สธ.ย้ำหญิงท้องเสี่ยงสูง รีบฉีดวัคซีน

กทม. 13 ส.ค.-สธ.ย้ำหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ต้องได้รับวัคซีนป้องกันการเสียชีวิตเร่งด่วน พบหญิงตั้งครรภ์ติดโควิดแล้ว 1,993 คน เสียชีวิต 37 คน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แถลงกรณีหญิงตั้งครรภ์กับโควิด-19 ว่า จากข้อมูลตั้งแต่ธันวาคม 63 ถึง 11 สิงหาคม 64 พบหญิงตั้งครรภ์แล้ว 1,993 คน เป็นคนไทย 1,315 คนต่างด้าว 678 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 10 คน มีทารกติดเชื้อ113 คน


จังหวัดที่พบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อสูงสุดคือ กรุงเทพฯ รองลงมาปริมณฑล และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต 37 คน ยังไม่รวมวันนี้ 13 สิงหาคม ที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 คน ที่จังหวัดชัยนาท และอุดรธานี มีทารกเสียชีวิต 20 คน แบ่งเป็นเสียชีวิตขณะคลอด 11 คน เสียชีวิตใน 7 วันแรก 9 คน มีหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนเข็มแรก 7,935 คน เข็มที่สอง 574 คน

ในช่วงการระบาดระลอกแรกยังพบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไม่มาก แต่ในการระบาดระลอกที่ 2 พบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ธันวาคม 63 ถึงปีนี้พบมากถึงเดือนละ 5-25 คน แต่พอระลอก 3 เมษายน -พฤษภาคม พบมากอย่างรวดเร็ว นับ 100 คนต่อเดือน กรกฎคมพบมากถึง 800 คน และพบหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตมากขึ้นตามลำดับ หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-34 ปี ร้อยละ 74.21% มากที่สุด พบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อจะเกิดภาวะปอดอักเสบ ร้อยละ 22.53 หรือ 449 คน


ที่น่าสังเกตพบหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ คลอดก่อนกำหนด 18% ซึ่งมากกว่าภาวะปกติ ที่อยู่ที่ 10% และยังพบทารกน้ำหนักน้อย ร้อยละ 16 มากกว่าปกติที่อยู่ที่ 8%

เมื่อวิเคราะห์หญิงตั้งครรภ์ 37 คนที่เสียชีวิต อยู่ในกรุงเทพฯ 7 คน ต่างจังหวัด 30 คน พบ 16 คนเสียชีวิตก่อนคลอด และ 16 คนเสียชีวิตหลังคลอด (ผ่าคลอดทุกราย) ไม่มีข้อมูล 5 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตในช่วงท้องแก่ สาเหตุเสียชีวิตอันดับหนึ่งเกิดจากปอดอักเสบจากโควิด 35 คน อีก 2 คนเกิดจากรกลอกตัวก่อนกำหนดและน้ำคร่ำอุดกั้นปอด ด้านทารกหลังคลอด 16 ราย พบปกติ 6 ราย ติดเชื้อ 2 ราย เสียชีวิต 5 ราย

สำหรับภาวะเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์คือ อ้วน, มีอายุ 35 ปีขึ้นไป, เป็นเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ใช้สารเสพติดและอื่นๆ แหล่งสัมผัสเชื้อมาจากบุคคลในครอบครัวมากที่สุด, รองลงมาเป็นสถานที่ทำงาน, ตลาดและอื่นๆ ส่วนปัจจัยการเสียชีวิตอันดับหนึ่งมาจากข้อจำกัดภายในระบบบริการและการเข้าถึงบริการ


ดังนั้นการยกระดับมาตรการป้องกันและดูแลหญิงตั้งครรภ์ จึงต้องเน้นการผลักดันให้ได้เข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาล และยกระดับการเข้าถึงบริการให้ได้มากที่สุด รวมทั้งส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์ดูแลตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ให้มีการตรวจด้วยตัวเอง ATK ส่งเสริมให้ได้รับวัคซีนหลังตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์

ด้าน พล.อ.ท.นพ.การุณ เก่งสกุล ประธานราชวิทยาลัย สูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าเนื่องจากโควิด-19 เป็นโรคที่ทำให้หลอดเลือดชำรุดเสียหาย ในจำนวนแม่ติดโควิดทั้งหมด 1,993 คน มีแม่ตายรวม 37 คนหรือ 1.85% ซึ่งอัตราตายของแม่โควิด มากกว่าอัตราตายของผู้ติดเชื้อปกติถึง 2 เท่า

ส่วนลูกติดโควิดจากแม่เป็นอัตรา 11.8% ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ชัดเจนว่าแม่ต่างประเทศได้รับการฉีดวัคซีนมาก ทำให้ติดสู่ลูกน้อย จึงแนะนำให้แม่ตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนไม่ต้องเลือกยี่ห้อ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานเบื้องต้นคุ้นเคยกับเชื้อไวรัส ตามเข็มสองด้วยวัคซีนต่างยี่ห้อ mix and match ที่มีการวิจัยยืนยันว่าได้ผลสร้างภูมิต้านทานแน่นอน ส่วนภูมิต้านทานจะอยู่นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน อย่างน้อยประมาณ 6 เดือน ซึ่งครบกำหนดคลอดพอดี

ส่วนประเด็นยารักษาโควิด จัดตามลำดับสากล ซึ่งกำหนดอย่างเด่นชัดว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ ห้ามใช้ในคนท้อง เป็นอันตราย ให้ใช้เรมเดซิเวียร์ เป็นยาฉีดในกรณีมีความจำเป็นโควิดรุนแรงลงปอด

ส่วนทำไมคนท้องเสียชีวิตสูง สาเหตุมาจากสรีระคนท้องมีน้ำคร่ำในช่องท้องมาก จะดันมดลูกขึ้น เกิดภาวะปอดแฟบในคนท้องง่าย ทำให้เกิดปัญหาการหายใจล้มเหลว การช่วยชีวิตเกิดขึ้นได้เมื่อช่วยให้ปอดมีประสิทธิภาพหายใจดีขึ้น ส่วนการคลอดแล้วลูกติดเชื้อ มาจากสาเหตุที่เชื้อโควิด-19 สามารถแพร่กระจายอยู่ในสารคัดหลัง ทั้งรก น้ำคร่ำ หรือน้ำนมแม่ จากข้อมูลพบมีลูกติดเชื้อจากแม่ 113 คน หรือ 11.8% เพราะแม่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นส่วนใหญ่

สำหรับความเชื่อเมื่อแม่ตายทั้งกลม หรือตายพร้อมลูก ควรผ่าตัดนำทารกออกมานั้น ตนก็แนะนำว่าไม่ควรทำ เพราะเป็นการทำให้เชื้อแพร่กระจายมากขึ้นไปอีก ส่วนประเด็นหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต หรือลูกเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน ยังไม่ใช่ข้อสรุปทางการแพทย์ว่าวัคซีนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเพราะ ในร่างกายมีหลายโรคที่ซ่อนเร้นอยู่อาจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้ทั้งสิ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]