สส.ตราด ปชน. ขอรัฐบาลเร่งปักปันเขตแดนไทย 17 จุดให้เด็ดขาด

รัฐสภา 18 ก.ย.- สส.ตราด ปชน. ขอรัฐบาลเร่งปักปันเขตแดนไทย 17 จุดให้เด็ดขาด หลังกัมพูชารุกล้ำ จี้เคลียร์เก็บวัตถุระเบิด กู้เกียรติภูมิคนไทย หลังกัมพูชาละเมิดรุกล้ำ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยในช่วงเปิดให้สมาชิกหารือความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคประชาชน (ปชน.) หารือว่า ขณะนี้ชาวตราดกำลังกังวลใจเกี่ยวกับกรณีกัมพูชารุกล้ำเขตแดนไทย 17 จุด ยิ่งไปกว่านั้นนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ยังได้ส่งสารไปหลายประเทศระบุว่าไทยมีการเตรียมการรุกเอาคืนพื้นที่ทั้ง 17 จุดดังกล่าว เมื่อกัมพูชาละเมิดข้อตกลงMOU 43 รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำให้เกิดความชัดเจน พื้นที่ประเทศไทยต้องอยู่ครบถ้วน การรุกล้ำพื้นที่จากเขตสันปันน้ำ 17 จุด อยู่ที่อำเภอเมือง จนถึงอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด “นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่เป็นเรื่องใหญ่ และมีความสำคัญมาก ผมจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคง ขอให้ทำความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการปักปันเขตแดนให้เด็ดขาด พร้อมทั้งให้เก็บกู้วัตถุระเบิดเพื่อเป็นเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของพี่น้องชาวไทยและชาวจังหวัดตราด” นายศักดินัย กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

ทภ.1 ยกระดับคุมเข้มชายแดน ยันไทยไม่หลงทาง

สระแก้ว 18 ก.ย. – กองทัพภาค 1 แถลงประณามผู้นำกัมพูชา ปล่อยให้เกิดเหตุรุนแรงที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ใช้เด็ก พระ มายั่วยุ หวังสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่าไทยทำร้าย พลตรีสุรวิชญ์ แดงจันทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงเหตุการณ์บ้านหนองหญ้าแก้ว เมื่อวานนี้ว่า ยืนยันเราไม่หลงทาง รู้ว่าทางกัมพูชาจะใช้แนวทางนี้ สุดท้ายเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น กัมพูชาบิดเบือนว่าถูกฝั่งไทยทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ขอถามว่า การใช้แก๊สน้ำตาของไทย จะทำให้บาดเจ็บสาหัสตรงไหน ฝากไปถึงสื่อเขมรด้วยให้ดูความถูกต้อง เมื่อวานตอนเย็น ฝ่ายเขมรก็สร้างละครขึ้นมาทันที ไม่จบสิ้น มีการใช้เด็ก พระ ขอถามความจริงใจไปยังผู้นำเขมร ข้อตกลงต่างๆ อย่าให้เป็นกระดาษ คำเขียน ขอให้นำสู่การปฏิบัติ ยืนยัน ภาค 1 จังหวัดสระแก้ว จริงใจนำไปสู่สันติวิธี และต้องการการตอบรับจากเขมรเช่นกัน เราเป็นผู้ใหญ่ใจดีมานานมากแล้ว 30-40 ปี ให้อยู่อย่างบ้านใกล้เรือนเคียงมีความสุขด้วยกัน แต่เขากลับออกนอกกติกาตลอด ยืนยันจะไม่เป็นผู้ใหญ่ใจดีอีกต่อไปแล้ว หากผิดข้อตกลง จะทำตามขั้นตอนจากเบาไปหนัก โดยใช้วิธีที่สุขุมและรอบคอบ ขอให้เลิกยืนอยู่ข้างหลังผู้หญิงได้แล้ว ยืนยันแผ่นดินของเราก็ต้องเป็นของเรา ส่วนคำถามที่ว่าทำไมต้องใช้ตำรวจ เพราะเราไม่หลงกลเขมร […]

ปชน. รับหนังสือภาคประชาชน หนุนร่าง กม.แรงงาน 2 ฉบับ

รัฐสภา 18 ก.ย.-สส.ปชน. รับหนังสือภาคประชาชน หนุนร่าง กม.แรงงาน 2 ฉบับ ด้าน ปธ.วิปฝ่ายค้าน เผยพรรคการเมืองเห็นตรงกัน ต้องคุ้มครองแรงงานเพื่อเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) พร้อมด้วยนายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ และน.ส.วรรณณิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ รับหนังสือจากนายนันทิวัฒน์ ออมสิน เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน พร้อมคณะ เรื่องสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คุ้มครองแรงงาน โดยนายนันทิวัฒน์ กล่าวว่า เครือข่ายแรงงานฯ และภาคประชาสังคม ได้ร่วมกันสนับสนุนและผลักดันร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ซึ่งเป็นฉบับลดชั่วโมงทำงาน เพิ่มเวลาพักผ่อน และ 2.ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน โดยเป็นฉบับเพิ่มศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายคุ้มครองแรงงานให้ก้าวทันยุคสมัย และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานทั้งประเทศ โดยร่างกฎหมายทั้งสองฉบับจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในวันนี้ (18 กันยายน) ซึ่งนับเป็นวาระประวัติศาสตร์ที่จะชี้ชะตาว่า เสียงของผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นเสาหลัก และกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จะได้รับการตอบสนองอย่างเป็นธรรม […]

Mark Zuckerberg demonstrates smart glasses

Meta เปิดตัวแว่น AI มีหน้าจอในตัว

เมนโลพาร์ก 18 ก.ย.- เมตาแพลตฟอร์ม (Meta Platforms) บริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติของสหรัฐเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ที่มีหน้าจอในตัว นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของเมตาเปิดตัวแว่นตาดังกล่าวในงานเมตาคอนเน็กต์ 2025 (Meta Connect 2025) ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของบรรดานักพัฒนาเทคโนโลยีระหว่างวันที่ 17-18 กันยายนที่สำนักงานใหญ่เมตาในเมืองเมนโลพาร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย เขาได้สาธิตการใช้งานเมตาเรย์แบนดิสเพลย์ (Meta Ray-Ban Display) แต่ก็มีบางช่วงที่เทคโนโลยีไม่ตอบสนองตามที่ต้องการ นายซักเคอร์เบิร์กกล่าวว่า แว่นตาอัจฉริยะนี้เป็นข้อกำหนดทางกายภาพในอุดมคติสำหรับปัญญาเหนือมนุษย์ส่วนบุคคล (personal superintelligence) เพราะทำให้ตัวเราอยู่ในขณะที่กำลังเข้าถึงศักยภาพทั้งหมดของเอไอที่ทำให้เราฉลาดขึ้น สื่อสารได้ดีขึ้น มีความจำดีขึ้น และอีกหลายอย่าง แว่นตาใหม่นี้มีจอภาพดิจิทัลขนาดเล็กแสดงบนเลนส์ข้างขวาสำหรับการทำงานพื้นฐานทั่วไป เช่น การแจ้งเตือน ราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 25,400 บาท) และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 30 กันยายน นอกจากนี้เมตายังใช้โอกาสนี้เปิดตัวแว่นตาโอ๊คลีย์ (Oakley) รุ่นแวนการ์ด (Vanguard) สำหรับนักกีฬาโดยเฉพาะ ตั้งราคาไว้ที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐ […]

“ปกรณ์วุฒิ” รับกังวลเสียง สว. หนุนแก้ รธน.

รัฐสภา 18 ก.ย.-“ปกรณ์วุฒิ” รับกังวลเสียง สว. หนุนแก้ รธน. ชี้ควรเปิดประตูบานแรกให้ประชาชนออกเสียงประชามติ มองหากเกิดอุบัติเหตุการเมือง ยุบสภาก่อน 4 เดือน เป็นเรื่องดี คืนอำนาจสู่การเลือกตั้ง นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบ 4 เดือน ตาม MOA จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ ว่า ตนมองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ ถ้ายุบสภาก่อนก็คืนอำนาจให้ประชาชนเร็ว ถ้ามีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้นจริง พรรคการเมืองแต่ละพรรคก็สามารถไปรณรงค์ได้ หากประสงค์จะแก้รัฐธรรมนูญ ตนมองว่าเป็นการมองย้อนกลับไป ในการเลือกตั้งปี 2566 สถานการณ์คล้ายกับตอนนี้ ซึ่งหากสามารถทำประชามติพร้อมการเลือกตั้งได้ ตนว่าก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามีอุบัติเหตุก่อนหน้า ก็ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของพรรคประชาชน และการคืนอำนาจให้ประชาชน ก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว ในสภาวะการณ์แบบนี้ ที่เราต้องการรัฐบาลชั่วคราว ตามที่เราได้ประกาศเอาไว้ ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญได้มีการหยั่งเสียงของ สว. ด้วยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน และวันนี้ช่วงบ่าย ได้นัดสว.บางคน มาหารือกันในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเปิดประชุมรัฐสภา […]

“กัณวีร์” จี้ “อนุทิน” แก้ไขปัญหา หน่วยงานราชการเรียกรับส่วยสัญชาติ

รัฐสภา 18 ก.ย.-“กัณวีร์” แฉหน่วยงานราชการ อ.ฝาง ยังเรียกรับส่วยสัญชาติ จี้ “นายกฯอนุทิน” แสดงเจตจำนงทางการเมืองแก้ไขปัญหา พร้อมเสนอ 5 แนวทางปราบคอร์รัปชัน นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเป็นธรรม แถลงข่าวกรณีส่วยสัญชาติ ว่า ในอาทิตย์ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอฝาง ได้รับฟังจากประชาชนในพื้นที่ เนื่องด้วยมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2567 ให้คนต่างด้าว ที่มีพำนักอาศัยในประเทศไทยถาวรจะได้รับสัญชาติ ซึ่งตนได้รับฟังจากประชาชนมาตลอด 1 ปีกว่า ๆ ว่ามีการเรียกเก็บเงินเพื่อให้มีสถานะบุคคล ในอำเภอฝาง ประชาชนหลายหมู่บ้านบอกว่ามีการเรียกเก็บเงินตั้งแต่ 3,000 – 40,000 บาท ตนมีค่าเฉลี่ยออกมาว่าหากต้องจ่าย 5,000 บาทต่อคนรวม 4 แสนกว่าคน เงินทั้งหมดประมาณ 2,500 ล้านบาท เป็นเงินที่อยู่นอกระบบและซุกอยู่ใต้พรมมาเป็นเวลานาน รัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญจึงได้ให้ข้อเสนอไป 5 ข้อ1.ต้องเร่งปราบคอรัปชั่นให้ชัดเจนและรวดเร็ว 2. ต้องมีมาตรการจากส่วนกลางลงพื้นที่ตามอำเภอต่าง ๆ แบบเดียวกันไม่ให้เกิดช่องว่าง 3. ทางอำเภอและจังหวัดจะต้องเข้าหาประชาชน […]

หอการค้าไทยจี้นายกฯ เร่งเจรจาภาษีสหรัฐฯ-หาตลาดใหม่-ดูแลเงินบาท

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – หอการค้าไทย เสนอ 7 มาตรการฟื้นเศรษฐกิจไทย ดันวาระเร่งด่วนเจรจาภาษีสหรัฐฯ แก้ไขอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี ขยายตลาดใหม่ในภูมิภาคที่มีศักยภาพ พร้อมขอให้ดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในกรอบ 34–35 บาทต่อดอลลาร์ เพื่อรักษาความได้เปรียบด้านการส่งออก ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคธุรกิจไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ราคาสินค้าเกษตรและการส่งออกที่ปรับตัวลดลง ต้นทุนพลังงานและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ตลอดจนความไม่แน่นอนด้านการเมืองระหว่างประเทศ หอการค้าไทยจึงได้ระดมข้อคิดเห็นจากเครือข่ายหอการค้าทั่วประเทศ ทั้งหอการค้าจังหวัด สมาคมการค้า หอการค้าต่างประเทศ และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยจัดทำเป็นข้อเสนอ “7 เสาหลักฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย”เพื่อให้รัฐบาลนำไปพิจารณาใช้เป็นมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ สำหรับข้อเสนอในระยะเร่งด่วน 4 เดือน หอการค้าไทยเสนอให้รัฐบาลใหม่เร่งดำเนินมาตรการสำคัญหลายด้านอย่างทันที เริ่มจากการค้าระหว่างประเทศ ที่ควรเร่งรัดการเจรจากับสหรัฐฯ ภายใต้กรอบ Reciprocal Tariff (RT) ควบคู่กับการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี และการขยายตลาดใหม่ในภูมิภาคที่มีศักยภาพ เช่น จีน แอฟริกา และตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งประเทศไทยควรดูแลค่าเงินบาทเชิงรุกให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ราว 34–35 บาทต่อดอลลาร์ เพื่อรักษาความได้เปรียบด้านการส่งออก ในมิติของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ควรเดินหน้ามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อที่ประชาชนคุ้นเคย […]

รัฐมนตรีกลาโหมจีนเรียกร้องความสามัคคี

ปักกิ่ง 18 ก.ย. – พลเรือเอก ต่ง จวิน (Dong Jun) รัฐมนตรีกลาโหมของจีนกล่าวในวันพฤหัสบดีได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกมีความสามัคคีกันมากขึ้น พร้อมเตือนถึงโลกที่กำลังแบ่งแยกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถูกกำหนดกฎความอยู่รวดในป่า (law of the jungle) ที่ผู้แข็งแรงกว่าย่อมเป็นผู้รอด ผู้อ่อนแอกว่าย่อมเป็นเหยื่อของผู้แข็งแรงกว่า พลเรือเอกต่ง อดีตผู้บัญชาการทหารเรือของจีนกล่าวปาฐกถาพิเศษในการเปิดการประชุมความมั่นคง “ปักกิ่ง เซี่ยงซาน ฟอรัม” (Beijing Xiangshan Forum) ว่าโลกกำลังถูกบดบังด้วยความคิดแบบสงครามเย็น การครอบงำ และลัทธิกีดกันทางการค้า การแทรกแซงทางทหารจากภายนอก การแสวงหาอำนาจเพิ้อครอบงำ และการบีบบังคับให้ประเทศอื่นเลือกข้าง จะนำประชาคมระหว่างประเทศไปสู่ความวุ่นวาย นายต่งกล่าวว่าโลกกำลังอยู่ที่ “ทางแยก” อีกครั้งและต้องเลือกระหว่างการเจรจากับการเผชิญหน้า เขากล่าวว่า การหมกมุ่นอยู่กับการมีอำนาจทางทหารที่เหนือกว่าอย่างเด็ดขาด และแนวคิด ‘ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด’ จะนำไปสู่โลกที่แบ่งแยกซึ่งถูกกำหนดโดยกฎแห่งป่าและความไร้ระเบียบ คำกล่าวของพลเรือเอกต่งมีหลายส่วนที่พุ่งเป้าไปที่สหรัฐอย่างชัดเจน และดูเหมือนจะแข็งกร้าวขึ้นกว่าสุนทรพจน์ที่เขาเคยกล่าวในการเปิดการประชุมเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่พลเรือเอกต่งกล่าวว่าจีนพร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อธำรงไว้ซึ่งระเบียบระหว่างประเทศ แต่เขายืนยันว่ากองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะไม่มีวันยอมให้ความพยายามใดๆ ในการแบ่งแยกไต้หวันประสบความสำเร็จ สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า มีผู้แทนประมาณ 1,800 คนจาก 100 ประเทศ รวมถึงเจ้าหน้าที่ บุคลากรทางทหาร และนักวิชาการ […]

ธอส.หนุนคนดี “ชำระดีมีคืน”

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – ธอส.ตอบแทนลูกค้าผ่อนดีต่อเนื่อง 48 เดือน รับเงินคืน 1% ของดอกเบี้ยเงินกู้ชำระไว้ในปี 67 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำ “โครงการชำระดีมีคืน” ในโอกาสครบ 6 รอบ 72 ปี ตอบแทนลูกค้ารายย่อยที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญากู้เงิน โดยไม่เคยเป็นหนี้เสีย (NPL) ตั้งแต่วันกู้ และทุกบัญชีเงินกู้ภายใต้หลักประกันมีประวัติผ่อนชำระดีต่อเนื่อง 48 เดือนที่ผ่านมา (นับถึงเดือนสิงหาคม 2568) อย่างสม่ำเสมอและไม่น้อยกว่าเงินงวดที่ธนาคารกำหนดทุกเดือน จะได้รับสิทธิพิเศษเงินคืน 1% ของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ชำระไว้ในปี 2567 โดยเงินคืนดังกล่าวจะถูกนำไปหักชำระเงินกู้อัตโนมัติในงวดเดือนกันยายน 2568 ในวัตถุประสงค์การกู้ที่ธนาคารกำหนด โครงการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการตอบแทนลูกค้าที่ผ่อนชำระดีกับธนาคารมาอย่างยาวนานแล้ว ยังเป็นการช่วยเสริมสร้างวินัยทางการเงินผ่านการผ่อนชำระเงินงวดสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. ด้วย โดยคาดการณ์มีลูกค้าได้รับเงินคืนดังกล่าวมากกว่า 120,000 ราย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 […]

กนอ.มั่นใจนิคมฯ นครหลวง-บางปะอิน-บ้านหว้า-บ้านปู พร้อมรับมือน้ำท่วม

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.- การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ยืนยันความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเต็มพิกัด โดยเฉพาะ 4 นิคมฯ ในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ จ.พระนครศรีอยุธยา และสมุทรปราการ พร้อมเปิดแผนป้องกันระยะยาวด้วยงบลงทุนกว่า 1,857 ล้านบาท ย้ำไม่ประมาทเตรียมพร้อมทั้งโครงสร้างและเครื่องมือเต็มกำลัง นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำและมาตรการป้องกันน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรม 4 แห่ง ที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง, นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน, นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยยืนยันว่าทุกแห่งมีความพร้อมรับมือสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ “แม้สถานการณ์น้ำในเดือนกันยายน 2568 จะยังอยู่ในภาวะปกติ แต่ กนอ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เรายังคงเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ริมแม่น้ำและเส้นทางน้ำหลาก ประสบการณ์จากปี 2567 ที่แม้หลายพื้นที่จะประสบภัย แต่นิคมอุตสาหกรรมของเรายังคงปลอดภัย สะท้อนประสิทธิภาพของระบบที่เรามี เราพร้อมรับมือทุกสถานการณ์” นายสุเมธ กล่าว นายสุเมธ กล่าวถึงความคืบหน้าของระบบป้องกันน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งลงทุนไปแล้วรวมกว่า 1,857 ล้านบาท ทั้งที่ นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง […]

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

1 88 89 90 91 92 34,748