ทำเนียบรัฐบาล 15 ก.ค.- “สรวงศ์” มั่นใจเก้าอี้ สส.ศรีสะเกษ ยังอยู่ ซัด ภูมิใจไทย หาเสียงโบราณ เตือนทีมกฎหมายเพื่อไทยมอนิเตอร์อยู่ หากพาดพิง
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงการหาเสียง เลือกตั้งซ่อมที่ เขต5 จังหวัดศรีสะเกษ ที่พรรคภูมิใจไทยปราศรัยว่า “อย่าไปเป็นขี้ข้าคนขายชาติ” ว่า เดี๋ยวดูในเรื่องของเนื้อหา ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ทีมกฎหมายคอยมอนิเตอร์อยู่แล้ว ซึ่งการหาเสียงมันต้องไม่ใช่แบบนี้ ควรจะเสนอกับประชาชนว่าจะทำอย่างไรให้เขามากกว่าที่จะมาโจมตีแบบนี้ จริงๆตนรู้สึกผิดหวัง ในสิ่งที่ได้ยินมาแต่ถือว่าไม่เป็นไรเพราะเป็นสไตล์การหาเสียงของแต่ละพรรคแต่พรรคตนไม่มีแบบนี้แน่ๆ แต่จะเป็นการหาเสียงว่าถ้าเลือกพรรคตนแล้ว ประชาชนในพื้นที่จะได้อะไร
“จริงๆ แล้วมีการบิดเบือนในหลายๆเรื่อง ซึ่งเป็นข้อความที่สนุกปาก” ลืมไปว่าตัวเองก็เคยอยู่ในจุดนี้ ก็ถือว่าให้ฝ่ายกฎหมายพรรคมอนิเตอร์อยู่ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ เดี๋ยวรอดู ความเหมาะสมในเรื่องข้อกฎหมาย“ นายสรวงศ์กล่าว
ส่วนพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษมีพื้นที่ติดอยู่ติดชายแดนกัมพูชาจะทำให้มีผลกระทบต่อการหาเสียงลำบากหรือไม่เพราะมีปัญหาชายแดนอยู่ นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตนก็เป็นสส.ชายแดน บางอย่างพวกเราที่อยู่ในพื้นที่ตรงนี้กับพื้นที่เกิดเหตุ อาจมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันเท่าไหร่ ซึ่งในที่ประชุมครม. ก็ได้มีการหารือถึงเรื่องของการเยียวยาผู้ประกอบการ ในเรื่องชายแดนต่างๆ แต่ตนมั่นใจเรื่องความขัดแย้ง ถ้าเราไม่เป็นเครื่องมือให้กับเขา จะผ่านไปด้วยดีโดยเร็ว
และเมื่อถามย้ำว่า คำว่า “ขายชาติ”เป็นคำที่ค่อนข้างรุนแรง หรือไม่ นายสรวงศ์ ยอมรับว่าก็เป็นคำที่รุนแรงเพราะ สื่อก็ยังมองว่ารุนแรง พร้อมถามกลับว่า“ขายชาติ ขายได้เท่าไหร่ผมยังไม่รู้เลย มันเป็นวาทะกรรมที่ใครก็พูดได้”
และเมื่อถามต่อว่า ถามอังเคิลว่าอยากได้อะไร แต่ไม่เคยถามคนศรีสะเกษว่าอยากได้อะไร นายสรวงศ์ถามกลับว่า อยากได้อะไร และคำตอบที่ได้มามันคืออะไร ซึ่งถ้าฟังคลิป 17 นาทีเต็มๆ นายกฯพูดตลอดว่า”โอเคๆอิ๊งค์ จะถามกองทัพให้ โอเคๆอิ๊งค์ จะถามกองทัพให้“ ไม่มีอะไรที่เราตกลงหรือนายกฯตบปากรับคำ กับเขา เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง เรามอนิเตอร์อยู่ อาจจะเป็นวิธีการหาเสียงที่ค่อนข้างรุนแรง
ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคเพื่อไทย จะมีสส. และพื้นที่ใกล้เคียงลงหาเสียงอยู่แล้ว ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็จะลงพื้นที่ด้วยขณะนี้อยู่ระหว่างการดูคิวอยู่ เพราะยังเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือน ขณะที่ผู้สมัครก็มีการร้องขอ ให้ตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยหาเสียง
เมื่อถามว่าการที่นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ กังวลหรือไม่เพราะเป็นพื้นที่ที่มีเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตอนที่ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาก็ ถูกโห่ไล่ จะทำให้ถูกโนมิโน่ในพื้นที่ต่างๆหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในทุกพื้นที่มีทั้งคนรักคนชอบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ของการเมือง เพียงแต่ว่าเราในฐานะคนไทยด้วยกันเองอย่าเป็นเครื่องมือให้เขา แค่นั้นเอง และอยากฝากว่าอย่าไปเป็นกระบอกเสียงให้กับ คนที่มีบทบาทในประเทศเขาและไม่ได้เหมารวมไปถึงคนทั้งประเทศ เราดูทางการไทยโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง และทหารของเราทำงานอย่างหนักมากในการเจรจา มั่นใจประชาชน7จังหวัด ไม่ได้อยากให้มีการปะทะเกิดขึ้น แต่อยากให้มีการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีโดยเร็ว เพื่อจะได้กลับมาชีวิต ตามปกติและตนขอฝากวิงวอนสื่ออย่าเป็นกระบอกเสียงให้กับเขา(กัมพูชา) ควรจะให้กำลังใจทหารและผู้ที่ อยู่ระหว่างการเจรจาดีกว่า
ส่วนพรรคเพื่อไทยรักษาเก้าอี้สส.ศรีสะเกษไว้ไม่ได้นั้น จะทำให้รัฐบาลเสียหน้าหรือไม่นั้น นายสรวงศ์ ยืนยันว่ารักษาได้ ต้องทำเต็มที่ เพราะผู้สมัคร เป็นคนในพื้นที่รู้ปัญหา เมื่อวานนี้ก็ได้คุยกัน ซึ่งมีการเสนอนโยบายที่เกี่ยวข้องกับในพื้นที่โดยตรง และ ได้บอกกับหัวหน้าพรรคไปแล้ว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้กลยุทธ์อย่างไรเพราะพรรคภูมิใจไทย ใช้คลิปเสียงหลุดและโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มาโจมตี นายสรวงศ์ มองว่าเป็นการหาสิ่งที่”โบราณมาก ไม่มีอะไรที่จะนำเสนอกับประชาชนว่า ถ้าได้สส. ศรีสะเกษแล้วจะทำอะไรไปให้เขา “ นายสรวงศ์กล่าว
อย่างไรก็ตามนายสรวงศ์ยืนยันว่า อะไรที่ต้องดำเนินคดีก็ต้องดำเนินคดี.-312 -สำนักข่าวไทย
