จับตาแถลงปิดคดี “แตงโม” พรุ่งนี้

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้วกับคดี “แตงโม” ตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่สุดพรุ่งนี้ (26 เม.ย.) จะมีการแถลงปิดคดีอย่างเป็นทางการ หลังการแถลงตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ส่งฟ้องทุกคดี ทุกข้อหา ต่ออัยการจังหวัดนนทบุรี ทันที


วันพรุ่งนี้ (26 เม.ย.) เวลา 13.00 น. พลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และคณะพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จะแถลงปิดคดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยได้เชิญ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่ เข้าร่วมรับฟังด้วย

การแถลงจะมีการชี้แจงทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นในประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหตุการณ์เรือลำเกิดเหตุ ความผิด อัตราโทษ ข้อเท็จจริง รวมถึงเรื่องบาดแผลว่าเกิดจากอะไร ซึ่งมีการชันสูตรศพถึง 2 รอบ โดยรวมระยะเวลา 2 เดือน 2 วัน ที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนคลี่คลายข้อสงสัย จนสามารถดำเนินคดีกับคนบนเรือได้ทั้งหมดทั้ง 5 คน ในข้อหาที่แตกต่างกันไป


โดย ปอ-ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ ถูกดำเนินคดี 5 ข้อหา คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญา มาตรา 291 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท, พ.ร.บ.การเดินเรือ ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต, พ.ร.บ.การเดินเรือ ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ, พ.ร.บ.การเดินเรือ มาตรา 119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ, แจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ตาม ป.อาญา มาตรา 172

จากการสอบสวนปอให้การว่า ตอนเกิดเหตุเป็นช่วงที่ล่องเรือกลับ หลังจากไปถ่ายรูปที่บริเวณสะพานพระราม 8 และมาพบว่าช่วงที่แตงโมหายจากเรือคือช่วงบริเวณสะพานพระราม 7 ตอนนั้นตนเองไม่ได้เป็นคนขับเรือ แต่คนขับเรือคือ โรเบิร์ต และอ้างว่าแซนเป็นคนเห็นเหตุการณ์ เพราะแตงโมได้พยายามจับขา หลังจากนั่งปัสสาวะบริเวณท้ายเรือ ก่อนจะพลัดตกแม่น้ำ ช่วงนั้นไม่ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากแตงโม เพราะเสียงเครื่องยนต์ดัง ประกอบกับเปิดเพลงจากลำโพง และเรือไม่ได้แล่นด้วยความเร็ว ยอมรับว่าทุกคนดื่มไวน์มาตั้งแต่ร้านอาหาร แต่ไม่มีอาการมึนเมา หลังรู้ว่าแตงโมตกเรือได้พยายามช่วยกันค้นหา ก่อนจะแจ้งตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ยืนยันหลังเกิดเหตุไม่มีเจตนาหลบหนี แต่ยอมรับว่ามีอาการตกใจ กังวล เมื่อตั้งสติได้จึงเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ยืนยันไม่มีเจตนาให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับแตงโม

โรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ ถูกตั้ง 4 ข้อหา คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญา มาตรา 291, พ.ร.บ.การเดินเรือ ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต, พ.ร.บ.การเดินเรือ ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ, พ.ร.บ.การเดินเรือ มาตรา 119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ


จากการเปิดเผยของตำรวจ โรเบิร์ตยอมรับว่าขับเรือไม่เป็น แต่อยากลองขับ ทำให้มีจังหวะที่เรือกระชาก ขณะใช้ความเร็วเรือ 8 นอต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แตงโมพลัดตกเรือ

แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ถูกตั้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญา มาตรา 291 เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ยืนยันคำให้การตามเติมว่าแตงโมไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือ

จ๊อบ-นิทัศน์ กีรติสุทธิสาทร โดน 2 ข้อหา คือ ช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษทางอาญา ตาม ป.อาญา มาตรา 184 หรือทำลายหลักฐาน, พ.ร.บ.การเดินเรือ มาตรา 119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ สอบสวน “จ๊อบ” ให้การปฏิเสธ ทั้ง 2 ข้อหา

กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ถูกข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ตาม ป.อาญา มาตรา 172, ทำลายพยานหลักฐาน ตาม ป.อาญา มาตรา 184 หลังลบภาพล่องเรือในมือถือ

กระติกให้การรับสารภาพว่า ได้ให้การอันเป็นเท็จ แต่ไม่ขอบอกรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องในสำนวน ซึ่งมีรายงานว่าได้ให้การเท็จเรื่องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากกว่า 3 ขวด และยืนยันไม่เห็นแตงโมไปปัสสาวะที่ท้ายเรือ โดยแซนเป็นคนเห็น ส่วนเรื่องลบรูปนั้น กระติกบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่บางรูปไม่สวยก็ลบ แต่ไม่ได้มีการทำลายหลักฐาน
จากข้อมูล

พอจะคาดการณ์ได้ว่าการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จากพยานหลักฐานขณะนี้ สามารถบ่งชี้ได้ว่าเป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกาย เนื่องจากบาดแผลตามร่างกายนั้นเข้ากับใบพัดเรือ ซึ่งหลังจากตำรวจแถลงปิดคดีแตงโมแล้วเสร็จจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมสำนวนคดี ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการทันที เบื้องต้นตำรวจมีการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคนในทุกข้อกล่าวหาที่ถูกดำเนินคดี

นอกจาก 5 คนบนเรือแล้ว ตำรวจยังมีการดำเนินคดีกับนายเอ็ม กุนซือที่ให้คำแนะนำแก่คนบนเรือในการให้ข้อมูลกับตำรวจ ใน 3 ข้อหา ด้วย คือ มาตรา 84 ผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดไม่ว่าด้วยการใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใด ผู้นั้นเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด, มาตรา 172 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 184 ผู้ใดช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด โทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การแถลงปิดคดีในวันพรุ่งนี้เป็นที่จับตา เพราะนอกจากผู้เสียชีวิตจะเป็นนักแสดงชื่อดังแล้ว ปมสาเหตุการเสียชีวิตยังเกิดข้อกังขาสงสัยมากมาย ตั้งแต่วันเกิดเหตุที่คนบนเรือหายตัวไป ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่กลับมีภาพจากกล้องวงจรปิดไปปรากฏในสถานที่ต่างๆ รวมทั้งไม่ได้เข้าพบตำรวจทันที การส่งศพแตงโมไปชันสูตร หลังพบร่างในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ จากเดิมจะส่งไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต แต่เปลี่ยนกะทันหันไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีการโยนแก้วและขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทิ้งน้ำ มีการไปรวมตัวกันหลังเกิดเหตุและยังนัดพบกับกุนซือก่อนเข้าพบตำรวจ เมื่อคนบนเรือไปพบตำรวจไม่มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ทั้งหมด รวมไปถึงการไปบวชโยคีของปอและโรเบิร์ต

นอกจากพฤติกรรมของคนบนเรือแล้ว กระแสสังคมยังตั้งคำถามถึงการทำคดีของตำรวจที่ถูกมองว่าหละหลวม ทำให้เกิดกระแสดราม่ามากมาย และมีนักสืบโซเชียลต่างพากันตรวจสอบขุดคุ้ยเพื่อช่วยหาหลักฐานในคดีนี้ โดยเฉพาะที่มีการระบุว่าชุดบอดี้สูท และทำท่าดังกล่าวก็ไม่สามารถทำได้ การนำคลิปการดำน้ำของกระติกออกมาเผยแพร่หลังจากเจ้าตัวบอกกับแม่แตงโมว่าว่ายน้ำไม่เป็น การตั้งข้อสังเกตเรื่องไฟบนสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นฉากหลังภาพถ่ายสุดท้ายของกระติกและแตงโม ที่ระบุเวลา 21.56 น. ขณะที่เวลาปิดไฟของสะพานพระราม 8 คือ 21.00 น. จึงเกิดข้อสงสัยว่าเป็นการเซตเวลาบนโทรศัพท์เพื่อสร้างหลักฐานเวลาหรือไม่

นักสืบโซเชียลได้ชี้พิรุธเรื่องรอยขีดข่วนและรอยฟกช้ำตามร่างกายของ ปอ แซน รวมถึงเสื้อของจ๊อบ ว่ามีรอยขาด จนนำไปสู่การเปลี่ยนเสื้อโชว์ของจ๊อบว่าเสื้อตัวนี้ไม่มีรอยขาด ปรากฏว่าตอนถอดเสื้อนักข่าวเห็นรอยฟกช้ำที่หัวไหล่และรอยขีดข่วนตามตัว รวมถึงมีการตั้งข้อสงสัยเรื่องสภาพศพของแตงโม โดยเฉพาะบาดแผลที่ต้นขาด้านใน รวมถึงสภาพศีรษะ กะโหล จนทำให้ทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ได้ชี้แจงการผ่าชันสูตรศพแตงโมให้แม่และทนายความทราบอย่างละเอียด ทำให้ครอบครัวพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังติดใจสงสัยอีก 11 ประเด็น ทนายความจึงมีการยื่นเรื่องต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ขอให้มีการชันสูตรแตงโมเป็นครั้งที่ 2 และมีการแถลงผลเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ผลปรากฏว่าผลการชันสูตรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่เปิดเผยข้อมูลให้สื่อได้ทราบเพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น ไม่พบบาดแผลที่ ศีรษะ สภาพใบหน้าของศพเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามสภาพของศพหลังการตายได้ ที่อาจเกิดจากอากาศ ความดัน ไม่พบว่ามีการรัดคอ แผลที่ขา เล็บมือ ได้ตรวจซ้ำอีกครั้งว่ามีการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายหรือไม่ แผ่นหลังไม่พบบาดแผล หลอดลม อวัยวะเพศ ได้นำสารคัดหลั่งไปตรวจแล้ว เสื้อผ้าที่สวมใส่วันเสียชีวิต ในการตรวจรอบ 2 ไม่ใช่ชุดเดียวกันกับที่สวมใส่ คือไม่ได้ตรวจบอดี้สูท โครงสร้างกระดูกทั้งหมดไม่พบการแตกหัก เช่น ฟันยังครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ในการตรวจสอบพบบาดแผลทั้งหมด 22 จุด แต่โดยรวมไม่ต่างจากรอบแรก คือไม่พบบาดแผลที่ศีรษะ ฟันยังครบถ้วนสมบูรณ์

พี่ชาย “แตงโม” เปิดภาพน้องสาวในวัยเด็ก
ล่าสุดเมื่อวานนี้ “ต่อย ดายศ” พี่ชาย “แตงโม” ที่เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาทวงความยุติธรรมให้กับน้องสาว และติดตามความคืบหน้าในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตลอด ได้เคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Dayos Dechjob ด้วยการเปิดภาพที่หาดูยาก และไม่เคยโพสต์ลงที่ไหนมาก่อน นั่นคือภาพ “แตงโม” ในวัยเด็ก ขณะที่กำลังว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน มีรอยยิ้มสดใส แต่ไม่มีเขียนแคปชั่นอะไร มีเพียงใส่อิโมจิรูป (หัวใจสีแดง และแตงโม) เท่านั้น บ่งบอกให้รู้ถึงความรู้สึกว่า “คิดถึงแตงโม” น้องสาว เสมอนั่นเอง

โพสต์ล่าสุดต่อมา “ต่อย ดายศ” พี่ชาย “แตงโม” ที่คิดถึงน้องสาวมากๆ ได้เดินทางไปที่แม่น้ำเจ้าพระยา ตรงบริเวณจุดที่พบร่างไร้วิญญาณของน้องสาวลอยขึ้นมาเหนือน้ำ พร้อมเช็กอิน “ท่าน้ำพิบูลสงคราม 1” กับใส่อิโมจิ (ตัวเศร้าร้องไห้) รวมไปถึงยังได้โพสต์คลิปภาพงานอาลัย “แตงโม” และคลิป “แตงโม” น้องสาว ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]