สธ.เร่งฉีดวัคซีนหญิงตั้งครรภ์ ห่วงติดเชื้อมากเท่าปีที่แล้ว

กรุงเทพฯ 8 มี.ค.-ก.สาธารณสุข ห่วงหญิงตั้งครรภ์ กลับมาติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเหมือนปีก่อน ย้ำต้องป้องกันตัวเองเข้มข้นตลอด และเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ หลังพบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไม่ได้รับวัคซีนมากถึง 87%


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่แล้วตั้งแต่ 27 กุมภาพันธ์ถึง 5 มีนาคม 2565 พบมีการติดเชื้อ โควิด-19 ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ และหญิงหลังคลอด 6 สัปดาห์เพิ่มมากขึ้นถึง 224 คน ทั้งนี้ จากข้อมูลตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 ถึง 5 มีนาคม 2565 พบหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด 6 สัปดาห์ติดเชื้อโควิดสะสม 7,210 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 110 ราย หรือคิดเป็น 1.5% ทารกแรกเกิดที่คลอดจากหญิงติดเชื้อ 4,013 ราย ทารกติดเชื้อ 319 ราย คิดเป็น 8% เสียชีวิต 67 ราย คิดเป็น 1.6%

จากการวิเคราะห์พบว่าหญิงกลุ่มติดเชื้อต้องผ่าตัดคลอดเพิ่มมากขึ้นกว่าหญิงตั้งครรภ์ปกติถึง 53% และทารกแรกคลอดมีน้ำหนักต่ำกว่า 2,500 กรัม ถึง 15% เมื่อดูแนวโน้มรายเดือนจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาในช่วงปี 2564 พบการติดเชื้อสูงสุดในเดือนสิงหาคม มีหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด 6 สัปดาห์ติดเชื้อสูงสุด 1,728 คน และลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2564 มาปี 2565 มีแนวโน้มหญิงตั้งครรภ์ กลับมาติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นนับจากเดือนมกราคม จากข้อมูล 4 สัปดาห์ย้อนหลัง เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่ 6 ถึง 12 กุมภาพันธ์ พบการติดเชื้อของหญิงตั้งครรภ์เริ่มสูงขึ้นทุกสัปดาห์ตั้งแต่ 59 คน 71 คน 157 คน 224 คนตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงอัตราการติดเชื้อในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่เพิ่มสูงมากขึ้นใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา หญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด 6 สัปดาห์จึงต้องระมัดระวังเข้มข้น เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต


อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงผลสำรวจอนามัยโพล พบภาพรวมหญิงตั้งครรภ์ 98% มีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 สาเหตุมาจากสังคมเริ่มการ์ดตกในการดูแลป้องกัน/สถานที่ต่าง ๆ เริ่มมีคนแออัด ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน

ส่วนการเฝ้าระวังความเสี่ยงของตนเองในหญิงตั้งครรภ์ สำรวจเมื่อ 7 มีนาคม 2565 พบว่าหญิงตั้งครรภ์ถึง 81% ทำเป็นประจำ คือ สังเกตอาการตนเองเบื้องต้น, มีการตรวจเอทีเค แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังตนเองของหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งต้องขอชื่นชมว่าเป็นเรื่องที่ดีและต้องสนับสนุนให้มีการดำเนินการต่อไป และควรทำเช่นนี้ไม่เฉพาะในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์เท่านั้นควรทำในคนทุกกลุ่ม

ส่วนการฉีดวัคซีนของหญิงตั้งครรภ์ 7,210 รายที่ติดเชื้อโควิด-19 พบว่ากว่า 87% ไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่าถ้าได้รับวัคซีนครบ2เข็มจะมีอัตราการตายลดลงกว่า 10 เท่า ส่วนข้อมูลหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนล่าสุดเข็มที่หนึ่ง 117,385 ราย เข็มที่สอง 105,094 ราย เข็มที่สาม 17,361 ราย และถ้าหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนสองเข็มจะมีอาการเจ็บหนักเพียงแค่ 8% เท่านั้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีน 240,000 ราย ส่วนผลข้างเคียงจากการได้รับวัคซีนมีเหมือนคนปกติทั่วไป จึงขอให้หญิงตั้งครรภ์เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะเป็นการป้องกันที่ดี โดยหญิงตั้งครรภ์สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ในทุกอายุครรภ์


นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการดูแลหญิงตั้งครรภ์หากติดเชื้อโควิด-19 ว่า หากไม่มีโรคประจำตัวหรือภาวะครรภ์เสี่ยงสูงสามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ งดเยี่ยมระหว่างแยกกักตัวรักษาระยะห่าง สิ่งสำคัญในห้องหญิงตั้งครรภ์นอนควรเป็นห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวกไม่ควรอยู่ร่วมกันในห้องปรับอากาศ ซึ่งอาจติดเชื้อได้ ที่สำคัญไม่ควรอยู่ร่วมกับเด็ก เรื่องการกินอาหารร่วมกันกับคนอื่น ทุกคนที่อยู่ในบ้านต้องมีการสวมหน้ากากตลอดเวลา จุดสัมผัสร่วมเช่นกลอนประตูหน้าต่างสวิตช์ไฟต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาด เสื้อผ้าแยกซักต่างหาก ห้องน้ำใช้เป็นคนสุดท้ายหรือแยกห้องน้ำ ขยะต้องทิ้งดีกว่าปิดมิดชิดใช้น้ำยาทำความสะอาด เทลงฆ่าเชื้อก่อนนำไปทิ้งด้านนอก อาการที่ควรเฝ้าระวังกรณีแยกกับตัวที่บ้าน คือท้องแข็งเลือดออกทางช่องคลอดน้ำใส่สายไหลออกทางช่องคลอดหรืออาการของครรภ์เป็นพิษ เช่น ปวดศีรษะตาพร่ามัวจุกแน่นลิ้นปี่ รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ส่งสถานพยาบาลที่ฝากครรภ์ไว้ และควรระวังอาการหายใจหอบเหนื่อยที่อาจเกี่ยวข้องกับอาการปอดอักเสบให้รีบแจ้งแพทย์ทันที

ส่วนคำถามที่พบบ่อยคือหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อจำเป็นต้องผ่าตัดคลอดทุกคนหรือไม่นั้น นพ.เอกชัย กล่าวว่าไม่จำเป็นต้องแล้วแต่ดุลพินิจของแพทย์ และอาการของหญิงตั้งครรภ์ ส่วนหลังคลอดสามารถอุ้มลูกได้ แม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดหอมแก้มลูกแต่ถ้าทารกติดเชื้อต้องแยกไปหอผู้ป่วยเด็ก ส่วนการให้ลูกดูดนมสามารถทำได้ เพราะเชื้อโควิด-19 ไม่ติดทางน้ำนม แต่ต้องทำความสะอาดเต้านมที่ทารกจะดูดนมให้ดี ส่วนการกินยาเมื่อหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อในสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ไม่ควรกินยาฟ้าทะลายโจรหรือฟาวิพิราเวียร์ แต่จะมียาชนิดอื่นใช้กับหญิงตั้งครรภ์ คือ เรมเดซิเวียร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]