Trump says Israel 'beyond very close' on Gaza peace deal

“ทรัมป์” เผยอิสราเอลหนุนข้อเสนอสันติภาพกาซา

วอชิงตัน 30 ก.ย.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้นำอิสราเอลตกลงที่จะสนับสนุนข้อเสนอสันติภาพของสหรัฐ เพื่อยุติสงครามในกาซาที่ดำเนินมาเกือบ 2 ปี ขณะที่หลายประเทศพร้อมสนับสนุนความพยายามนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงร่วมกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลที่มาเยือนทำเนียบขาวเป็นครั้งที่ 4 เมื่อวานนี้ว่า “ใกล้มากแล้ว” ที่จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพให้แก่กาซา เขาขอขอบคุณผู้นำอิสราเอลที่ตกลงสนับสนุน และหวังว่าฮามาสจะรับข้อเสนอนี้ด้วยเช่นกัน แต่หากฮามาสปฏิเสธ สหรัฐก็พร้อมสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ให้ดำเนินการทุกอย่างที่คิดว่าจำเป็นต้องทำ ขณะที่นายเนทันยาฮูกล่าวว่า สนับสนุนแผนการของนายทรัมป์ที่จะยุติสงครามในกาซา เพราะเป็นไปตามเป้าหมายการทำสงครามของอิสราเอลที่ต้องการช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมด ทำลายศักยภาพการสู้รบของฮามาส ยุติการที่ฮามาสปกครองกาซา และสร้างหลักประกันว่ากาซาจะไม่เป็นภัยต่ออิสราเอลอีกต่อไป กลุ่มอิสลามิก จีฮัด ซึ่งเป็นกลุ่มปาเลสไตน์ที่จับตัวประกันด้วยเช่นกันออกแถลงการณ์ประณามการแถลงข่าวดังกล่าวว่า เป็นข้อตกลงระหว่างอเมริกันและอิสราเอลที่แสดงให้เห็นถึงจุดยืนทั้งหมดของอิสราเอล และเป็นสูตรสำเร็จในการเดินหน้ารุกรานชาวปาเลสไตน์ต่อไป อิสราเอลพยายามดำเนินการผ่านสหรัฐเพื่อบรรลุในสิ่งไม่สามารถบรรลุได้ด้วยการทำสงคราม ดังนั้นขอประณามการประกาศนี้ว่า เป็นสูตรสำเร็จในการทำลายภูมิภาคนี้ ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย จอร์แดน สหรัฐเอมิเรตส์ อินโดนีเซีย ปากีสถาน ทูร์เคีย กาตาร์ และอียิปต์ออกแถลงการณ์ร่วมกันสนับสนุนความเป็นผู้นำและความพยายามอย่างจริงใจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะยุติสงครามในกาซา โดยเชื่อมั่นว่านายทรัมป์จะสามารถหาหนทางไปสู่สันติภาพได้ และพร้อมจะเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์กับสหรัฐและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดข้อตกลงและรับรองการดำเนินการที่จะเป็นไปเพื่อสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพของผู้คนในภูมิภาค เช่นเดียวกับผู้นำชาติตะวันตกอย่างประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีจอร์จา เมโลนีของอิตาลี และนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาเมอร์ของอังกฤษที่โพสต์แสดงความสนับสนุนนายทรัมป์ ขณะที่นายโทนี […]

A van displaying a photo of Trump with Epstein during Trump's England visit Sept.17,2025

“มัสก์”-“เจ้าชายแอนดรูว์” มีชื่อในแฟ้มฉาวเอปสตีนล่าสุด

วอชิงตัน 27 ก.ย.- นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและเจ้าชายแอนดรูว์ พระอนุชาในสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ของอังกฤษ มีชื่ออยู่ในแฟ้มใหม่ที่สหรัฐเปิดเผยเกี่ยวกับนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน ผู้กระทำผิดในคดีล่วงละเมิดทางเพศที่เสียชีวิตในห้องขังเมื่อหลายปีก่อน สมาชิกพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการกำกับดูแลและปฏิรูปรัฐบาลของสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยแฟ้มเอกสารเมื่อวานนี้ ประกอบด้วยตารางการทำงานรายวันของนายเอปสตีน บันทึกการส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์ สำเนาบันทึกเที่ยวบิน และรายชื่อผู้โดยสารบนเครื่องบิน และสำเนาสมุดบัญชีแยกประเภท ข้อมูลเหล่านี้ปรากฏรายชื่อผู้มีชื่อเสียงหลายคน ชื่อของนายมัสก์ วัย 54 ปี อยู่ในบันทึกข้อความเตือนความจำลงวันที่ 6 ธันวาคม 2557 ว่าจะเดินทางไปที่เกาะ ขณะที่ชื่อของเจ้าชายแอนดรูว์ พระชันษา 65 ปี อยู่ในรายชื่อผู้โดยสารเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับนายเอปสตีนและนางกิสเลน แม็กซ์เวลล์ คนสนิทของนายเอปสตีน เป็นการเดินทางจากเขตทีเทอร์โบโร รัฐนิวเจอร์ซีย์ไปยังเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดาเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2543 นอกจากนี้ยังมีบันทึกอ้างอิงการชำระเงินค่านวด 2 รายการให้แก่บุคคลชื่อ “แอนดรูว์” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม 2543 ด้วย แฟ้มที่มีการเปิดเผยล่าสุดยังมีชื่อของนายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์อยู่ในตารางนัดหมายเดือนธันวาคม 2557 ของนายเอปตีน นายเกตส์เคยให้สัมภาษณ์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) […]

US Deputy Secretary of State Christopher Landau and Moroccan Foreign Minister Nasser Bourita

สหรัฐ-โมร็อกโกย้ำความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์

นิวยอร์ก 27 ก.ย.- สหรัฐและโมร็อกโกย้ำความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ในเขตภูมิภาคแอฟริกาตอนเหนือ สถานทูตโมร็อกโกประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา นายคริสโตเฟอร์ แลนเดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ และนายนัสเซอร์ บูริต้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของโมร็อกโก ได้ประชุมร่วมกันนอกรอบการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 หรือยูเอ็นจีเอ 80 (UNGA80) ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ นายแลนเดาแจ้งในการประชุมว่า สหรัฐจะสนับสนุนให้เพิ่มการลงทุนในจังหวัดทางตอนใต้ของประเทศโมร็อกโก (Southern Provinces of Morocco) ให้เป็นไปตามความริเริ่มของสหรัฐที่จะส่งเสริมการทูตเชิงเศรษฐกิจและการค้า แถลงการณ์ระบุว่า นับตั้งแต่สหรัฐให้การรับรองแผนการปกครองตนเองบนพื้นที่ซาฮาร่า ภายใต้อำนาจอธิปไตยของโมร็อกโกเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2563 ทั้งสองฝ่ายได้ส่งเสริมให้การหารือเพื่อตอกย้ำถึงการรับรองนี้ ครอบคลุมไปถึงโครงการการลงทุนหลายโครงการของสหรัฐในพื้นที่ซาฮาร่าของโมร็อกโก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐที่จะริเริ่มโครงการการลงทุนในจังหวัดทางตอนใต้ของประเทศโมร็อกโกผ่านเรื่องนี้ และผ่านสาส์นแสดงความยินดีไปยังสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6 แห่งโมร็อกโก เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 สถานทูตโมร็อกโกประจำประเทศไทยระบุด้วยว่า เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนในหลากหลายมิติระหว่างสหรัฐกับพันธมิตรประเทศต่าง ๆ โมร็อกโกได้วางจุดยืนประเทศเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐในทวีปแอฟริกา.-814.-สำนักข่าวไทย

Thai PM gives speech in Celebrating the 76th Anniversary of the Founding of the People's Republic of China

นายกฯ ไทยร่วมงานเลี้ยง 76 ปี สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน

กรุงเทพฯ 27 ก.ย.- นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 76 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมกับเชิญชวนผู้ประกอบการจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และเชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนประเทศไทย เฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยโพสต์ว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และนางเมี่ยว ไห่เอี้ยน ภริยา ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 76 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่กรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภาและประธานวุฒิสภา นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน นายชิม ชินวิริยกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย นายฐาปน […]

Colombia President speaks in front of UN headquarters in New York

สหรัฐจะเพิกถอนวีซ่า ปธน.โคลอมเบีย

วอชิงตัน 27 ก.ย.- สหรัฐจะเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศของประธานาธิบดีกุสตาโบ เปโตรของโคลอมเบีย โดยระบุว่า ผู้นำโคลอมเบียเรียกร้องให้ทหารอเมริกันขัดขืนไม่ฟังคำสั่งและยุยงให้เกิดความรุนแรงขณะอยู่ในสหรัฐ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐโพสต์ผ่านเอ็กซ์ (X) เมื่อวันศุกร์ว่า กระทรวงจะเพิกถอนวีซ่าของนายเปโตร เพราะการกระทำที่ไร้ความยั้งคิดและก่อความไม่สงบของเขา สหรัฐประกาศเรื่องนี้หลังจากผู้นำโคลอมเบีย  ซึ่งไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 หรือยูเอ็นจีเอ 80 (UNGA80) ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ กล่าวกับฝูงชนหน้าสำนักงานใหญ่ยูเอ็นว่า ขอให้ทหารทุกนายในกองทัพสหรัฐไม่เล็งปืนไปที่ประชาชน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ปฏิบัติตามคำสั่งด้านมนุษยธรรม ประธานาธิบดีเปโตร วัย 65 ปี ใช้การกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้นำโลกเมื่อวันที่ 23 กันยายนตามเวลาท้องถิ่น กล่าวโจมตีนายทรัมป์ว่า สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา พร้อมกับเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีอาญากับสหรัฐ กรณีที่ใช้ขีปนาวุธยิงทำลายเรือต้องสงสัยค้ายาเสพติดที่กำลังแล่นในทะเลแคริบเบียน ผู้นำโคลอมเบียได้นำคลิปที่เขาไปกล่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ที่ชุมนุมประท้วงในนครนิวยอร์กมาโพสต์ซ้ำในสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวันศุกร์ เขาเป็นหนึ่งในผู้แสดงตัวคัดค้านอย่างเปิดเผยต่อการที่อิสราเอลทำสงครามในกาซา และได้สั่งระงับการส่งออกถ่านหินไปให้อิสราเอล นายเปโตรเป็นอดีตสมาชิกกลุ่มกองโจรเอ็ม-19 (M-19) ที่เคลื่อนไหวในโคลอมเบียช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1970 และคริสต์ทศวรรษ 1980 เคยถูกกองทัพจับกุมในปี 2528 ข้อหาครอบครองอาวุธและถูกจองจำนาน 18 เดือน ต่อมาในปี 2533 เขาและพรรคพวกยอมวางอาวุธ หลังจากเจรจากับรัฐบาลเรื่องการนิรโทษกรรมและผันตัวเป็นพรรคการเมือง […]

South Korea's National Information Resources Service where battery explodes

ออนไลน์รัฐบาลเกาหลีใต้ยังใช้ไม่ได้หลังไฟไหม้ศูนย์ข้อมูล

โซล 27 ก.ย. – ระบบและบริการออนไลน์หลายร้อยแห่งของรัฐบาลเกาหลีใต้ยังคงไม่สามารถให้บริการได้ในเช้าวันนี้ หลังจากเกิดไฟไหม้ที่ศูนย์ข้อมูลแห่งชาติ อันเกิดจากแบตเตอรี่ระเบิดเมื่อวันศุกร์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ระบบและบริการออนไลน์ของรัฐบาล 647 แห่ง รวมถึงระบบยืนยันตัวตนทางโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการไปรษณีย์ออนไลน์ ยังคงไม่สามารถให้บริการได้จนถึงเช้าวันนี้ นายคิม มิน แจ รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย แถลงว่า รัฐบาลสั่งระงับการให้บริการเพื่อปกป้องระบบเป็นการล่วงหน้า เนื่องจากไฟไหม้ทำให้การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้ระบบเกิดความร้อนจัดได้ รัฐบาลจะเร่งทำให้บริการสำคัญ เช่น ไปรษณีย์ การเงิน กลับมาใช้งานได้ก่อนเป็นอันดับแรก สำนักงานบริการทรัพยากรข้อมูลแห่งชาติในเมืองแทจ็อน ทางตอนกลางของเกาหลีใต้เกิดไฟไหม้ เนื่องจากแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้า หรือยูพีเอส (UPS) ชิ้นหนึ่งเกิดระเบิดขึ้นในห้องคอมพิวเตอร์บนชั้น 5 ของสำนักงานเมื่อค่ำวันศุกร์ ในระหว่างที่พนักงานกำลังขนย้ายแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเหล่านี้ ไปเก็บไว้ในห้องใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 170 คน และรถดับเพลิง 63 คัน พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไฟไหม้ในจุดหลักได้เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น พนักงานที่ขนย้ายแบตเตอรี่คนหนึ่งมีบาดแผลไฟไหม้ระดับแรกที่แขนและใบหน้า เป็นการบาดเจ็บในชั้นหนังกำพร้า ส่วนแบตเตอรี่จำนวน 200 ชิ้น ในห้องบนชั้น […]

Towns flooded as tropical storm batters the Philippines

พายุ “บัวลอย” คร่า 10 ชีวิตในฟิลิปปินส์ มุ่งหน้าเวียดนาม

มะนิลา 27 ก.ย.- ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อนบัวลอย (Bualoi) ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์วานนี้เพิ่มขึ้นจาก 4 คน เป็น 10 คนแล้วในวันนี้ คาดว่าพายุจะทวีกำลังขึ้นเป็นไต้ฝุ่นอีกครั้งในขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเวียดนาม ฟิลิปปินส์สั่งงดการเรียนการสอนและการทำงานในหลายพื้นที่ รวมถึงเขตมหานครมะนิลา สั่งอพยพประชาชนจำนวนมากไปยังศูนย์พักพิง ก่อนที่พายุโซนร้อนบัวลอยขึ้นฝั่งจังหวัดซีลางังซามาร์หรือซามาร์ตะวันออก ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ แล้วเคลื่อนตัวข้ามไปยังเกาะมัสบาเตและพัดทั่วเขตบีโคล ทางตอนใต้ของเกาะลูซอนที่อยู่ทางเหนือของประเทศ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผู้เสียชีวิตมีทั้งต้นไม้ล้มทับ จมน้ำ กำแพงพังถล่ม น้ำท่วมฉับพลันและคลื่นพายุซัดฝั่งหรือสตอร์มเซิร์จ ผู้ว่าราชการจังหวัดมัสบาเตร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง เนื่องจากต้องเร่งรื้อซากความเสียหาย ซ่อมแซมการจ่ายไฟฟ้า และเปิดท่าเรือเพื่อเปิดทางให้แก่การลำเลียงความช่วยเหลือ พายุลูกนี้ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ตามหลังไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) ซึ่งเป็นพายุรุนแรงที่สุดของปีนี้ ขึ้นฝั่งทางตอนเหนือเมื่อวันที่ 21 กันยายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน ก่อนเคลื่อนตัวไปสร้างความเสียหายให้แก่ไต้หวัน คร่าชีวิตอย่างน้อย 15 คน พายุบัวลอยซึ่งมีชื่อในภาษาตากาล็อกว่า โอปอง (Opong) มีความเร็วลมสูงสุด 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความเร็วลมกระโชกเพิ่มขึ้นเป็น 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังกลับขึ้นเป็นไต้ฝุ่นอีกครั้งในขณะที่เคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังเวียดนาม รัฐบาลเวียดนามแจ้งว่า พายุที่เคลื่อนตัวเร็วนี้จะขึ้นฝั่งทางตอนเหนือและตอนกลางของเวียดนามในวันจันทร์ ทำให้เกิดฝนตกหนักตั้งตาวันที่ 28 […]

Vietnam's Communist Party chief To Lam

ผู้นำเวียดนามจะเยือนเกาหลีเหนือครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี

ฮานอย 25 ก.ย.- เจ้าหน้าที่เวียดนามเปิดเผยว่า นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจะเดินทางเยือนเกาหลีเหนือในเดือนตุลาคม นับเป็นผู้นำเวียดนามคนแรกในรอบเกือบ 20 ปีที่จะเยือนเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่เวียดนาม 2 คนที่ขอสงวนนามไม่ได้ให้กรอบเวลาการเยือนที่ชัดเจนและประเด็นที่จะหารือ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า นายเลิมจะพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการจากทั้งสองฝ่าย ผู้นำเวียดนามที่ไปเยือนเกาหลีเหนือคนล่าสุดคือ นายหน่ง ดึ๊ก หมั่น ไปเยือนเป็นเวลา 3 วัน ในปี 2550 เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คนแรกที่ไปเยือนเกาหลีเหนือ นับจากประธานาธิบดีโฮจิมินห์ไปเยือนในปี 2500 ขณะที่นายคิม จอง อึน เดินทางไปเวียดนามครั้งแรกในปี 2562 เป็นการเยือนหลังจากประชุมสุดยอดเป็นครั้งที่ 2 กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ข้อมูลในเว็บไซต์ของสถานทูตเวียดนามประจำกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือบ่งชี้ว่า ประเทศคอมมิวนิสต์ทั้ง 2 ประเทศนี้ยังคงมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ใกล้ชิด แม้ว่าปัจจุบันไม่มีการความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน เจ้าหน้าที่ระดับล่างของทั้ง 2 ฝ่ายเดินทางไปประชุมที่เมืองหลวงของอีกฝ่ายในช่วงหลายปีมานี้ โดยได้ฟื้นการประชุมเมื่อปี 2567 หลังจากระงับไปนาน 5 ปี […]

At least one dead as gunman opens fire, kills himself at Dallas ICE facility

กราดยิงใส่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในสหรัฐ

ดัลลัส 25 ก.ย.- เกิดเหตุมือปืนกราดยิงใส่อาคารสำนักงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองในเมืองดัลลัสของสหรัฐ เป็นเหตุให้ผู้ต้องขังเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน ก่อนที่มือปืนจะปลิดชีพตัวเอง เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า มือปืนซึ่งซุ่มยิงมาจากดาดฟ้าอาคารหลังหนึ่งได้สาดกระสุนเข้าใส่อาคารสำนักงานภาคสนามของสำนักงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองหรือไอซ์ (ICE) ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสเมื่อเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เป็นการกราดยิงแบบไม่เลือกหน้าและยังสาดกระสุนเข้าใส่รถตู้คันหนึ่งบริเวณทางเข้าอาคาร ทำให้มีผู้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ในรถเสียชีวิต 1 คนและได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 2 คน ส่วนมือปืนหลังจากก่อเหตุได้ยิงตัวตายบนดาดฟ้าอาคารที่ใช้เป็นจุดซุ่มยิง คริสตี โนม รัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิยืนยันในการให้สัมภาษณ์สื่อว่า ผู้ก่อเหตุคือนายโจชัว ยาห์น วัย 29 ปี ทางการสหรัฐได้เผยแพร่ภาพถ่ายผู้ต้องหาของเขาที่ถ่ายไว้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว จากการที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดเมื่อปี 2559 นายกาช ปาเทล ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ได้โพสต์ภาพกระสุนปืนของผู้ต้องสงสัยที่ยังไม่ใช้งาน ซึ่งมีข้อความว่า “ANTI-ICE” สลักเอาไว้บนปลอกกระสุนนัดหนึ่ง รัฐมนตรีความมั่นคงมาตุภูมิระบุว่า จากหลักฐานเบื้องต้นแสดงให้เห็นถึงแรงจูงใจทางการเมืองที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยผู้ก่อเหตุเล็งเป้าไปที่สำนักงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง  สำหรับที่เกิดเหตุเป็นสำนักงานภาคสนามของ ICE ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้สำหรับการประมวลผลระยะสั้นของผู้ที่เพิ่งถูกจับกุม ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความในทรูธโซเชียลกล่าวหาว่า กลุ่มเดโมแครตฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงเป็นผู้ยุยงให้ใช้ความรุนแรงต่อ ICE […]

Closed sign outside of U.S. Library Congress during Jan. 2018 shutdown

ทำเนียบขาวให้เตรียมแผนลอยแพหมู่ หากต้อง “ชัตดาวน์”

วอชิงตัน 25 ก.ย.- ทำเนียบขาวของสหรัฐขอให้หน่วยงานรัฐบาลกลางเตรียมแผนการเลิกจ้างครั้งใหญ่ในช่วงที่อาจต้องปิดหน่วยงานรัฐชั่วคราวหรือชัตดาวน์ในสัปดาห์หน้า หากรัฐสภาไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณก่อนวันที่ 1 ตุลาคม นับเป็นการเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญเพราะปกติแล้วจะพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างเป็นการชั่วคราวเท่านั้น สำนักงานการจัดการและงบประมาณหรือโอเอ็มบี (OMB) ของทำเนียบขาวส่งบันทึกไปยังหน่วยงานรัฐบาลกลางเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ขอให้ระบุชื่อโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในวันที่ 1 ตุลาคม หากรัฐสภาไม่ผ่านร่างงบประมาณ พร้อมกับนำเสนอแผนลดกำลังคนต่อโอเอ็มบี และแจ้งให้คนทำงานทราบแม้ว่าเป็นกลุ่มที่จะไม่ถูกเลิกจ้าง หรืออาจถูกพักงานชั่วคราวก็ตาม รอยเตอร์ระบุว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทำเนียบขาวจะใช้โอกาสนี้เดินหน้าแผนการลดจำนวนคนทำงานในหน่วยงานรัฐบาลกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หรือไม่ หรือเป็นเทคนิคการต่อรองเพื่อบีบให้พรรคเดโมแครตผ่านร่างกฎหมายงบประมาณของพรรครีพับลิกัน เนื่องจากเขาได้ยกเลิกการประชุมกับแกนนำพรรคเดโมแครตเพื่อหารือเรื่องงบประมาณรัฐบาลเมื่อวันอังคาร เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการชัตดาวน์ตั้งแต่สัปดาห์หน้า โดยทั้งสองพรรคต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่า ทำให้การผ่านร่างงบประมาณระยะสั้นฉบับชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลกลางทำงานได้จนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน ถึงทางตัน นายทรัมป์ประกาศตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมเรื่องจะลดจำนวนคนทำงานในหน่วยงานรัฐบาลกลางที่มีทั้งหมด 2.4 ล้านคน โดยอ้างว่าเทอะทะและไร้ประสิทธิภาพ รอยเตอร์อ้างนายสกอตต์ คูเปอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารบุคคลเมื่อเดือนสิงหาคมว่า คนทำงานของรัฐบาลกลางจะออกจากงานราว 300,000 คนภายในสิ้นปีนี้ ในจำนวนนี้ 154,000 คนรับข้อเสนอว่าจะลาออกในวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณ 2568 และเป็นเส้นตายที่รัฐสภาต้องผ่านร่างประมาณรายจ่ายรัฐบาลเพื่อเลี่ยงการชัตดาวน์.-814.-สำนักข่าวไทย

Weather map shows Super Typhoon Ragasa nearing Hong Kong on Sep 24,2025

ฮ่องกงย้ายเครื่องบินหนีไต้ฝุ่น “รากาซา”

ฮ่องกง 24 ก.ย.- ไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) ซึ่งเป็นพายุรุนแรงที่สุดของปีนี้ นอกจากทำให้ฮ่องกงต้องยกเลิกเที่ยวบินและสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาลแล้ว ยังทำให้ต้องย้ายเครื่องบินไปลงจอดที่สนามบินอื่นเพื่อความปลอดภัย ข้อมูลในเว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์24 (Flightradar24) ที่ติดตามการสัญจรทางอากาศในเวลาจริงพบว่า ก่อนที่ไต้ฝุ่นรากาซา ซึ่งมีกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวมาถึงฮ่องกงในวันนี้ เครื่องบินราวร้อยละ 80 ของสายการบิน 4 แห่งที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกงถูกย้ายไปลงจอด หรือสั่งจอดที่ท่าอากาศยานอื่นในญี่ปุ่น จีน กัมพูชา ยุโรป ออสเตรเลีย และอีกหลายแห่ง ตามที่การท่าอากาศยานฮ่องกงได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินเข้าออกทั้งหมดเป็นเวลา 36 ชั่วโมง ตั้งแต่เย็นวันอังคารที่ผ่านมา สนามบินนานาชาติฮ่องกง ถือเป็นสนามบินที่มีการขนส่งสินค้ามากที่สุดในโลก และมีผู้โดยสารใช้บริการมากเป็นอันดับ 9 ของโลก เกรทเทอร์เบย์แอร์ไลน์ แจ้งว่า จอดเครื่องบินที่มีอยู่ทั้งหมด 7 ลำ นอกฮ่องกง ขณะที่ฮ่องกงแอร์ไลน์ดูเหมือนได้จอดเครื่องบินนอกฮ่องกง 27 ลำ จากทั้งหมด 28 ลำ ส่วนคาเธ่ย์แปซิฟิค สายการบินใหญ่ที่สุดของฮ่องกง มีฝูงบินโดยสารและขนส่งสินค้ารวมทั้งหมด 179 ลำ และเอชเคเอ็กซ์เพรส สายการบินต้นทุนต่ำในเครือคาเธ่ย์แปซิฟิค ข้อมูลติดตามการสัญจรทางอากาศพบว่า มีเครื่องบินจำนวนหนึ่งจอดอยู่ในฮ่องกง ฮ่องกงแจ้งสัญญาณเตือนภัยไต้ฝุ่นเป็นหมายเลข […]

Man found guilty of attempted assassination in plot to kill Trump at Florida golf club

ชายวัย 59 ถูกตัดสินว่ามีความผิดพยายามลอบสังหาร ‘ทรัมป์’

ฟลอริดา 24 ก.ย.- สื่อในสหรัฐรายงานว่า คณะลูกขุนตัดสินให้ชายที่เล็งปืนในระหว่างที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเล่นกอล์ฟที่สนามกอล์ฟในรัฐฟลอริดาเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน มีความผิดในข้อหาพยายามฆ่า สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์รายงานเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า คณะลูกขุนตัดสินว่า นายไรอัน รูธ วัย 59 ปี มีเจตนาฆ่านายทรัมป์ที่ขณะนั้นยังเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน จากการที่นายรูเล็งปืนไรเฟิลผ่านรั้ว ในขณะที่นายทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟที่ทรัมป์อินเตอร์เนชันนัลกอลฟ์คลับของนายทรัมป์ที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา โทษสูงสุดของนายรูธคือจำคุกตลอดชีวิต พยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การต่อศาลรัฐบาลกลางในเมืองฟอร์ตเพียร์ซ รัฐฟลอริดาว่า นายรูธวิ่งหนีโดยที่ยังไม่ได้ลั่นไกปืน หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาที่ลาดตระเวนตรวจตราสนามกอล์ฟสังเกตเห็นนายรูธและปืนไรเฟิลจึงได้เปิดฉากยิงปืนก่อน ทำให้เขาหลบหนีไป ก่อนถูกจับกุมได้ในวันเดียวกัน อัยการระบุในคำฟ้องว่า นายรูธเดินทางมายังเขตแคลิฟอร์เนียใต้ราว 1 เดือนก่อนวันเกิดเหตุ เขาอาศัยที่จุดพักรถบรรทุก คอยติดตามความเคลื่อนไหวและตารางงานของนายทรัมป์ มีโทรศัพท์มือถือถึง 6 เครื่อง และใช้ชื่อปลอมปกปิดตัว ส่วนในวันก่อเหตุ 15 กันยายน 2567 เขาซุ่มรอในพงหญ้านานเกือบ 10 ชั่วโมง เล็งไปยังบริเวณกอล์ฟหลุมที่ 6 ขณะที่นายทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟบริเวณหลุมที่ 5 ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ทั้งนี้ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก ถุงใส่แผ่นโลหะคล้ายที่ใช้ในเสื้อเกราะกันกระสุน 2 ถุง และกล้องวิดีโอขนาดเล็กเล็งไปยังสนามกอล์ฟ […]

1 2 3 697