ปักกิ่ง 3 ก.ย.- จีนจัดพิธีสวนสนามครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ในวันนี้ เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 80 ปีวันแห่งชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งทำให้จีนหลุดพ้นจากการรุกรานของญี่ปุ่น
พิธีเริ่มต้นขึ้นด้วยการเชิญธงชาติจีนผืนใหญ่ขึ้นสู่ยอดเสาที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ท่ามกลางการเปล่งเสียงร้องเพลงชาติของผู้คนจำนวนมาก พร้อมกับการบรรเลงของวงดุริยางค์ จากนั้นประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ขึ้นรถเปิดประทุนตรวจพลสวนสนามจากกองกำลังปลดปล่อยประชาชนจีน ซึ่งในวันนี้มีการนำอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยมาร่วมแสดงแสนยานุภาพอย่างยิ่งใหญ่ และปิดท้ายด้วยการปล่อยนกพิราบ 80,000 ตัว พร้อมปล่อยลูกโป่งหลากสีสันขึ้นสู่ท้องฟ้า
โอกาสนี้ประธานาธิบดีสีได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าผู้ร่วมในงานกว่า 50,000คนว่า สงครามโลกครั้งที่สองเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการฟื้นฟูประเทศจีนครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งทำให้จีนสามารถเอาชนะความอัปยศจากการรุกรานของญี่ปุ่น จนกลายมาเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในทุกวันนี้ ผู้นำจีนเตือนด้วยว่า โลกกำลังเผชิญทางเลือกระหว่างสงครามหรือสันติภาพ การเจรจาหรือการเผชิญหน้ากัน ชัยชนะของทุกฝ่ายหรือความสิ้นสูญ และกล่าวเสริมว่า ชาวจีนจะต้องยืนหยัดอย่างมั่นคงอยู่ในฝ่ายที่ถูกต้องของประวัติศาสตร์
งานในวันนี้มีผู้นำชาติต่าง ๆ เข้าร่วมกว่า 20 ประเทศ โดยเฉพาะแขกคนสำคัญอย่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ผู้นำทั้งสองได้ร่วมปรากฎตัวเคียงข้างกับประธานาธิบดีสี ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยาก ขณะที่ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซียบินด่วนมาร่วมงานอย่างเหนือความคาดหมาย จากเดิมที่ประกาศยกเลิกแผนการเยือนจีนไปแล้วเนื่องจากมีการประท้วงรุนแรงในประเทศ อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียกลับไม่ได้ปรากฎตัวในงานสวนสนามในวันนี้
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความลงในทรูธโซเชียลของเขา ย้ำถึงบทบาทของสหรัฐที่เคยให้การช่วยเหลือจีนให้ได้รับอิสรภาพจากญี่ปุ่น และขอให้ผู้นำจีนช่วยส่งต่อความปรารถนาดีอย่างยิ่งไปยังนายปูตินและนายคิม เนื่องจากกำลังรวมหัวกันวางแผนต่อต้านสหรัฐ ก่อนหน้านี้ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้มองว่าพิธีสวนสนามของจีนในครั้งนี้เป็นการท้าทายสหรัฐ พร้อมกับย้ำว่าตนเองมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับประธานาธิบดีสี.-816(814).-สำนักข่าวไทย
