ปักกิ่ง 26 ส.ค.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะให้การต้อนรับผู้นำโลกมากกว่า 20 คนในการประชุมด้านความมั่นคงภูมิภาคที่นครเทียนจินในสัปดาห์หน้า นักวิเคราะห์มองว่า เป็นเวทีที่ผู้นำจีนจะใช้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของกลุ่มประเทศโลกใต้ (Global South) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนา
การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้หรือเอสซีโอ (SCO) ครั้งที่ 25 จะจัดขึ้นที่นครเทียนจิน ทางตอนเหนือของจีน ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-1 กันยายน 2568 มีผู้นำจากเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเชิญให้เข้าร่วม โดยนอกเหนือจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะมาร่วมประชุมแล้ว ยังจะมีนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียมาร่วมประชุมด้วยเช่นกัน และจะเป็นการเยือนจีนครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปีของนายโมดี ในช่วงที่อินเดียและจีนเดินหน้าเยียวยาความสัมพันธ์ที่เสื่อมถอยจากเหตุปะทะชายแดนในปี 2563
นายเอริก โอลันเดอร์ บรรณาธิการโครงการจีน-โลกใต้ (China-Global South Project) ซึ่งเป็นการจัดรายการวิทยุแบบพอดแคสต์เรื่องจีนกับประเทศกำลังพัฒนามองว่า ประธานาธิบดีสีต้องการใช้การประชุมสุดยอดนี้เป็นโอกาสในการแสดงให้เห็นว่า ระเบียบโลกในยุคหลังผ่านพ้นการนำของสหรัฐจะมีหน้าตาเป็นเช่นใด และความพยายามของรัฐบาลสหรัฐตั้งแต่เดือนมกราคมที่จะคานอำนาจจีน อิหร่าน รัสเซีย จนมาถึงอินเดีย ไม่ได้ให้ผลอย่างที่สหรัฐต้องการ
เอสซีโอก่อตั้งขึ้นในปี 2544 โดยจีนและประเทศเพื่อนบ้าน 5 ประเทศประกอบด้วยคาซัคสถาน คีร์กิซสถาน รัสเซีย ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน ต่อมาอินเดีย ปากีสถานเข้าร่วมในปี 2560 ตามด้วยอิหร่านในปี 2566 และเบลารุสในปี 2567 รวมเป็นรัฐสมาชิก 10 ประเทศ รัฐสังเกตการณ์ 2 ประเทศ หุ้นส่วนเจรจา 14 ประเทศ และแขกรับเชิญ 4 ประเทศหรือองค์กร ส่วนไทยไม่ได้ร่วมในการรวมตัวนี้
นายมาโนช เกวัลรามานี ประธานโครงการวิจัยอินโด-แปซิฟิกในบังกลาเทศ ซึ่งไม่ใช่ประเทศในเอสซีโอเห็นว่า เอสซีโอเป็นเวทีที่มีอำนาจในการชักจูงดึงดูดมากขึ้น แต่ยังคงมีประสิทธิภาพอย่างจำกัดมากในการแก้ไขประเด็นความมั่นคงสำคัญ ขณะที่นายโอลันเดอร์มองว่า ไม่ควรประเมินอำนาจการชักจูงของเอสซีโอที่มีต่อโลกใต้ต่ำเกินไป.-814.-สำนักข่าวไทย
