ศบค.ระบุไทยคุมตัวเลขผู้ป่วยได้ดีกว่าที่ประเมินไว้หลายแสน

ทำเนียบรัฐบาล 15 เม.ย.-โฆษกศบค.แถลงตัวเลขผู้ป่วยโควิดใหม่ 30 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวม 43 ราย ระบุไทยคุมตัวเลขผู้วยได้ดีกว่าที่ประเมินไว้หลายแสนคน ชี้ตัวเลขติดเชื้อจากในบ้านเพิ่มขึ้น ย้ำอยู่บ้านก็ต้องเว้นระยะห่าง 


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (15เม.ย.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 30 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,643 ราย รักษาหาย 1,497 ราย รักษาตัวอยู่ 1,103 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวม 43 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นหญิงชาวไทย อายุ 65 ปี อาชีพขายอาหารที่ถนนคนเดินที่จังหวัดเชียงใหม่ มีโรคประจำตัว เบาหวาน ไตเรื้อรังและความดันโลหิตสูง วันที่ 7 มีนาคมมีอาการไข้สูงไอและซื้อยามารับประทานเอง 12 มีนาคมอาการยังไม่ดีขึ้น จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ และมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ที่อยู่ในบ้าน 15 มีนาคมมีอาการหน้ามืด จึงไปโรงพยาบาลแห่งเดิม และกลับมารักษาตัวที่บ้าน 

“17 มีนาคมตรวจเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐ โดยผู้ป่วยยังรู้สึกตัวดี แต่มีอาการเหนื่อย จากนั้นได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19  วันที่ 19 มีนาคมแพทย์รักษาและให้ยาตามมาตรฐาน วันที่ 22 มีนาคมผู้ป่วยหายใจเหนื่อยหอบมากขึ้น มีอาการอักเสบในปอดอย่างรุนแรง หัวใจโต 6 เมษายน ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว  ความดันโลหิตตก ได้รับยากระตุ้นการทำงานของหัวใจ แต่อาการไม่ดีขึ้นและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 เมษายน อีกรายเป็นชายไทย อายุ 60 ปี มีประวัติไปร่วมพิธีทางศาสนาอิสลามที่ประเทศอินโดนิเซีย เดินทางกลับไทยวันที่ 24 มีนาคม และวันที่ 2 เมษายน เริ่มมีอาการไข้สูง 38.4 องศาเซลเซียส  ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่จังหวัดอยุธยา ส่งตรวจยืนยันเป็นผู้ป่วยโควิด-19 อาการแย่ลงเรื่อย ๆ เสียชีวิตวานนี้(14 เม.ย.)” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 34 ราย พบว่ามาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 19 ราย คนไทยเดินทางกลับจากประเทศฝรั่งเศส 1 ราย ไปสถานที่ชุมนุมชน 2 ราย ไม่มีบุคลากรทางการแพทย์และมีผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา มีผู้เข้ารับการกักกันตัว 1 ราย อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 7 ราย ส่วนผู้ป่วยสะสม 2,643 ราย พบใน 5 จังหวัดที่สูงที่สุดได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,328 ราย ภูเก็ต 190 ราย นนทบุรี 149 ราย สมุทรปราการ 108 ราย ยะลา 93 ราย จำแนกอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคน พบว่าจังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 45.96 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 23.42 ยะลา ร้อยละ 17.41 นนทบุรี ร้อยละ 11.86 และปัตตานี ร้อยละ 11.78  ขณะที่ 9 จังหวัดยังไม่มีรายงานการรักษาผู้ป่วยได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรีและอ่างทอง

“ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือร่วมใจกัน อาจจะเห็นภาพตามที่ประเมินสถานการณ์เลวร้ายที่สุดไว้ก่อนหน้านี้ว่าอาจมีผู้ป่วยกว่า 3 แสนคน แต่ในวันนี้ไทยมีผู้ป่วยอยู่ที่ 2,643 ราย จึงต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันปฏิบัติตัวและคุมตัวเลขไว้ได้ ทั้งนี้ เมื่อแบ่งผู้ป่วยตามแหล่งติดเชื้อของกรุงเทพมหานครนนทบุรีและสมุทรปราการ พบว่าเดือนมีนาคม 1,054 ราย มาจากต่างประเทศร้อยละ 15 ติดเชื้อนอกบ้าน ร้อยละ 77 ติดเชื้อในบ้าน ร้อยละ 8 และเดือนเมษายน 460 ราย มาจากต่างประเทศ ร้อยละ 17 ติดเชื้อนอกบ้าน ร้อยละ 60 และติดเชื้อในบ้าน ร้อยละ 23 ซึ่งจะเห็นได้ว่าการติดเชื้อในบ้านเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงของการประกาศเคอร์ฟิว ทำให้ประชาชนอยู่บ้านมากขึ้น และอาจเกิดการแพร่กระจายเชื้อได้ ดังนั้นแม้ว่าจะอยู่บ้านก็ควรเว้นระยะห่างระหว่างกันและใส่หน้ากากอนามัย” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนปัจจัยเสี่ยงของจังหวัดชลบุรีในเดือนมีนาคมถึงเมษายนพบว่าช่วงแรกระยะผู้ป่วยนำเข้าตั้งแต่ 17 มีนาคมเป็นรายแรกมีประวัติมาจากสนามมวยและผู้ป่วยสัมผัส จากนั้นเป็นระยะนำเข้าและแพร่โรคต่อในจังหวัดเฉพาะกลุ่มและสถานที่เสี่ยงของชาวต่างชาติและกลุ่มเที่ยวหรือทำงานในสถานบันเทิง หรือกลุ่มเพื่อนที่สังสรรค์กัน และในระยะแพร่โรคในครอบครัวและชุมชน มาจากกลุ่มอาชีพเสี่ยง ร่วมบ้านร่วมทำงาน บุคลากรทางการแพทย์และมาจากนอกจังหวัด 


“สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อแล้วรวม 1,998,138 ราย เสียชีวิต 126,607 ราย สหรัฐอเมริกา อยู่ที่อันดับ 1 มีผู้ติดเชื้อ 613,886 ราย ไทยยังอยู่ที่อันดับที่ 50 และวานนี้(14 เม.ย.) สิงคโปร์ มีผู้ติดเชื้อ 334 ราย ทำให้สิงคโปร์ต้องเปิดโรงแรมลอยน้ำ เพื่อเป็นที่พักให้กับแรงงานต่างชาติ โดยเป็นเรือของพนักงานในอุตสาหกรรมพลังงานนอกชายฝั่งและอุตสาหกรรมทางทะเล ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ 200-300 คนเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนสถานการณ์ของประเทศอื่น ๆ เช่น จีนได้อนุมัติให้นำวัคซีน 2 ตัว สำหรับต้านไวรัสโควิด-19 เข้าทดสอบในระดับคลินิกกับคน เช่นเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ไทยได้เร่งวิจัยวัคซีนด้วย ส่วนอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นภัยพิบัติแห่งชาติ/ ฝรั่งเศสได้ประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ประเทศออกไปอีก 4 สัปดาห์จนถึงวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ประเทศญี่ปุ่น ผู้ว่าการกรุงโตเกียวยื่นคำขาดกับชาวบ้านและร้านค้าให้อยู่บ้านและชัตดาวน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงผู้ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว ว่า มีประชาชนออกนอกเคหสถาน 845 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน 81 ราย แบ่งเป็นพื้นที่ภาคกลางถูกดำเนินคดีมากที่สุด ที่จังหวัดปทุมธานี รองลงมาคือภาคตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งตัวเลขต่าง ๆ เป็นการสะท้อนว่าเมื่อฝ่าฝืนกฎหมายอาจจะทำให้พื้นที่นั้นมีความเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น ส่วนการจัดส่งหน้ากากอนามัยของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 7 – 14 เมษายนส่งมอบแล้วกว่า 16 ล้านชิ้น จากจำนวนที่รับมอบมากว่า 19 ล้านชิ้น ส่วนของกระทรวงมหาดไทยส่งมอบแล้วกว่า 10 ล้านชิ้น

โฆษกศบค. กล่าวว่า วันนี้(15 เม.ย.) จะมีเที่ยวบินของคนไทยที่ตกค้างเดินทางกลับจากเกาหลีใต้ จำนวน 92 คน พรุ่งนี้(16 เม.ย.) จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 120 คน วันที่ 16 เมษายนจากมัลดีฟส์ 70 คน และวันที่ 17 เมษายนจากบังคลาเทศ 35 คน.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]