รัฐสภา 18 ก.ย.-สส.ปชน. รับหนังสือภาคประชาชน หนุนร่าง กม.แรงงาน 2 ฉบับ ด้าน ปธ.วิปฝ่ายค้าน เผยพรรคการเมืองเห็นตรงกัน ต้องคุ้มครองแรงงานเพื่อเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) พร้อมด้วยนายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ และน.ส.วรรณณิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ รับหนังสือจากนายนันทิวัฒน์ ออมสิน เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน พร้อมคณะ เรื่องสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คุ้มครองแรงงาน โดยนายนันทิวัฒน์ กล่าวว่า เครือข่ายแรงงานฯ และภาคประชาสังคม ได้ร่วมกันสนับสนุนและผลักดันร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ซึ่งเป็นฉบับลดชั่วโมงทำงาน เพิ่มเวลาพักผ่อน และ 2.ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน โดยเป็นฉบับเพิ่มศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายคุ้มครองแรงงานให้ก้าวทันยุคสมัย และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานทั้งประเทศ
โดยร่างกฎหมายทั้งสองฉบับจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในวันนี้ (18 กันยายน) ซึ่งนับเป็นวาระประวัติศาสตร์ที่จะชี้ชะตาว่า เสียงของผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นเสาหลัก และกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จะได้รับการตอบสนองอย่างเป็นธรรม จากผู้แทนราษฎรหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายแรงงานฯและภาคประชาสังคม จึงขอความกรุณา ผู้นำฝ่ายค้าน โปรดใช้บทบาท ความรับผิดชอบ และพลังทางการเมืองของท่าน ประกาศจุดยืนชัดเจนในการสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานทั้งสองฉบับ เพื่อยืนยันต่อสังคมไทยและประชาคมโลกว่า สภาฯในยุคปัจจุบัน ไม่ได้ทอดทิ้งแรงงานหรือละเลยสิทธิ มนุษยชนขั้นพื้นฐาน หากแต่ยืนอยู่เคียงข้างมวลชนผู้ใช้แรงงานในทุกสถานการณ์
นายนันทิวัฒน์ กล่าวอีกว่า การสนับสนุนของฝ่ายค้านในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการรับรองสิทธิแรงงานตามกรอบกฎหมาย หากยังเป็นการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่า ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้เป็นเพียงฝ่ายค้าน หากแต่เป็นปากเสียงแท้จริงของประชาชนผู้ใช้แรงงานนับล้าน
ด้านนายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานเป็นนโยบายเรือธงหนึ่งของพรรค ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2 ฉบับที่จะเข้า ไม่ควรให้ประชาชนมาเรียกร้องด้วยซ้ำ แต่ควรเป็นสามัญสำนึกที่มีว่ารัฐต้องคุ้มครองประชาชน ถ้าจะให้คุณแม่ที่มีลูกเล็กไปทำงาน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เราควรมีสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อให้เขาได้ให้นมลูก อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าการทำงานหนักและทำงานจำนวนชั่วโมงมากจะทำให้งานมีประสิทธิผลมากขึ้น ทั่วโลกรู้ร่วมกันว่าไม่จริง ชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสม สภาวะจิตใจที่ดีพอ ที่จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น นี่ไม่ใช่การเข้าข้างลูกจ้างแต่อย่างใด แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้นายจ้างด้วยซ้ำ หากลูกจ้างมีสุขภาวะจิตที่ดี มีสุขภาพร่างกายที่ดี ยืนยันเราสนับสนุนร่างกฎหมายทั้งสองฉบับแน่นอน และจะประสานไปยังพรรคการเมือง เท่าที่ทราบคือพรรคการเมืองเห็นตรงกันว่าต้องคุ้มครองแรงงาน เพื่อระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ.-316.-สำนักข่าวไทย