่ไม่พอใจคำสั่งห้ามใช้งานแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ของรัฐบาล และขยายวงกลายเป็นการประท้วงต่อต้านการทุจริตและไม่พอใจกลุ่มอภิสิทธิ์ชนรวมถึงความไม่เท่าเทียมทางสังคม เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเนปาล โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากการประท้วงเกิดขึ้นในช่วงไฮซีซั่นของเนปาล ทำให้ในช่วงนี้แทบไม่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติในกรุงกาญมาณฑุ ขณะที่ยอดจองห้องพักตามโรงแรมต่างๆ หายไปกว่า 30-50 % ในเดือนนี้ ส่วนของเดือนหน้าถูกยกเลิกทั้งหมด โรงแรมหลายแห่งได้รับความเสียหายจากการประท้วง การท่องเที่ยวแบบเดินป่าปีนเขาก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้บริการลดลง 30% ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มักจะเที่ยวชมกรุงกาฐมาณฑุก่อนจะเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ แต่เมื่อการประท้วงในเมืองหลวงเนปาลรุนแรง ทำให้หลายประเทศออกคำเตือนห้ามเดินทางมายังกรุงกาฐมาณฑุเนื่องจากความไม่ปลอดภัย ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นอุตสากรรมหลักที่สร้างรายได้และเม็ดเงินต่อเนปาลมากกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 8% ของจีดีพีทั้งประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการหวังว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเยือนเนปาลอีกครั้ง หลังจากการประท้วงยุติลงและสถานการณ์ทั่วไปในตอนนี้เริ่มกลับมาเป็นปกติ.-815.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ฟ้อง ‘นิวยอร์ก ไทมส์’ 15,000 ล้านดอลลาร์ ในคดีหมิ่นประมาท

นิวยอร์ก 15 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ “เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์” (The New York Times), นักข่าว 4 คน และสำนักพิมพ์ “เพนกวิน แรนดอม เฮาส์” (Penguin Random House) ในวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นจำนวนเงินอย่างน้อย 15,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.54 แสนล้านบาท) ในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง นายทรัมป์อ้างถึงบทความหลายชิ้นของเดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รวมถึงบทบรรณาธิการชิ้นหนึ่งก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2024 ซึ่งระบุว่าเขาไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่ง และยังรวมถึงหนังสือที่ตีพิมพ์ในปี 2024 โดยสำนักพิมพ์ เพนกวิน ชื่อ “Lucky Loser : How Donald Trump Squandered His Father’s Fortune […]

‘โคอิซูมิ’ และ ‘ฮายาชิ’ สมัครชิงตำแหน่งผู้นำพรรคแอลดีพี

โตเกียว 16 ก.ย. – รัฐมนตรีเกษตรและหัวหน้าโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น เข้าร่วมชิงตำแหน่งผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่น โดยประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในต้นเดือนหน้า เพื่อหาผู้มาดำรงตำแหน่งแทนนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ที่กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่ง นายอิชิบะได้ประกาศลาออกในเดือนนี้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั้งการเลือกตั้งสภาล่างและสภาสูง นายชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีเกษตร กล่าวในการแถลงข่าวว่า เขาได้แจ้งผู้สนับสนุนถึงความตั้งใจที่จะลงสมัครรับตำแหน่งผู้นำพรรคแอลดีพีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีนายคัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีคลัง ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมหาเสียงให้เขา นายชินจิโร โคอิซูมิ ซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีจุนอิชิโร โคอิซูมิ ประสบความสำเร็จอยู่บ้างในการควบคุมราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้นในปีนี้ ทางด้านนายคาโตะ ซึ่งได้รับคะแนนเสียงน้อยที่สุดในการเลือกตั้งผู้นำพรรคแอลดีพี เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว กล่าวว่า ครั้งนี้เขาจะสนับสนุนโคอิซูมิ เพื่อความสามัคคีภายในพรรค นายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าโฆษกรัฐบาลของนายอิชิบะ ได้ประกาศลงสมัครผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ โดยเขาโพสต์ข้อความว่า เขามุ่งมั่นที่จะนำพาคณะบริหารชุดใหม่ที่สร้างสมดุลระหว่างเสถียรภาพและการเติบโต โดยใช้ประโยชน์จากประสบการณ์และความสำเร็จทั้งหมดของเขา นายโทชิมิตสึ โมเตงิ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นคนแรกที่ประกาศลงสมัครเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามมาด้วยนายทากายูกิ โคบายาชิ อดีตรัฐมนตรีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ในขณะที่นางซานาเอะ ทาคาอิจิ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ก็คาดว่าจะประกาศลงสมัครในสัปดาห์นี้เช่นกัน และเธออาจได้เป็นผู้นำหญิงคนแรกของญี่ปุ่นก็ได้ […]

ไต้หวันเปิดตัวคู่มือป้องกันภัยพลเรือนฉบับใหม่

ไทเป 16 ก.ย. – กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดตัวคู่มือป้องกันภัยพลเรือนฉบับปรับปรุงใหม่เมื่อวันอังคาร โดยระบุว่าไม่ได้มีเป้าหมายที่จะสร้างความตื่นตระหนก แต่เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมในกรณีที่เกิดวิกฤต เช่น การโจมตีจากจีน ซึ่งอ้างสิทธิ์ว่าดินแดนแห่งนี้เป็นของตนเอง ไต้หวันซึ่งปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ได้ยกระดับการเตรียมความพร้อมด้านการป้องกันประเทศ เนื่องจากจีนได้เพิ่มกิจกรรมทางทหารรอบเกาะในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และไต้หวันได้เรียนรู้บทเรียนจากการป้องกันประเทศของยูเครนที่เผชิญการรุกรานจากรัสเซีย คู่มือฉบับใหม่ของไต้หวัน ระบุถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่ไต้หวันอาจเผชิญ ตั้งแต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างคลื่นสึนามิ ไปจนถึงการรุกรานเต็มรูปแบบ โดยคู่มือนี้เป็นฉบับที่สามหลังจากที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2022 นายเสิ่น เหว่ยจื้อ ผู้อำนวยการสำนักงานระดมกำลังป้องกันภัยของกองทัพไต้หวัน กล่าวในการแถลงข่าวที่กระทรวงกลาโหมว่า จะมีการพิมพ์คู่มือจำนวน 5,000 เล่มเพื่อแจกจ่ายในเบื้องต้น และสามารถดาวน์โหลดได้ทางออนไลน์ รวมถึงมีการจัดทำฉบับภาษาอังกฤษด้วย เขากล่าวว่า มีผู้สงสัยว่า เหตุใดจึงเปิดตัวคู่มือนี้ในช่วงเวลาที่สงบ รัฐบาลไม่ได้ต้องการสร้างความตื่นตระหนก แต่ต้องการบอกให้ผู้คนทราบว่าจะต้องเตรียมตัวในยามสงบ เพื่อที่ว่าเมื่อเกิดวิกฤตจะรู้ว่าจะต้องทำอะไร เขาระบุว่า ยิ่งเตรียมตัวเร็วเท่าไหร่ ยิ่งศึกษาคู่มือเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งปลอดภัยเร็วขึ้นเท่านั้น นายเสิ่นกล่าวว่ารัฐบาลต้องการให้ประชาชนนำคู่มือฉบับนี้ใส่ไว้ในกระเป๋าฉุกเฉินซึ่งมีอุปกรณ์จำเป็นและเก็บไว้ในจุดที่หยิบได้ง่าย นอกจากนี้ คู่มือยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีรับฟังวิทยุเพื่อรับทราบข้อมูลข่าวสารในกรณีที่อินเทอร์เน็ตล่ม การใช้โทรศัพท์บ้านสำหรับสายด่วนของรัฐบาล และคำแนะนำให้ไปที่สถานีตำรวจหรือสำนักงานรัฐบาลประจำท้องถิ่นเพื่อรับข้อมูลที่ได้รับการยืนยันหากไม่สามารถเข้าถึงการออกอากาศทางวิทยุได้.-813.-สำนักข่าวไทย

เผย ‘ออราเคิล’ มีส่วนให้ ‘ติ๊กต็อก’ ให้บริการในสหรัฐต่อได้

วอชิงตัน 16 ก.ย. – ซีบีเอส นิวส์ รายงานในวันจันทร์ว่า ออราเคิล บริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ข้ามชาติสัญชาติอเมริกัน เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่จะช่วยให้ “ติ๊กต็อก” สามารถดำเนินกิจการในสหรัฐต่อไปได้ หากข้อตกลงกรอบความร่วมมือระหว่างสหรัฐและจีน สามารถหาข้อยุติในขั้นสุดท้ายได้ รายงานของซีบีเอส ระบุว่า โครงสร้างที่แน่ชัดของข้อตกลงยังไม่ชัดเจน แต่ข้อตกลงนี้จะครอบคลุมหลายบริษัทที่จะเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนกล่าวในวันจันทร์ว่า ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงกรอบความร่วมมือเพื่อเปลี่ยน “ติ๊กต็อก” ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐ ซึ่งจะมีการยืนยันเมื่อมีการพูดคุยหารือทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในวันศุกร์นี้ หลังการประชุมกับคณะเจรจาของจีนในกรุงมาดริดของสเปน นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า กำหนดเส้นตายในวันที่ 17 กันยายน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้งาน “ติ๊กต็อก” แอปพลิเคชันแชร์วิดีโอสั้นยอดนิยมในสหรัฐ เป็นปัจจัยกระตุ้นให้คณะเจรจาของจีนบรรลุข้อตกลงที่เป็นไปได้นี้ เขากล่าวว่ากำหนดเส้นตายดังกล่าวสามารถขยายได้อีก 90 วัน เพื่อให้ข้อตกลงแล้วเสร็จ แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม ข้อตกลงที่เป็นไปได้สำหรับ “ติ๊กต็อก” ซึ่งมีออราเคิลเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาที่คพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ซึ่งเคยผ่านกฎหมายในปี 2024 ที่กำหนดให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ […]

‘ทรัมป์’ ระบุไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าก่อนอิสราเอลโจมตีในกาตาร์

วอชิงตัน 16 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววันจันทร์ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ไม่ได้แจ้งให้เขาทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลในกาตาร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ความเห็นของนายทรัมป์มีขึ้นหลังจากสำนักข่าว แอ็กซิออส (Axios) รายงานว่า นายเนทันยาฮูได้แจ้งประธานาธิบดีสหรัฐ ก่อนการโจมตีเล็กน้อย ในขณะที่รัฐบาลทรัมป์เคยกล่าวว่า พวกเขาได้รับแจ้งเมื่อขีปนาวุธถูกยิงไปแล้ว ทำให้นายทรัมป์ไม่มีโอกาสที่จะคัดค้านการโจมตีดังกล่าว แต่ แอ็กซิออส รายงานโดยอ้างอิงจากเจ้าหน้าที่อิสราเอลว่า ทำเนียบขาวรับทราบเรื่องนี้ก่อนหน้านั้น ถึงแม้ว่าจะมีเวลาจำกัดในการยับยั้งการโจมตีก็ตาม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อิสราเอลได้พยายามสังหารผู้นำทางการเมืองของกลุ่มฮามาสด้วยการโจมตีทางอากาศในกาตาร์ ซึ่งเป็นการยกระดับปฏิบัติการทางทหารในตะวันออกกลาง การโจมตีครั้งนี้ถูกประณามอย่างกว้างขวางทั้งในตะวันออกกลางและที่อื่น ๆ ว่าเป็นการกระทำที่อาจยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคที่กำลังเปราะบางอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยกล่าวว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของอิสราเอลที่จะโจมตีกาตาร์ เมื่อถูกถามในวันจันทร์ว่า ยสบเนทันยาฮูได้พูดคุยกับเขาโดยตรงเพื่อแจ้งเตือนว่าอิสราเอลจะโจมตีผู้นำฮามาสในกาตาร์หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า อิสราเอลไม่ได้บอกเขาในเรื่องนี้ สำนักงานของนายเนทันยาฮูกล่าวย้ำหลังรายงานของ แอ็กซิออสว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นปฏิบัติการของอิสราเอลแต่เพียงผู้เดียว.-813.-สำนักข่าวไทย

1 6 7 8 9 10 694