ผู้ประท้วงชาวอินโดนีเซียก่อความไม่สงบในเมืองบันดุง

บันดุง 30 ส.ค. – ชาวอินโดนีเซียหลายร้อยคนรวมตัวกันประท้วงที่เมืองบันดุง ของอินโดนีเซีย เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างรายหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกรถตำรวจชนในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตถูกรถชนในจุดที่มีการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง เมื่อวันพฤหัสบดี ที่บริเวณใกล้กับอาคารรัฐสภา ขณะที่ตำรวจพยายามสลายการชุมนุมของผู้ประท้วง การเสียชีวิตดังกล่าวทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้ปฏิืรูปหน่วยงานตำรวจของประเทศ เหตุการณ์ประท้วงนี้ยังถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ของรัฐบาลประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ที่เพิ่งขึ้น ดำรงตำแหน่งได้ไม่ถึงปี โดยการประท้วงเริ่มขึ้นจากความไม่พอใจในประเด็นต่างๆ เช่น ค่าตอบแทนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สูงมากและเงินทุนด้านการศึกษา ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันอย่างรุนแรงใกล้กับอาคารรัฐสภา คลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ประท้วง แสดงให้เห็นอาคารหลายแห่งถูกไฟไหม้ และผู้ประท้วงบางคนปาวัตถุที่ติดไฟใส่ ท่ามกลางกลุ่มคนจำนวนมากที่ยังคงชุมนุมกันจนถึงช่วงค่ำของวันศุกร์ เหตุความไม่สงบนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย ค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่าลงร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และดัชนีตลาดหุ้นก็ลดลงร้อยละ 1.5 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุน.-813.-สำนักข่าวไทย

นักศึกษาอินโดนีเซียลั่นเดินหน้าประท้วง

จาการ์ตา 29 ส.ค. – กลุ่มนักศึกษาชาวอินโดนีเซียระบุว่าจะจัดการประท้วงที่สำนักงานตำรวจกรุงจาการ์ตาในวันศุกร์ หลังจากมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รายหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกรถตำรวจชนระหว่างเหตุปะทะรุนแรงที่เกิดขึ้นหลังการชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวันก่อน นายมูซามมิล อิห์ซาน หัวหน้าสหภาพนักศึกษาที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นักศึกษาจะทำการประท้วงต่อต้านความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงบ่ายวันศุกร์ และคาดว่าจะมีกลุ่มนักศึกษาอื่น ๆ เข้าร่วมด้วย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมดำเนินการประท้วงในหลายประเด็น เช่น เงินเดือนของ สมาชิกรัฐสภาที่สูงเกินไป งบประมาณด้านการศึกษา และโครงการอาหารกลางวันของรัฐบาล เมื่อการประท้วงยืดเยื้อไปถึงกลางคืน สื่อท้องถิ่นรายงานว่าตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สน้ำตาและใช้รถฉีดน้ำเพื่อพยายามสลายผู้ชุมนุม พล.ต.ท. อเซป เอดิ ซูเฮรี ผู้บัญชาการตำรวจกรุงจาการ์ตา กล่าวว่า ระหว่างการปะทะกัน มีรถหุ้มเกราะของตำรวจชนและทำให้คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเสียชีวิต ซึ่งทางสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ระบุว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงดังกล่าว ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจก็ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนนายอับดุล การิม หัวหน้าแผนกวิชาชีพและรักษาความปลอดภัยของตำรวจอินโดนีเซีย กล่าวในงานแถลงข่าวว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 7 คนที่ประจำการอยู่ในรถหุ้มเกราะดังกล่าวถูกจับกุมและอยู่ระหว่างการสอบสวน หลังจากการเสียชีวิตดังกล่าว สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รวมตัวประท้วงหน้ากองบัญชาการตำรวจปราบจลาจล เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และสถานีโทรทัศน์ “กอมปาส” (Kompas TV) รายงานว่าในวันศุกร์ ทหารถูกส่งไปยังอาคารดังกล่าวเพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์ผู้ประท้วงหลายสิบคนที่ยังคงปักหลักอยู่ ในขณะเดียวกันกลุ่ม “จาการ์ตา ลีกัล เอด” (Jakarta […]

ผู้ประท้วงอินโดนีเซียปะทะตำรวจ

จาการ์ตา 29 ส.ค. – กลุ่มชาวอินโดนีเซียที่ไม่พอใจที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. มีเงินเดือนและสวัสดิการที่สูงลิ่วชุมนุมประท้วงเมื่อวานนี้ในกรุงจาการ์ตาและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นว่าตำรวจใช้แก๊สน้ำตายิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้พลุไฟตอบโต้ และมีรถตำรวจบางคันถูกเผาทำลายด้วย ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ก็ใช้แก๊สน้ำตาและรถฉีดน้ำแรงดันสูงในการสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่พยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาของอินโดนีเซีย เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อค่าตอบแทนและสวัสดิการของสมาชิกรัฐสภาที่สูงเกินไป สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ในเดือนนี้ บรรดดา ส.ส. ได้รับเงินเดือนและค่าตอบแทนอื่น ๆ รวมกันสูงถึง 100 ล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 229,000 บาทต่อเดือน ซึ่งรวมถึงค่าที่พักอาศัยด้วย ซึ่งรายได้เหล่านี้สูงกว่ารายได้เฉลี่ยของประชากรในประเทศที่อยู่ที่ 3.1 ล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 7,100 บาท นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังไม่พอใจในเรื่อง “ชนชั้นนำที่ทุจริต” ในรัฐบาล และนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่และกองทัพ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการอ้างถึงบทบาทของกองทัพที่เพิ่มขึ้นในกิจการพลเรือนภายใต้การนำของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ที่อดีตนายพลในกองทัพอีกด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

พนักงานแอร์แคนาดายุติผละงานประท้วง

มอนทรีออล/โตรอนโต 20 ส.ค. – สายการบินแอร์แคนาดาและสหภาพแรงงานพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบรรลุข้อตกลงร่วมกันในวันอังคาร ซึ่งเป็นการยุติการประท้วงของลูกเรือครั้งแรกที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี และส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางของผู้โดยสารหลายแสนคน การประท้วงที่กินเวลานานเกือบสี่วันนี้ ทำให้สายการบินซึ่งให้บริการผู้โดยสารประมาณวันละ 130,000 คน ต้องประกาศยกเลิกแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่สามและตลอดทั้งปี สายการบินแถลงว่าจะทยอยกลับมาให้บริการอีกครั้งตั้งแต่วันอังคาร และอาจต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้นเพื่อฟื้นฟูระบบให้กลับมาเป็นปกติ ส่วนทางสหภาพกล่าวว่าได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกับสายการบินหลักและสายการบินราคาประหยัดในเครือคือ “แอร์แคนาดา รูจ” เสร็จสิ้นแล้ว สหภาพแรงงานพนักงานของรัฐแห่งแคนาดา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า การประท้วงสิ้นสุดลงแล้ว ขณะนี้มีข้อตกลงเบื้องต้นที่จะนำเสนอต่อสมาชิกสหภาพแรงงานต่อไป แอร์แคนาดาระบุว่าจะยังคงมีการยกเลิกเที่ยวบินบางส่วนในช่วง 7 ถึง 10 วันข้างหน้า จนกว่าตารางบินจะเข้าที่ และลูกค้าที่ถูกยกเลิกเที่ยวบินสามารถเลือกที่จะขอคืนเงิน เก็บเครดิตการเดินทางไว้ใช้ในภายหลัง หรือจองตั๋วใหม่กับสายการบินอื่นได้ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้หยุดงานประท้วงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่การเจรจาเรื่องสัญญาไม่เป็นผล แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการเจรจาในทันที แต่สหภาพกล่าวว่าการทำงานที่ไม่ได้ค่าตอบแทนได้สิ้นสุดลงแล้ว ก่อนหน้านี้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของแอร์แคนาดาเรียกร้องให้สัญญาจ้างใหม่มีการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับงานที่ทำบนภาคพื้นดิน เช่น การต้อนรับผู้โดยสารขึ้นเครื่อง.-813.-สำนักข่าวไทย

พนักงานแอร์แคนาดาผละงานประท้วง

มอนทรีออล 16 ส.ค. – พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานของสายการบินแอร์แคนาดา ผละงานในช่วงเช้าตรู่วันเสาร์ หลังจากการเจรจาสัญญากับสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศต้องหยุดชะงักลง อาจส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางของผู้โดยสารมากกว่า 100,000 คน สหภาพแรงงานซึ่งเป็นตัวแทนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของแอร์แคนาดามากกว่า 10,000 คน ได้ยืนยันการดำเนินการดังกล่าวในโพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก หรือตรงกับเวลาเที่ยงตรงตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งเป็นการนัดหยุดงานครั้งแรกของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นับตั้งแต่ปี 1985 เป็นต้นมา ในปัจจุบันพนักงานต้อนรับจะได้รับค่าจ้างเมื่อเครื่องบินเดินทางเคลื่อนที่เท่านั้น สหภาพแรงงานจึงเรียกร้องให้มีการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับเวลาที่อยู่บนพื้นระหว่างเที่ยวบินและเวลาที่ช่วยเหลือผู้โดยสารขึ้นเครื่องด้วย สายการบินแอร์แคนาดา ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในเมืองมอนทรีออล คาดว่าจะตอบโต้โดยการสั่งปิดงาน (lockout) พนักงานในทันที และได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน 500 เที่ยว ภายในวันศุกร์ที่อยู่ระหว่างช่วงฤดูท่องเที่ยวในฤดูร้อน โดยคาดว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบประมาณ 100,000 คน ในวันศุกร์เพียงวันเดียว ในวันเสาร์ คาดว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะรวมตัวกันประท้วงที่สนามบินหลักต่างๆ ของแคนาดา โดยปกติแล้วแอร์แคนาดา และสายการบินต้นทุนต่ำในเครือ อย่างแอร์แคนาดา รูจ จะให้บริการผู้โดยสารประมาณ 130,000 คนต่อวัน นอกจากนี้แอร์แคนาดายังเป็นสายการบินต่างชาติที่มีจำนวนเที่ยวบินไปยังสหรัฐมากที่สุดอีกด้วย แม้ว่าความขัดแย้งครั้งนี้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้โดยสารบนโซเชียลมีเดียที่เห็นใจพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่ภาคธุรกิจของแคนาดาที่กำลังประสบปัญหาจากข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดให้มีการอนุญาโตตุลาการที่มีผลผูกพัน (binding arbitration) สำหรับทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะทำให้การนัดหยุดงานสิ้นสุดลง […]

ชาวกรุงวอชิงตันไม่พอใจมาตรการ ‘ทรัมป์’

วอชิงตัน 14 ส.ค. – ประชาชนในกรุงวอชิงตันของสหรัฐออกมาประท้วงที่ด่านตรวจของตำรวจและมีการรวมกลุ่มตามสองข้างถนนเนื่องจากไม่พอใจมาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการปราบปรามอาชญากรรมและคนไร้บ้าน ด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน นายทรัมป์สั่งยึดอำนาจตำรวจเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมาและส่งทหารจากกองกำลังพิทักษ์มาตูภูมิ 800 นายเข้ามาปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่เคยใช้ในนครลอสแองเจลีสเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายทรัมป์ให้เหตุผลว่าเวลานี้กรุงวอชิงตันกำลังเผชิญปัญหาอาชญากรรมอย่างรุนแรงและมีปัญหาเรื่องคนไร้บ้านอย่างกว้างขวาง ทั้งๆ ที่ในช่วงนี้สถิติในการก่ออาชญากรรมลดลงอย่างมากหลังจากที่เคยพุ่งสูงสุดเมื่อปี 2566.-816.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลแถลงยันกัมพูชาละเมิดข้อตกลง ยื่นประท้วง ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน

ทำเนียบ 29 ก.ค.-รัฐบาลแถลงยืนยันไทยมีความจริงใจ-หยุดยิงตามข้อตกลง แต่กัมพูชากลับยิงใส่ทหารไทยหลายพื้นที่ จึงได้ประท้วงไปที่ ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน ขอประชาชนอย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้รอผลยืนยันจากรัฐ พร้อมสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ปกป้องอธิปไตยประเทศ-คุ้มครองประชาชน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์ความคืบหน้าการดำเนินการของรัฐบาลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลไทยมีความจริงใจ และใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะยุติสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเร็วที่สุด การเจรจาจนมีข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชน และยึดถืออำนาจอธิปไตยของประเทศเป็นสำคัญ รวมทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทหารของชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความหวังร่วมกันของประชาคมโลกที่จะคืนสันติภาพแก่ประชาชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเคารพต่อผลการหารือที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า กองกำลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยมีการใช้อาวุธยิงต่อกำลังฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ ทำให้ทหารฝ่ายไทยต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ได้รับทราบว่า การละเมิดข้อตกลงนี้เป็นเหตุจากการไม่ซื่อตรง และไม่จริงใจของกัมพูชาอย่างชัดเจน สถานการณ์ในขณะนี้ รัฐบาลมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพตรึงกำลัง เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ยินยอมให้อธิปไตยไทยถูกล่วงล้ำไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนี้ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างแม่ทัพภาคของทั้ง 2 ประเทศ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ใส่หน้ากากประท้วง ผิดกฎหมายในสหรัฐฯ จริงหรือ?

01 กรกฎาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลน่าสงสัย : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเหตุประท้วงสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ หรือ ICE ในลอสแอนเจลิสเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศทางสื่อ Truth Social เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2025 ว่าเตรียมออกกฎหมาย ให้การสวมหน้ากากประท้วงรัฐบาลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย บทสรุป : 1.ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจออกกฎหมายห้ามผู้ชุมนุมใส่หน้ากาก2.หน้ากากถูกมองว่าเป็นเครื่องมือส่งเสริมการแสดงออกตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : กฎหมายห้ามสวมหน้ากากในสหรัฐฯ สหรัฐฯ เคยใช้กฎหมายห้ามสวมหน้ากากตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยปี 1845 รัฐนิวยอร์กได้ผ่านกฎหมายห้ามสวมหน้ากาก เพื่อรับมือเหตุกลุ่มชาวนาประท้วงการเรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลัง ด้วยการปลอมตัวเป็นชาวอเมริกันพื้นเมืองและทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในทศวรรษที่ 1950s หลายรัฐได้ออกกฎหมายห้ามสวมหน้ากาก เพื่อรับมือกับกลุ่มก่อการร้าย Ku Klux Klan ที่พรางตัวในชุดคลุมสีขาวระหว่างก่ออาชญากรรมทางเชื้อชาติ แม้หลายรัฐมีความพยายามนำกฎหมายห้ามสวมหน้ากากกลับมาบังคับใช้ แต่ก็มีการโต้แย้งว่าการห้ามสวมหน้ากากคือการขัดขวางการแสดงออกโดยไม่เปิดเผยตัวตน […]

สหรัฐจัดพิธีสวนสนามทางทหาร

วอชิงตัน 15 มิ.ย. – ขบวนสวนสนามทางทหารที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐต้องการมานานได้เคลื่อนผ่านใจกลางกรุงวอชิงตันในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น แต่การสวนสนามเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 250 ปีของการก่อตั้งกองทัพบกสหรัฐ ขบวนสวนสนาม จัดในวันศุกร์ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดปีที่ 79 ของนายทรัมป์ ได้เริ่มต้นขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากมีการพยากรณ์ว่าจะมีพายุฝนฟ้าคะนองในพื้นที่วอชิงตัน รถถัง รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ และปืนใหญ่ได้เคลื่อนที่ไปตามเส้นทางสวนสนามตลอดถนนคอนสติติวชัน ซึ่งเป็นภาพที่ไม่คุ้นตาในสหรัฐอเมริกา ที่การแสดงแสนยานุภาพทางทหารเช่นนี้หาชมได้ยาก นายทรัมป์กล่าวว่า ทุกประเทศต่างก็มีการฉลอชัยชนะกันทั้งนั้น และขณะนี้ถึงเวลาที่สหรัฐจะได้จัดกิจกรรมลักษณะนี้บ้าง ผู้เข้าชมนับพันคนยืนเรียงรายอยู่ตามเส้นทางเดินสวนสนาม นายทรัมป์เฝ้าชมพิธีการจากอัฒจันทร์ยกระดับซึ่งมีกระจกกันกระสุนกั้นอยู่ ในขณะเดียวกัน ฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีบางส่วนสามารถหาจุดยืนตามเส้นทางสวนสนามได้ โดยได้ชูป้ายประท้วง ส่วนผู้ชุมนุมประท้วงคนอื่น ๆ ถูกตำรวจท้องถิ่นแยกออกห่างจากฝูงชนที่มาชมการสวนสนาม กองทัพบกสหรัฐนำกำลังพลเกือบ 7,000 นาย เข้ามายังกรุงวอชิงตัน พร้อมด้วยยานพาหนะ 150 คัน ซึ่งรวมถึงรถถังเอ็ม1 เอบรามส์ (M1 Abrams) กว่า 25 คัน, รถหุ้มเกราะสไตรเกอร์ (Stryker) 28 คัน, ยานยิงปืนใหญ่อัตตาจร “พาลาดิน” (Paladin) 4 คัน, […]

ศาลอุทธรณ์เปิดทาง ‘ทรัมป์’ คงกองกำลังในแอลเอได้ตอนนี้

ลอสแอนเจลิส 13 มิ.ย. – ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐได้อนุญาตในวันพฤหัสบดีให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงส่งกำลังทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) เข้าประจำการในนครลอสแอนเจลิสต่อไปได้ ท่ามกลางการประท้วงที่ทวีความรุนแรงขึ้นเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง โดยเป็นการระงับคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่สั่งห้ามการระดมกำลังพลดังกล่าวเป็นการชั่วคราว คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค 9 ของสหรัฐ ไม่ได้หมายความว่าศาลจะเห็นด้วยกับนายทรัมป์ แต่หมายความว่านนายจะยังคงมีอำนาจบัญชาการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิได้ในตอนนี้ เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ก่อนหน้านี่ ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐ ชาร์ล บรีเยอร์ ซึ่งประจำอยู่ในซานฟรานซิสโก ได้ตัดสินว่าการที่นายทรัมป์สั่งการให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) ไปประจำการในนครลอสแอนเจลิสนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผู้พิพากษาบรีเยอร์สั่งให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิกลับไปอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียแกวิน นิวซัม ซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้องคดีนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่า นายนิวซัมได้ชัยชนะเพียงแค่ชั่วครู่ เนื่องจากคำสั่งของผู้พิพากษาบรีเยอร์ถูกศาลอุทธรณ์ระงับไปในเวลาต่อมาไม่นาน นายทรัมป์ได้สั่งระดมกำลังทหารเข้าประจำการในนครลอสแอนเจลิส เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการของตำรวจ แม้จะมีการคัดค้านจากนายนิวซัม ซึ่งเป็นมาตรการที่ไม่ธรรมดาและไม่ค่อยถูกนำมาใช้ นายทรัมป์ได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจของเขา โดยกล่าวว่าหากเขาไม่ทำเช่นนั้น เมืองคงจะลุกเป็นไฟ การประท้วงที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปรายและจำกัดอยู่เพียงไม่กี่จุดของเมือง.-813.-สำนักข่าวไทย

ชายวัย 53 ถือเลื่อยไฟฟ้าบุกทำเนียบ ตร.รุดคุมสถานการณ์

ทำเนียบ 12 มิ.ย.-ชายวัย 53 ปี ถือเลื่อยไฟฟ้าติดเครื่องบุกเข้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ด้าน ตร.นำแผงเหล็กกั้น เร่งเจรจาคุมสถานการณ์ ก่อนเกลี้ยกล่อมไปศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ พบเคยปีนตึกชูป้ายประท้วงมาแล้ว สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (12 มิ.ย.) ที่บริเวณประตู4 ทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลกได้มีผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยเสื้อกั๊กสะท้อนแสงสีส้ม กางเกงยีนส์ขายาว ในมือทั้งสองข้างถือเลื่อยไฟฟ้าที่ติดเครื่องไว้ตลอด โดยบุกเข้ามาและพยายามจะเข้าไปบริเวณภายในทำเนียบ สร้างความแตกตื่นทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้าราชการ และ บุคคลที่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ ในทำเนียบรัฐบาล ที่กำลังเดินอยู่ในบริเวณดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำเอาแผงเหล็กกั้น มาปิดทางเข้าและพยายามเกลี้ยกล่อม ให้ชายคยดังกล่าวใจเย็นๆ ก่อนที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ และเจรจา จนชายคนดังกล่าวสงบสติอารมณ์ลงได้ และพาตัวข้ามไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพูดคุยรับเรื่องร้องทุกข์ ผู้สื่อข่าวสอบถามตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ข้อมูลว่าชายคนดังกล่าว ชื่อนายเฉลิม สอนนนฐี อายุ 53 ปี เป็นชาวจังหวัดน่าน เคยมาร้องเรียนและพยายามจะเข้าไปพบผู้ใหญ่ในทำเนียบฯ หลายครั้งแล้ว เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องค่าจ้างงาน จากการก่อสร้างรพ.รัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดน่าน […]

‘ทรัมป์’ เตือนตอบโต้ด้วยกำลังหากมีประท้วงในพาเหรดกองทัพ

วอชิงตัน 11 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เตือนประชาชนในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น มิให้ประท้วงในขบวนพาเหรดของกองทัพที่จะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นกิจกรรมการฉลองครบรอบ 250 ปีของกองทัพบกสหรัฐ นายทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาวว่า สำหรับผู้ที่ต้องการประท้วง พวกเขาจะถูกตอบโต้ด้วยกำลังที่รุนแรงมาก ในขณะที่ มัตต์ แมคคูล เจ้าหน้าที่พิเศษประจำหน่วยงานอารักขาประธานาธิบดี กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ กำลังเตรียมพร้อมสำหรับประชาชนหลายแสนคนที่คาดว่าจะเข้าร่วมขบวนพาเหรดในวันเสาร์นี้ นายแมคคูล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง ตำรวจ และผู้เชี่ยวชาญหลายพันคนจะถูกส่งมาจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ทั่วประเทศ ในขณะที่สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ และสำนักงานตำรวจนครบาลกล่าวว่า ขณะนี้ไม่พบว่ามีภัยคุกคามในงานครั้งนี้ กิจกรรมเดินพาเหรดในวันเสาร์นี้ จะตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 79 ของนายทรัมป์ด้วย ซึ่งจะมีการจัดเทศกาลวันเกิดของกองทัพที่เนชันแนล มอลล์ และจะปิดท้ายด้วยขบวนพาเหรดผ่านเมืองหลวง รวมถึงพิธีการเกณฑ์ทหารและการกลับเข้ารับราชการทหารที่ประธานาธิบดีเป็นประธาน ในวันดังกล่าว กลุ่มที่ชื่อว่า “โน คิงส์” (No Kings) กำลังจัดการประท้วงทั่วประเทศเพื่อต่อต้านนายทรัมป์.-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 126
...