‘ทรัมป์’ อาจเยือนญี่ปุ่นปลายเดือนตุลาคม

โตเกียว 25 ก.ย. – แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุวันพฤหัสบดีว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐกำลังเตรียมการสำหรับความเป็นไปได้ที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะเดินทางเยือนญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนตุลาคม ก่อนการประชุมสุดยอดเอเปกในเกาหลีใต้ ซึ่งจะเป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกนับตั้งแต่นายทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 เมื่อเดือนมกราคม สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า ในระหว่างที่อยู่ในญี่ปุ่น คาดว่านายทรัมป์จะได้พบกับนายกรัฐมนตรีที่รับตำแหน่งสืบต่อจาก นายชิเกรุ อิชิบะ ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยการเลือกตั้งผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 4 ตุลาคม และคาดว่าการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในรัฐสภาจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคมหรือหลังจากนั้น การเยือนญี่ปุ่นของนายทรัมป์ในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นโอกาสแรก ๆ ที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะได้ยืนยันความสำคัญของพันธมิตรระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงที่ใกล้ชิดที่สุด นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองอาจหารือเกี่ยวกับการลงทุนของญี่ปุ่นในสหรัฐ ซึ่งญี่ปุ่นเคยให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมให้มากขึ้นตามข้อตกลงทางการค้าที่ลงนามไปเมื่อเดือนกันยายน เมื่อต้นเดือนกันยายน นายเรียวเซ อากาซาวะ (Ryosei Akazawa) หัวหน้าผู้เจรจาด้านภาษีของญี่ปุ่น กล่าวว่าเขาได้นำส่งจดหมายจากนายอิชิบะเพื่อเชิญนายทรัมป์มาเยือนกรุงโตเกีววแล้ว แหล่งข่าวระบุว่า การเยือนญี่ปุ่นของทรัมป์กำลังถูกจัดให้มีขึ้นก่อนที่เขาจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก (APEC) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นเป็นเวลาสองวันในเกาหลีใต้ โดยจะเริ่มในวันที่ 31 ตุลาคม และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายทรัมป์กล่าวว่าเขาได้ตกลงที่จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนนอกรอบการประชุมสุดยอดดังกล่าว ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี […]

คณะ สส.สหรัฐเยือนจีนครั้งแรกในรอบหลายปี

ปักกิ่ง 21 ก.ย. – คณะผู้แทนจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนจีนเพื่อเจรจาในวันอาทิตย์ ถือเป็นการเยือนครั้งแรกของคณะผู้แทนจากรัฐสภานับตั้งแต่ปี 2019 รายงานข่าวจากกลุ่มสื่อที่จัดขึ้นโดยสถานทูตสหรัฐในจีนระบุว่า คณะผู้แทนจากทั้งสองพรรคการเมืองของสหรัฐ ทั้งรีพับลิกันและเดโมแครต จะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง การเดินทางดังกล่าว ซึ่งประกาศแจ้งให้ทราบในเดือนนี้ มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากทั้งสองประเทศกำลังมองหาแนวทางเพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาของความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด ซึ่งรุนแรงขึ้นจากความขัดแย้งทางการค้า ข้อจำกัดของสหรัฐต่อชิปเซมิคอนดักเตอร์ การเป็นเจ้าของ ติ๊กต็อก กิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้ และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของตน คณะผู้แทนสหรัฐ นำโดยนายอดัม สมิธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นอดีตประธานและเป็นสมาชิกอาวุโสจากพรรคเดโมแครตในคณะกรรมการด้านการทหารของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีหน้าที่กำกับดูแลกระทรวงกลาโหมและกองทัพสหรัฐ นายสมิธเคยให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์เอ็นบีซี เมื่อวันที่ 9 กันยายนว่า การเปิดการเจรจาทวิภาคีกับจีนเป็นสิ่งสำคัญ แค่การได้พูดคุยกับจีน ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐเห็นด้วยกับทุกสิ่งที่จีนทำ จีนเป็นประเทศที่ใหญ่และทรงพลัง สหรัฐก็เป็นประเทศที่ใหญ่และทรงพลังเช่นกัน เขาคิดว่าจำเป็นต้องพูดคุยกัน หลังจากมีการประกาศการเยือนครั้งนี้ได้ไม่นาน นายพีท เฮ็กเซท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พูดคุยกับนายตง จวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีนเป็นครั้งแรก โดยย้ำว่าสหรัฐไม่ได้แสวงหาความขัดแย้งกับจีน แต่จะปกป้องผลประโยชน์สำคัญของตนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ยกย่องความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสหรัฐ-อังกฤษ

วินด์เซอร์ 18 ก.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสหรัฐและอังกฤษอย่างเต็มที่ระหว่างการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการครั้งที่สอง โดยยกย่องสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และระบุว่าการเยือนครั้งนี้เป็นหนึ่งในเกียรติสูงสุดของชีวิตเขา นายทรัมป์และนางเมลาเนีย ภริยา ได้รับการต้อนรับตามแบบฉบับราชวงศ์อังกฤษอย่างเต็มรูปแบบ นายทรัมป์กล่าวในสุนทรพจน์ระหว่างงานเลี้ยงอันหรูหราที่ปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งเป็นที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษมาเกือบ 1,000 ปี เขากล่าวสดุดีพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐว่า ความผูกพันทางเครือญาติและอัตลักษณ์ระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักรนั้นล้ำค่าและเป็นนิรันดร์ ซึ่งไม่มีอะไรมาแทนที่ได้และไม่มีวันแตกหัก เมื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศ นายทรัมป์ระบุว่าในสายตาของชาวอเมริกัน คำว่าพิเศษนั้นยังไม่เพียงพอที่จะอธิบายความสัมพันธ์นี้ สุนทรพจน์ของนายทรัมป์น่าจะสร้างความยินดีให้แก่นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ ซึ่งได้เชิญนายทรัมป์เยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการในฐานะแขกคนสำคัญไม่นานหลังจากที่นายทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะได้รับความชื่นชอบจากนายทรัมป์ผู้ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นคนนิยมความเป็นอังกฤษและชื่นชอบราชวงศ์มากเป็นพิเศษ นายสตาร์เมอร์หวังว่าการมาเยือนครั้งนี้จะช่วยรัฐบาลของเขาในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ดึงดูดการลงทุนมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ลดภาษีนำเข้า และเปิดโอกาสให้เขาหารือกับนายทรัมป์ในประเด็นยูเครนและอิสราเอล อังกฤษได้ปูพรมแดงต้อนรับนายทรัมป์อย่างสมเกียรติ โดยจัดพิธีต้อนรับทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับแขกต่างประเทศเท่าที่จำได้ ในขณะที่่นายทรัมป์ไม่ได้ปิดบังความยินดีที่เขาไม่เพียงแต่เป็นผู้นำสหรัฐคนแรก แต่ยังเป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกที่ได้รับเชิญให้เยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการถึงสองครั้งอีกด้วย เขากล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในเกียรติสูงสุดของชีวิตเขาอย่างแท้จริง นายทรัมป์และนางเมลาเนียได้เข้าร่วมขบวนรถม้ากับสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 สมเด็จพระราชินีคามิลลา พระบรมวงศานุวงศ์ และบุคคลสำคัญอื่นๆ โดยมีทหารอังกฤษกว่า 1,300 นายยืนเรียงรายตลอดเส้นทาง จากนั้น ทั้งสองได้ชมสิ่งของทางประวัติศาสตร์จากราชสำนักที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐ และเดินทางไปยังโบสถ์เซนต์จอร์จซึ่งเป็นที่ประทับสุดท้ายของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ซึ่งเคยต้อนรับนายทรัมป์ในการเยือนรัฐครั้งแรกเมื่อปี 2019 โดยพวกเขาได้วางพวงหรีดที่สุสานของพระองค์ นอกจากนี้ยังมีการสวนสนามของทหารและการแสดงการบินโดยฝูงบินผาดแผลง […]

อังกฤษจับผู้ฉายภาพ ‘ทรัมป์-เอปสตีน’ บนกำแพงปราสาทวินด์เซอร์

ลอนดอน 17 ก.ย. – ตำรวจอังกฤษจับกุมผู้ต้องหา 4 คนในวันอังคาร หลังเกิดเหตุการณ์ฉายภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ คู่กับนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดทางเพศ ขึ้นบนปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ระหว่างการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ นายทรัมป์เดินทางถึงอังกฤษเมื่อช่วงค่ำวันอังคารเพื่อเยือนรัฐอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่สองซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเขาจะได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ในวันพุธ ที่ปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางตะวันตกประมาณ 40 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร กลุ่มผู้ประท้วงได้นำป้ายผ้าขนาดใหญ่ซึ่งมีภาพของนายทรัมป์และนายเอปสตีนไปกางไว้ใกล้ปราสาทวินด์เซอร์ และต่อมาได้ฉายภาพหลายภาพของทั้งสองคนขึ้นบนหอคอยแห่งหนึ่งของปราสาท ตำรวจแถลงว่า ผูัเกี่ยวข้อง 4 คนถูกจับกุมในข้อหาการสื่อสารที่ประสงค์ร้ายจากเหตุการณ์ “การฉายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต” ที่ปราสาทวินด์เซอร์ ซึ่งตำรวจอธิบายว่าเป็นการสร้างกระแสในที่สาธารณะ โดยขณะนี้ทั้งสี่ยังอยู่ระหว่างการควบคุมตัว นายทรัมป์เคยเป็นเพื่อนกับนายเอปสตีนก่อนที่จะมาเป็นประธานาธิบดี แต่ได้เลิกคบหากับอดีตนักการเงินผู้นี้หลายปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อปี 2019.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เดินทางถึงอังกฤษแล้ว

ลอนดอน 17 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเดินทางถึงกรุงลอนดอนแล้วเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร เพื่อเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่สอง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เครื่องบินของประจำตำแหน่งประธานาธิบดี “แอร์ฟอร์ซ วัน” ของนายทรัมป์ลงจอดที่สนามบินลอนดอนสแตนสเต็ด โดยมีนางอีเวตต์ คูเปอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศและไวเคานต์ เฮนรี ฮูด ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 รอต้อนรับ หลังจากน้ันประธานาธิบดีสหรัฐและนางเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังวินฟิลด์เฮาส์ ซึ่งเป็นบ้านพักอย่างเป็นทางการของเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหราชอาณาจักร เพื่อพักค้างคืน นายทรัมป์มีกำหนดเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ที่ปราสาทวินด์เซอร์ในวันนี้ ในระหว่างการเยือน คาดว่าทั้งสองประเทศจะทำข้อตกลงมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์พิเศษที่นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น.-813.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษคุมเข้มความปลอดภัยก่อน ‘ทรัมป์’ เยือนพรุ่งนี้

ลอนดอน 16 ก.ย. – อังกฤษเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ก่อนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐและนางเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่ง จะเริ่มต้นการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นการเดินทางเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการครั้งที่สองของทรัมป์ ตำรวจอังกฤษลาดตระเวนบริเวณน่านน้ำใกล้พระราชวังวินด์เซอร์เมื่อวานนี้ ขณะที่มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ก่อนการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการของนายทรัมป์และนางเมลาเนียในสัปดาห์นี้ โดยในระหว่างการเยือนวันพุธนี้ ทรัมป์และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะได้รับการต้อนรับด้วยพิธีการสุดหรูตามธรรมเนียมของราชวงศ์อังกฤษ รวมถึงการนั่งขบวนรถม้า การจัดเลี้ยงอย่างเป็นทางการ (state banquet) การบินผ่านของเครื่องบินทหาร (flypast) และการยิงสลุต เรียกได้ว่าไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐคนใดได้รับเชิญในลักษณะนี้มาก่อน เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง จะได้รับเชิญให้ร่วมดื่มชาหรือรับประทานอาหารกลางวันกับพระประมุขเท่านั้น รัฐบาลอังกฤษหวังว่า “พลังที่นุ่มนวล” (soft power) ของราชวงศ์จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับทรัมป์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐในด้านการป้องกันประเทศ ความมั่นคง และพลังงาน โดยก่อนหน้านี้ ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทแล้วส่วนในวันพฤหัสบดี นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำสหรัฐที่บ้านพักในชนบท “เช็คเกอร์ส” (Chequers) เพื่อหารือความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญ เช่น สถานการณ์ในยูเครน และการผลักดันให้สหรัฐฯ ปรับลดภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมตามที่เคยให้คำมั่นไว้ นายทรัมป์เดินทางเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2562 ตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ซึ่งตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และตรงกับช่วงที่เทเรซา […]

วุฒิสมาชิกสหรัฐเยือนไต้หวันหารือด้านความมั่นคง

ไทเป 29 ส.ค. – วุฒิสมาชิกโรเจอร์ วิคเกอร์ ประธานคณะกรรมการด้านการทหารของวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนไต้หวันที่แข็งขันที่สุดในรัฐสภาสหรัฐ เดินทางถึงกรุงไทเปในวันศุกร์ เพื่อหารือเรื่องความมั่นคงในช่วงเวลาที่ภัยคุกคามจากจีนเพิ่มสูงขึ้น วิคเกอร์ จากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เขาและวุฒิสมาชิก เด็บ ฟิชเชอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันและเป็นกรรมการด้านการทหารเช่นกัน เดินทางมาไต้หวันเพื่อตอกย้ำและเน้นย้ำ “ความเป็นหุ้นส่วนที่ดี” ที่สหรัฐและไต้หวันมีร่วมกันและจะมีในอนาคตเขากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สนามบินซงซานใจกลางกรุงไทเปว่า เขาเดินทางมาเพื่อพูดคุยกับเพื่อนและพันธมิตรในไต้หวันเกี่ยวกับสิ่งที่สหรัฐกำลังทำเพื่อเพิ่มสันติภาพทั่วโลก ซึ่งเป็นสันติภาพที่มาจากความแข็งแกร่ง นอกจากน้ัน ยังเดินทางมาเยือนเพื่อย้ำความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนและมิตรภาพด้านความมั่นคงที่สหรัฐมีกับไต้หวันมานานหลายทศวรรษ เมื่อเดือนที่แล้ว สถานทูตจีนได้เรียกร้องให้นายวิคเกอร์และสมาชิกรัฐสภาคนอื่น ๆ ยกเลิกแผนการเดินทางไปไต้หวัน โดยจีนมองว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และมักจะประณามการแสดงออกถึงการสนับสนุนใดๆ ที่ไต้หวันได้รับจากสหรัฐ การเดินทางของวิคเกอร์เกิดขึ้นในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสบางส่วน ทั้งจากพรรครีพับลิกันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรคเดโมแครต ต่างแสดงความกังวลว่าทรัมป์กำลังลดความสำคัญของประเด็นความมั่นคงลง เนื่องจากเขากำลังเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับจีน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของรัฐบาลกล่าวว่านายทรัมป์ยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในขณะที่เขาเดินหน้าตามวาระการค้าและความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน แม้จะไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ แต่สหรัฐยังคงเป็นผู้สนับสนุนและจัดหาอาวุธที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีใต้เตรียมเยือนญี่ปุ่น

โซล 13 ส.ค. – ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้จะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น โฆษกของประธานาธิบดีอี แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำทั้งสองจะหารือถึงแนวทางในการปรับปรุงสันติภาพในภูมิภาคและส่งเสริมความร่วมมือไตรภาคีกับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม โฆษกผู้นำเกาหลีใต้ไม่ได้ระบุวันที่จะจัดการประชุมสุดยอดที่แน่นอนระหว่างการเยือนญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 วันของประธานาธิบดีอี ก่อนหน้านี้ นายดีอีเคยวิพากษ์วิจารณ์ความพยายามของรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดก่อน ๆ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น และเมื่อเขาได้พบกับนายอิชิบะในการประชุมสุดยอดครั้งแรกนอกรอบการประชุมผู้นำประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี7 (G7) ที่แคนาดาเมื่อเดือนมิถุนายน ทั้งคู่ได้ให้คำมั่นว่าจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ต่างก็เป็นพันธมิตรของสหรัฐ มักจะตึงเครียดเนื่องจากข้อพิพาททางประวัติศาสตร์ที่สืบเนื่องมาจากการที่๊ญี่ปุ่นปกครองคาบสมุทรเกาหลีในฐานะอาณานิคมในช่วงปี 1910-1945 สำหรับการประชุมสุดยอดครั้งที่สองของผู้นำทั้งสองยังมีขึ้นในขณะที่สองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชียกำลังเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐที่บังคับใช้โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของประธานาธิบดีอีมีขึ้นก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางเยือนสหรัฐ ซึ่งเขามีกำหนดประชุมสุดยอดกับนายทรัมป์ในวันที่ 25 สิงหาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

ปธน. เกาหลีใต้เตรียมต้อนรับการเยือนผู้นำเวียดนาม

โซล 7 ส.ค. – สำนักงานของประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยวันนี้ว่า ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับนายโต เลิม (To Lam) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่จะเดินทางมาเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการเป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ โดยจะมีการหารือเพื่อกระชับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และพลังงานนิวเคลียร์ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นายโต เลิม จะเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่เดินทางเยือนเกาหลีใต้นับตั้งแต่ที่นายอีชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนมิถุนายน และการเดินทางครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าของตน นางคัง ยู-จอง โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า นอกเหนือจากการค้าและการลงทุนแล้ว ผู้นำทั้งสองจะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในประเด็นเชิงกลยุทธ์ รวมถึงความมั่นคงในภูมิภาค ตลอดจนโครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐ จะเรียกเก็บภาษีร้อยละ 15 สำหรับสินค้าเกาหลีใต้ และร้อยละ 20 สำหรับสินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหรัฐ บริษัทในเกาหลีใต้ เช่น ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเวียดนามเพื่อขยายฐานการผลิตนอกประเทศจีน แต่เนื่องจากนโยบายภาษีของทรัมป์ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการลงทุนในอนาคต แหล่งข่าวในเกาหลีใต้ที่ทราบเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำทั้งสองกล่าวว่า นายโต เลิม และ นายอี […]

‘ทรัมป์’ เตรียมเยือนปากีสถานเดือนกันยายน

อิสลามาบัด 17 ก.ค. – สถานีโทรทัศน์ข่าวท้องถิ่นสองแห่งของปากีสถานรายงานวันพฤหัสบดี อ้างแหล่งข่าววงในคาดหมายว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ว่าจะเดินทางเยือนปากีสถานในเดือนกันยายนนี้ หากว่านายทรัมป์เยือนปากีสถานจริง การเยือนครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดีสหรัฐในรอบเกือบสองทศวรรษ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เคยเดินทางเยือนปากีสถานเมื่อปี 2006 แต่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศปากีสถานกล่าวว่า เขาไม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเยือนของนายทรัมป์ในครั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ข่าวทั้งสองแห่งระบุว่า หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนกรุงอิสลามาบัดในเดือนกันยายนแล้วนายทรัมป์จะเดินทางเยือนอินเดียต่อ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-ปากีสถานใกล้ชิดมากขึ้นเมื่อนายทรัมป์เป็นเจ้าภาพต้อนรับพลเอกอาซิม มูเนียร์ ผู้บัญชาการทหารบกปากีสถาน ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนที่แล้ว ในการประชุมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน.-813.-สำนักข่าวไทย

ปธน. ไต้หวันเตรียมเยือนปารากวัยเดือนหน้า

อาซุนซิออง 14 ก.ค. – ประธานาธิบดีซันติอาโก เพนญา ผู้นำปารากวัย กล่าววันจันทร์ว่า ปารากวัยกำลังเตรียมพร้อมต้อนรับประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันในเดือนหน้า ซึ่งหมายความว่า มีแนวโน้มสูงว่า นายไล่น่าจะต้องแวะพักระหว่างทางในสหรัฐ ซึ่งเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนและน่าจะสร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่รัฐบาลจีน ปารากวัยเป็นหนึ่งในเพียง 12 ประเทศที่ยังคงมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน ซึ่งจีนอ้างสิทธิ์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของตน และเป็นประเทศเดียวในอเมริกาใต้ที่ยังคงสถานะนี้ การเยือนอเมริกากลางและอเมริกาใต้ของประธานาธิบดีไต้หวันมักจะรวมถึงการแวะพักในสหรัฐเสมอ เนื่องจากระยะทางที่ห่างไกลจากไต้หวัน แต่บ่อยครั้งที่การแวะพักเหล่านี้กลายเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการเดินทาง เนื่องจากสหรัฐเป็นผู้สนับสนุนและจัดหาอาวุธรายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า ตามธรรมเนียมปฎิบัติเช่นเดียวกับในอดีตทีผ่านมา หากมีการประกาศใดๆ ก็จะดำเนินการ “ตามความเหมาะสม” โดยปกติแล้ว ไต้หวันจะยืนยันการเดินทางดังกล่าวเพียงไม่นานก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง นายไล่ยังไม่เคยเดินทางไปสหรัฐนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งสมัยที่สองเมื่อต้นปีนี้ โดยเมื่อปลายปีที่แล้วคุณไล่ได้แวะพักที่เกาะฮาวายและเกาะกวมที่เป็นดินแดนของสหรัฐ ระหว่างการเยือนปนระเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยังไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ผู้นำไต้หวันจะแวะพักที่สหรัฐในเดือนหน้า.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เตรียมเยือนอังกฤษแบบรัฐพิธีรอบสองกันยายนนี้

ลอนดอน 15 ก.ค. – สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์วานนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐตอบรับเรื่องเดินทางเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการแบบรัฐพิธี ระหว่างวันที่ 17-19 กันยายนนี้ การเยือนครั้งนี้เป็นไปตามคำเชิญของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งจะถือเป็นผู้นำประเทศคนแรกที่ได้รับการเชิญให้เดินทางไปเยือนอังกฤษแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 โดยสถานที่ต้อนรับจะใช้เป็นพระราชวินด์เซอร์ แทนพระราชวังบักกิงแฮมที่กำลังอยู่ระหว่างบูรณะ นักวิเคราะห์บอกว่าการเชิญทรัมป์เดินทางเยือนอังกฤษแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระดับสูง หรือมีเหตุผลทางการทูตพิเศษบางอย่าง.-815.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 19
...