พท.จัดอีเวนต์ใหญ่กลางพาร์คพารากอน รณรงค์หาเสียงโค้งสุดท้าย

กรุงเทพฯ 5 พ.ค. – “เพื่อไทย” จัดอีเวนต์ใหญ่กลางลานพาร์คพารากอน “เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ประเทศเปลี่ยนทันที” ชาเลนจ์ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 เขต เดินทางขนส่งสาธารณะให้ถึงที่หมายใน 1 ชั่วโมง 29 นาที ปักหมุดนโยบายคมนาคม “20 บาทตลอดสาย”


5 พฤษภาคม 2566 เวลา 15.30 น. พรรคเพื่อไทย เปิดแคมเปญใหญ่สู้ศึกเลือกตั้ง 2566 จัดกิจกรรมเปิดตัวแคมเปญใหญ่ ‘เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ประเทศเปลี่ยนทันที’ เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์หาเสียงในโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีก 8 วันข้างหน้า โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรม โดยให้ผู้สมัคร ส.ส.​กทม. ทั้ง 33 เขต ร่วมทำชาเลนจ์ เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมือง ณ ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทุกคน ต้องมีการไลฟ์ตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ เพื่อปักหมุดนโยบายใหญ่ ‘เพื่อคมนาคมไทยทั้งประเทศ’

งานนี้ผู้สมัคร ส.ส.​กทม. ทั้ง 33 คน มาครบ และเดินทางด้วยคมนาคมที่หลากหลาย ทั้ง รถ ราง เรือ เช่น นายพลภูมิ วิภัตภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ส.​กทม. เขต 15 เดินทางโดยเรือจากคลองแสนแสบ, นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.​กทม. เขต 19 เดินทางโดยรถไฟฟ้า และต่อด้วยรถเมล์, นายวัน อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 28 เดินทางโดยวินมอเตอร์ไซค์ และ BTS


นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ชาเลนจ์นี้จัดขึ้นเพื่อสื่อสารว่า กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นเมืองที่มีขนส่งสาธารณะครบทุกรูปแบบ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า แต่ค่าโดยสารโดยรวมนั้นมีราคาแพง ไม่สะดวกสบาย ใช้เวลานาน และไม่สามารถกำหนดเวลาได้

วันนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ค่ารถไฟฟ้าแพงติดอันดับโลก คิดเป็น 5-18% ของค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนค่าโดยสารในกรุงเทพฯ แตะ 30% ของค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน อยู่ที่ 2-5% ของค่าแรงขั้นต่ำเท่านั้น หากประเทศอื่นทำได้ แต่ไทยทำไม่ได้ เท่ากับว่ามันมีปัญหาในไทย

พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบาย ‘เพื่อคมนาคมไทย ทั้งประเทศ’ นั่นคือ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, ยกระดับคมนาคมในต่างจังหวัด, ยกระดับรถไฟโดยสารทั่วประเทศ, ยกระดับการขนส่งโลจิสติกส์สินค้า และยกระดับสนามบินสุวรรณภูมิให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก


โดยเฉพาะ ‘นโยบาย 20 บาทตลอดสาย’ นายดนุพร อธิบายว่า จะต้องเป็นราคา 20 บาทตลอดทั้งสาย ไม่ว่าจะเปลี่ยนสายรถไฟฟ้ากี่ครั้ง แต่ถ้าไม่ออกจากระบบ ก็จะอยู่ที่ราคา 20 บาทเท่านั้น นายดนุพร ย้ำด้วยว่า หาก ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ ทำได้ ‘20 บาทตลอดสาย’ ก็ต้องทำได้เช่นกัน

สุดท้าย ชาเลนจ์เดินทางถึงที่หมาย 1 ชั่วโมง 29 นาที พรรคเพื่อไทยมีการจัดอันดับผู้ที่ใช้เวลาเดินทางนานที่สุด, ผู้ที่ใช้เวลาเดินทางน้อยที่สุด, ผู้ที่เสียค่าใช้จ่ายมากที่สุด และผู้ที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ผลการแข่งขัน ดังนี้

  1. ผู้ที่ใช้เวลาเดินทางมากที่สุด
  • นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เขตลาดกระบัง เดินทางจากสำนักงานเขต โดยรถส่วนตัว > Airport Link ลาดกระบัง > BTS พญาไท ใช้เวลาทั้งหมด 90 นาที ใช้เงินทั้งหมด 65 บาท
  • นพ.ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ เขตบางเขน, เขตสายไหม, เขตลาดพร้าว เดินทางจากสำนักงานเขต โดยรถสองแถว > รถเมล์ร้อน > เดิน 500 ม. > BTS วัดศรีมหาธาตุ ใช้เวลาทั้งหมด 84 นาที ใช้เงินทั้งหมด 67 บาท
  • นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา เขตบางแค, เขตหนองแขม เดินทางจากสำนักงานเขต โดยรถสองแถว > BTS หลักสอง ใช้เวลาทั้งหมด 78 นาที ใช้เงินทั้งหมด 93 บาท
  1. ผู้ที่ใช้เวลาน้อยที่สุด
  • นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ เขตบางรัก ใช้เวลา 15 นาที เดินทางจากสำนักงานเขต โดยตุ๊กตุ๊ก ใช้เงินทั้งหมด 150 บาท
  • นายภัทร ภมรมนตรี เขตดินแดง ใช้เวลา 15 นาที เดินทางจากสำนักงานเขต โดย BTS อารีย์ ใช้เงินทั้งหมด 35 บาท
  • นายวัน อยู่บำรุง เขตหนองแขม ใช้เวลา 20 นาที เดินทางจากบ้าน > ติดรถ FC วัน อยู่บำรุง > BTS วุฒากาศ ใช้เงินทั้งหมด 62 บาท
  1. ผู้ใช้เงินเยอะที่สุด
  • นายไพฑูรย์ อิสระเสรีพงษ์ เขตหนองจอก เดินทางจากสำนักงานเขต โดยแท็กซี่ > Airport Link ใช้เงินทั้งหมด 300 บาท ใช้เวลา 40 นาที
  • นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ เขตบางรัก, เขตพระนคร, เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, เขตดุสิต เดินทางจากสำนักงานเขต โดยตุ๊กตุ๊ก ใช้เงินทั้งหมด 150 บาท ใช้เวลา 15 นาที
  • นายวิชาญ มีนชัยนันท์ เขตมีนบุรี, เขตสะพานสูง เดินทางจากสำนักงานเขต โดยแท็กซี่ > ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง – ประตูน้ำ > เดิน ใช้เงินทั้งหมด 145 บาท ใช้เวลา 40 นาที

ภายหลังจากชาเลนจ์ดังกล่าวเสร็จสิ้น ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ภายใต้แคมเปญ ‘เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที’ เพื่อย้ำถึงปรัชญาหลักของพรรคในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวทักทายพี่น้องประชาชนผ่านทางวิดีโอคอลว่า ตอนนี้ตนกำลังเตรียมพร้อมร่างกาย เพื่อกลับไปพบกับพี่น้องประชาชนในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้เสนอยุทธศาสตร์การเลือกตั้งด้วยการแลนด์สไลด์ ให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว เพื่อล้มอำนาจ ส.ว. 250 เสียง ไม่เปิดโอกาสให้รัฐบาลผลพวงรัฐประหารได้มีโอกาสกลับมามีอำนาจอีก การแลนด์สไลด์จะทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยดำเนินทุกนโยบายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย เพราะนโยบายของเพื่อไทยที่คิดใหญ่ เพื่อแก้วิกฤติต่างๆ ตั้งแต่ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปัญหาค่าครองชีพ และคืนโอกาส คืนชีวิตให้ประชาชน และที่สำคัญคือ พรรคเพื่อไทยไม่เอารัฐประหารและผลพวงที่เกิดจากรัฐประหาร เพราะพรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นในประชาธิปไตยมาตลอด

“โอกาสของพี่น้องประชาชนมาถึงแล้ว วันที่ 14 พ.ค. เข้าคูหากาเบอร์ 29 ให้พรรคเพื่อไทย และเบอร์ ส.ส.เขต จากพรรคเพื่อไทย ให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน เพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะเป็นรัฐบาลที่มาจากอำนาจอธิปไตยของประชาชนทุกคน” นางสาวแพทองธาร กล่าว

นางสาวจิราพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การมายืนปราศรัยอยู่ใจกลางพารากอน กรุงเทพฯ ทำให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ กระจุกตัวของความเจริญอย่างชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ร้อยเอ็ด บ้านของตน ซึ่งที่นี่มีระบบขนส่งสาธารณะสะดวก รถไฟฟ้า รถเมล์ ขณะที่บ้านตนเองนั้นเดินทางยากลำบาก เดินทางใช้เวลานาน พรรคเพื่อไทยเคยมีนโยบายส่งเสริมให้ต่างจังหวัดมีโอกาสเติบโต ตั้งแต่สมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ไปลงพื้นที่รับฟัง “อาจสามารถโมเดล” โครงการกองทุนหมู่บ้านที่เป็นทุนสร้างอาชีพ โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ส่งคนร้อยเอ็ดไปเรียนต่างประเทศ สร้างอนาคต แต่โอกาสดีๆ ของคนร้อยเอ็ดก็ถูกตัดขาดลงไปด้วยการรัฐประหาร และในช่วงรัฐประหารก็กลายเป็นยุคทองของทุนผูกขาด ประชาชนถูกเอาเปรียบทางเศรษฐกิจ ยากลำบาก ถูกตัดโอกาสการศึกษา ตัดหนทางทำมาหากิน ดังนั้น การกาพรรคเพื่อไทย ไม่ได้แค่กาให้เพื่อไทย แต่กาให้กับความหวัง ความฝัน และโอกาสอย่างเท่าเทียม

นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เขต 3 เบอร์ 5 กล่าวว่า ทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลงที่ตนเองอยากเห็นคือ การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ซึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างน่าตกใจให้พี่น้องในภาคบริการ ดังนั้น วันนี้พรรคเพื่อไทยขออาสาเปิดประตู 3 บานใหม่ เพื่อสร้างและรองรับเม็ดเงินรายได้จากการท่องเที่ยว ประตู 3 บานดังกล่าว ได้แก่

ประตูบาน 1 คือ Festival Hub of Asia เทศกาลไทยไปไกลถึงระดับโลก โดยจะส่งเสริมเทศกาลด้านวัฒนธรรม สร้างเทศกาลด้านผลไม้และเกษตรกรรม

ประตูบาน 2 คือ ต้องเป็น Wellness Destination ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านการแพทย์และสุขภาพ นักท่องเที่ยวมาไทยจะได้ทั้งท่องเที่ยวและดูแลสุขภาพในเวลาเดียวกัน

และประตูบาน 3 คือ Regional Transport Hub ศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาค เราจะเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน ตั้งแต่ทางเครื่องบิน เชื่อมต่อรถไฟฟ้า รถไฟ ไปจนถึงระบบขนส่งสาธารณะในทุกจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง และเมื่อประตู 3 บานนี้เปิด ก็จะสร้างรายได้ ขยายเศรษฐกิจให้พี่น้องอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจากพรรคเพื่อไทย

นายอรรฆรัตน์ นิติพน ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เขต 21 เบอร์ 13 กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับ SME เพราะเรารู้ว่าธุรกิจ SME ที่มีมากกว่า 3 ล้านธุรกิจนั้น มีการจ้างแรงงานมากถึง 85% และแต่ละธุรกิจมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ดังนั้น หมายความว่าเงินของกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะลงไปหาคนเหล่านี้เป็นจำนวนมหาศาล และนี่เป็นแค่ยอดน้ำแข็งบนพีระมิดเท่านั้น เพราะข้างล่างของน้ำแข็งคือเรื่องราวของระบบเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่เป็นพื้นฐานของข้อมูลการค้าขายของทุกคน จะได้รับการดูแลอำนวยความสะดวก ง่ายที่สุด หากคุณไปทำธุรกิจเล็กๆ ต้องไปขอเอกสารที่หนึ่ง ขอใบอนุญาตอีกที่หนึ่ง กี่วันจบ แต่พรรคเพื่อไทยมีโครงการรัฐบาลดิจิทัล จัดจุดบริการแบบ One Stop Service จบทุกอย่างในวันเดียว ไม่ต้องมาเซ็นบัตรประชาชนบนกระดาษอีกต่อไป

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างมาก เพราะวันนี้พี่น้องภาคเหนือยังผจญปัญหาฝุ่นอยู่ ซึ่งอากาศสะอาดเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรจะได้รับ แต่วันนี้ทุกคนกลับต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว กลัวที่จะไม่กล้าแม้แต่หายใจและสูดลมหายใจที่มีฝุ่นพิษเข้าไป มันจะไม่เกิดกับคนไทยอีก เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผู้สร้างมลภาวะจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ผู้บริหารประกอบการภาคอุตสาหกรรมต้องมีจิตสำนึกสร้างอากาศบริสุทธิ์ไปด้วยกัน เราจะผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด ฉบับประชาชนในรัฐบาลหน้า เพราะพรรคเพื่อไทยใส่ใจสุขภาพประชาชน รวมถึงการยกระดับบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกโรงพยาบาล รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้กับเด็กผู้หญิงทุกคนอีกด้วย

นายดนุพร ปุณณกันต์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลายปีนี้ปัญหาพี่น้อง กทม.ยังวนอยู่เรื่องเดิม ไม่ว่าจะเศรษฐกิจปากท้อง ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะขออาสานำเสนอนโยบายเพื่อพี่น้อง กทม. คือ 1. นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย พรรคเพื่อไทยจะเข้ามาดูทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ต้องเปลี่ยนเป็นรถเมล์ไฟฟ้า 10 บาทตลอดสาย 2. กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อวางโครงสร้าง Digital economy เพื่ออนาคต 3. ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท/วัน เงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้น 25,000 บาท ภายในปี 2570 พรรคเพื่อไทยจะพาคนไทยก้าวข้ามความยากลำบากและหลุมดำแห่งความจน พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนไทยทุกคน เพราะนโยบายดีๆ ใครๆ ก็ทำได้ แต่พรรคที่ทำได้จริง คือ พรรคเพื่อไทย

นางสาวสกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เขต 13 เบอร์ 4 กล่าวว่า วันนี้ชายไทยอายุ 20 ปี เจอ “ใบเดียวชีวิตเปลี่ยน” เพราะฤดูเกณฑ์ทหาร ต้องไปจับใบดำใบแดง ซึ่งเป็นการทำลายโอกาสทางชีวิต เศรษฐกิจ อาชีพ ของคนต้องถูกไปเกณฑ์ทหาร พรรคเพื่อไทยจึงเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นรับสมัครแบบสมัครใจ เพื่อจะได้พัฒนาฝึกอาชีพ ฝึกฝนวิชาความรู้ให้มีคุณภาพ ไม่ถูกบังคับ และยกระดับคุณภาพชีวิตของทหารให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น เมื่อทหารเป็นทหารมืออาชีพแล้ว ก็จะไม่มาทำรัฐประหาร เพราะการรัฐประหารควรโดนข้อหากบฏและยึดทรัพย์ คดีไม่มีอายุความ รัฐประหารคืออาชญากรรม ผู้รัฐประหารคืออาชญากร พรรคเพื่อไทยประกาศไม่เอารัฐประหาร

ทั้งนี้ ภายในงานมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รวมทั้งกลุ่มผู้เข้าประกวดนางงามจากเวที Beach Men Thailand, Mrs. International. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]