วินด์เซอร์ 18 ก.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสหรัฐและอังกฤษอย่างเต็มที่ระหว่างการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการครั้งที่สอง โดยยกย่องสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และระบุว่าการเยือนครั้งนี้เป็นหนึ่งในเกียรติสูงสุดของชีวิตเขา
นายทรัมป์และนางเมลาเนีย ภริยา ได้รับการต้อนรับตามแบบฉบับราชวงศ์อังกฤษอย่างเต็มรูปแบบ นายทรัมป์กล่าวในสุนทรพจน์ระหว่างงานเลี้ยงอันหรูหราที่ปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งเป็นที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษมาเกือบ 1,000 ปี เขากล่าวสดุดีพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐว่า ความผูกพันทางเครือญาติและอัตลักษณ์ระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักรนั้นล้ำค่าและเป็นนิรันดร์ ซึ่งไม่มีอะไรมาแทนที่ได้และไม่มีวันแตกหัก เมื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศ นายทรัมป์ระบุว่าในสายตาของชาวอเมริกัน คำว่าพิเศษนั้นยังไม่เพียงพอที่จะอธิบายความสัมพันธ์นี้
สุนทรพจน์ของนายทรัมป์น่าจะสร้างความยินดีให้แก่นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ ซึ่งได้เชิญนายทรัมป์เยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการในฐานะแขกคนสำคัญไม่นานหลังจากที่นายทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะได้รับความชื่นชอบจากนายทรัมป์ผู้ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นคนนิยมความเป็นอังกฤษและชื่นชอบราชวงศ์มากเป็นพิเศษ
นายสตาร์เมอร์หวังว่าการมาเยือนครั้งนี้จะช่วยรัฐบาลของเขาในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ดึงดูดการลงทุนมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ลดภาษีนำเข้า และเปิดโอกาสให้เขาหารือกับนายทรัมป์ในประเด็นยูเครนและอิสราเอล
อังกฤษได้ปูพรมแดงต้อนรับนายทรัมป์อย่างสมเกียรติ โดยจัดพิธีต้อนรับทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับแขกต่างประเทศเท่าที่จำได้ ในขณะที่่นายทรัมป์ไม่ได้ปิดบังความยินดีที่เขาไม่เพียงแต่เป็นผู้นำสหรัฐคนแรก แต่ยังเป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกที่ได้รับเชิญให้เยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการถึงสองครั้งอีกด้วย เขากล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในเกียรติสูงสุดของชีวิตเขาอย่างแท้จริง
นายทรัมป์และนางเมลาเนียได้เข้าร่วมขบวนรถม้ากับสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 สมเด็จพระราชินีคามิลลา พระบรมวงศานุวงศ์ และบุคคลสำคัญอื่นๆ โดยมีทหารอังกฤษกว่า 1,300 นายยืนเรียงรายตลอดเส้นทาง จากนั้น ทั้งสองได้ชมสิ่งของทางประวัติศาสตร์จากราชสำนักที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐ และเดินทางไปยังโบสถ์เซนต์จอร์จซึ่งเป็นที่ประทับสุดท้ายของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ซึ่งเคยต้อนรับนายทรัมป์ในการเยือนรัฐครั้งแรกเมื่อปี 2019 โดยพวกเขาได้วางพวงหรีดที่สุสานของพระองค์
นอกจากนี้ยังมีการสวนสนามของทหารและการแสดงการบินโดยฝูงบินผาดแผลง “เรดแอร์โรวส์” (Red Arrows) ที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ แต่สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้เครื่องบินขับไล่ เอฟ-35 ของอังกฤษและสหรัฐ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือด้านกลาโหมไม่สามารถเข้าร่วมได้
นายทรัมป์และภริยายังได้มีโอกาสเข้าเฝ้าเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ มกุฎราชกุมารแห่งสหราชอาณาจักร และเจ้าหญิงแคเธอรีน พระชายา เป็นการส่วนพระองค์
แม้จะมีผู้สนับสนุนนายทรัมป์จำนวนมากมารวมตัวกันที่พระราชวังวินด์เซอร์และที่กรุงลอนดอน แต่ก็มีประชาชนหลายพันคนเดินขบวนประท้วงต่อต้านการเยือนรัฐครั้งนี้เช่นกัน.-813.-สำนักข่าวไทย