เปิดไทม์ไลน์ชายแดนไทย-กัมพูชา ลดเผชิญหน้า-ปะทะ

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- “ณัฐพล” รมช.กห. เปิดไทม์ไลน์สกัดกั้นปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ลดเผชิญหน้า-ปะทะ กัมพูชาขอทำเงียบๆ รับปิดด่านเป็นเวลาจำกัดคนเข้า แจงมีกฎอัยการศึกตามแนวชายแดนอยู่แล้ว แต่เน้นใช้มติ สมช. และเจบีซี


พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากทหารทั้ง 2 ฝ่าย ปรับเปลี่ยนกองกำลัง ว่า ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน 2568 นายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชาให้วันที่ 5 มิถุนายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางไปพบกับรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่อรัญประเทศ ยืนยันว่าไม่ได้ข้ามไปที่กัมพูชา ข้อเสนอของรองนายกฯ ภูมิธรรม ชี้ให้ฝ่ายกัมพูชาเห็นว่า ประเด็นสำคัญมี 2 ข้อ คือ 1. กองกำลังเผชิญหน้ากันที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งรัฐบาลห่วงใยว่า ทหารที่มีอาวุธ หากเผชิญหน้ากันมีความเสี่ยงเกิดการปะทะตลอดเวลา 2. กัมพูชาจะยกเลิกอธิปไตยไปขึ้นศาลโลก ก็ให้ว่าไปตามขั้นตอน แต่ความจริงเราอยากให้เข้าสู่กระบวนการเจบีซี ไทยขอให้รองนายกรัฐมนตรีและกลาโหมทั้งสองฝ่าย ปรับกำลังเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า

สำหรับเหตุการณ์วันที่ 6 มิถุนายน นายกฯ มีบัญชาให้นายภูมิธรรม จัดการประชุม สมช. เพื่อให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพิจารณาร่วมกันว่า แนวทางปฏิบัติขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร และนายกรัฐมนตรีได้ร่วมประชุมด้วย ทางกองทัพและ สมช. เสนอให้มีการปิดด่านบางจุด ทำให้สื่อมวลชนและประชาชนที่ทราบข่าวล่วงหน้าพูดถึงประเด็นปิดจุดผ่านแดน แต่ความเป็นจริงในที่ประชุม สมช. เห็นว่าการเพิ่มมาตรการควบคุมมีความสำคัญ จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการ เพราะทหารกัมพูชาเคลื่อนย้ายกำลังมาบริเวณชายแดน มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ ทำให้ประชาชนตามแนวชายแดนเดือดร้อน รัฐบาลมีความห่วงใยเรื่องผลกระทบและความปลอดภัยของประชาชน และรัฐบาลห่วงใยว่าประชาชนที่ประกอบอาชีพโดยสุจริต หรือปฏิบัติภารกิจในประเทศไทย จึงยังไม่ใช้มาตรการปิดผ่านแดน และที่ประชุมได้แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน


ขั้นตอนที่หนึ่ง การจำกัดการเข้าออกของบุคคล ได้แก่ ค้าขายตามแนวชายแดน แรงงาน การศึกษา การพยาบาล และด้านมนุษยธรรม ส่วนกลุ่มอื่นที่ไม่จำเป็น เช่น นักท่องเที่ยว นักพนัน รัฐบาลมองว่าไม่จำเป็น หากให้เข้าออกร้อยเปอร์เซ็นต์จะทำให้การดูแลความสงบชายแดนยากขึ้น จึงต้องจำกัดคนเข้า

ส่วนการยกระดับขั้นที่สอง คือ การจำกัดเวลาบริเวณด่านปอยเปต จากเปิด 06.00-22.00 น. ปัจจุบันลดเหลือ 08.00-16.00 น. ซึ่ง สมช. เห็นว่ามีความเหมาะสม

ขั้นตอนที่สาม หากจำเป็นต้องยกระดับจะมีการปิดจุดผ่านแดนบางจุด


ขั้นตอนที่สี่ ปิดตลอดแนวตั้งแต่ จังหวัดอุบลราชธานี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ประชุมให้ความเห็นชอบทั้ง 4 ขั้นตอน ก่อนดำเนินการให้หารือเพื่อดูแนวทางกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และในช่วงเย็นวันที่ 6 มิถุนายน กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ประกาศว่า กัมพูชาจะไม่ถอนกำลังตามที่กระทรวงกลาโหมไทยได้เสนอ สมช. มองว่าไม่มีความคืบหน้า นายกฯ จึงสั่งการให้ดำเนินการยกระดับตามที่ สมช. เห็นชอบ กองทัพขอให้ยกระดับไปขั้นหนึ่งและสองในเวลาเดียวกัน จึงเกิดการจำกัดบุคคลเข้าออกตามชายแดน

นอกจากนี้ มีสื่อมวลชนบางสำนักเสนอข่าวว่า จังหวัดจันทบุรี มีการใช้กฎอัยการศึก แต่ความจริงอำเภอชายแดนรอบประเทศ ประกาศใช้กฎอัยการศึกทุกอำเภอ ด้วยอำนาจของกองทัพและทหารในพื้นที่สามารถใช้ได้ แต่ สมช. เห็นว่าปัจจุบันไม่สมควรใช้ จึงใช้มติของ สมช. เท่านั้น

ส่วนวันที่ 7 มิถุนายน ได้ดำเนินการมาตรการควบคุมขั้นที่หนึ่งและสอง ยังไม่มีการปิดจุดผ่านแดน ที่ปิดคือช่องทางธรรมชาติ และวันที่ 8 มิถุนายน รัฐบาลได้รับการติดต่อจากกัมพูชา ผ่าน ผบ.ทบ.ของไทย ตอบรับปรับกำลังในพื้นที่ปะทะ และอยากให้ดำเนินการอย่างเงียบๆ

อีกทั้งกัมพูชาเสนอว่า อยากให้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายเชิญประชาชน สื่อมวลชน นักวิชาการ และนักการทหาร ลดข้อเสนอข้อมูลข่าวสารที่จะทำให้ประชาชนทั้งสองชาติเกลียดชังกัน และเวลา 10.00 น. ผบ.หน่วย ประสานไปยังกองกำลังสุรนารี ขอให้เข้ามาตรวจพื้นที่ เพื่อพิจารณาเรื่องการปรับกำลัง และขอให้กลบคูเลต ทางกัมพูชาก็ให้การตอบรับ คุยอย่างฉันมิตร-สันติ แม้สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง จุดเผชิญหน้ามีการปรับกำลังออกไป ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้น แต่กำลังส่วนอื่นยังอยู่ที่เดิม

พล.อ.ณัฐพล กล่าวถึงมาตรการที่ทำอยู่ว่า หากจะมีการยกระดับ ต้องดูท่าทีของกัมพูชา ซึ่งไทยเน้นแนวทางสันติในการใช้กลไกเจบีซี และต้องดูว่าท่าทีกลไกพัฒนาดีขึ้นหรือไม่ ก็จะมาพิจารณาในมาตรการควบคุมตามแนวชายแดนอีกครั้ง รัฐบาลมองในแง่ผลกระทบเรื่องความปลอดภัยของประชาชน นี่ไม่ใช่มาตรการกดดัน หากมีการเผชิญหน้า แต่ยังมีกำลังละลอกสองที่ต่างฝ่ายยังวางกำลัง นี่คือสิ่งที่ละเอียดอ่อน จึงขอคงมาตรการนี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]