กทม 25 เม.ย.-ผบ.ตร. บินด่วนตรวจเหตุเครื่องบินเล็กตกทะเลหัวหิน เสียชีวิต 5 เจ็บสาหัส 1 ราย เผยกำลังพลทุกนายพยายามไม่นำเครื่องลงพื้นที่ชุมชน พร้อมยืนยันดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางด่วนลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเครื่องบินเล็กของกองบินตำรวจประสบอุบัติเหตุตกลงทะเล ใกล้บริเวณสนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทันที 5 นาย และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 นาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาอย่างใกล้ชิด
โดย ผบ.ตร. ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อดูจุดเกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมรับฟังรายงานเบื้องต้น ก่อนเดินทางไปยังชายหาดบริเวณที่มีการนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งหมดมารวมกัน ซึ่งถูกนำขึ้นจากทะเลและคลุมด้วยธงชาติไทยเพื่อเป็นการให้เกียรติกำลังพลที่เสียชีวิต
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า เครื่องบินลำดังกล่าวได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่ก่อนเกิดอุบัติเหตุ โดยนักบินพยายามอย่างสุดความสามารถในการหลีกเลี่ยงการตกในพื้นที่ชุมชน เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม ซึ่งสะท้อนถึงความเสียสละและความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันจะให้การดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านสวัสดิการ เงินช่วยเหลือ สิทธิประโยชน์ และการปูนบำเหน็จความดีความชอบ พร้อมกำชับให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
สำหรับร่างของผู้เสียชีวิต ได้มีการปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างครบถ้วน โดย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้รีบนำร่างทั้งหมดส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพราะไม่อยากให้ตากแดดเป็นเวลานาน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการชันสูตรทางนิติเวช ซึ่งได้แจ้งให้ญาติทราบแล้วในเบื้องต้น
ส่วนการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ทางผู้บังคับบัญชาของกองบินและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างหารือเบื้องต้น คาดว่าอาจมีการจัดพิธีรวม ก่อนที่จะให้ญาติแต่ละรายรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาแยกเป็นรายบุคคล
ในโอกาสเดียวกัน ผบ.ตร. ยังได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลหัวหินที่ให้การรักษา ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบินที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งยังคงมีสัญญาณชีพและอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติภารกิจด้วยความเสียสละ สมควรได้รับการยกย่องในเกียรติคุณและความกล้าหาญอย่างยิ่ง.-419-สำนักข่าวไทย
