ผบ.ตร.สั่ง 3 เรื่องด่วนให้หน่วยในสังกัดรับมือเหตุถนนทรุด

ตร. 24 ก.ย. – พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเหตุพื้นผิวจราจรถนนสามเสนบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลวชิระเกิดการทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ ระบุว่าในวันนี้ได้มีการสั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเร่งด่วน 3 ข้อคือ 1.ดูแลพี่น้องประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนต้องอำนวยความสะดวกด้านการจราจรกำหนดเส้นทางเบี่ยงพื้นที่เกิดเหตุ ประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าจะต้องใช้ถนนใดและถนนส่วนไหนที่ต้องหลีกเลี่ยงซึ่งจะต้องมีการประสานกับทางกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด ข้อที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการสำรวจอาคารที่ทำการ สน.สามเสน และอาคารที่พักซึ่งเป็นแฟลตที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ทางตำรวจได้มีการประสานกับ รฟม.และบริษัทผู้ก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินแล้ว จะต้องมีการประเมินตรวจสอบความเสียหาย จากการประเมินภายนอกเห็นว่า เสาเข็มด้านหน้าของสนได้รับความเสียหาย 2 ต้น ในส่วนข้อที่ 3 ตำรวจจะมีการสอบสวนว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไรจะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนและหน้าที่ ในส่วนโรงพยาบาลได้มีการ สั่งการ ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลประสานงานกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพื่ออำนวยความสะดวกช่วยเหลือในสิ่งที่โรงพยาบาลจะร้องขอต่อไป.-416-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.ยันประสานหน่วยงานปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ภายในครึ่งวัน

ตร. 16 ก.ย. – ผบ.ตร.ยืนยันประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ภายในครึ่งวัน เริ่มวันนี้วันแรก โต้กระแสตำรวจเรียกรับเงินแลกปลดล็อกบัญชี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมผ่านวิดีโอคอลเฟอเรนซ์กับผู้บัญชาการตำรวจทั่วประเทศ เพื่อติดตามและสั่งการเร่งแก้ปัญหาการปลดล็อกบัญชี โดยก่อนการประชุม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้เปิดเผยว่าเบื้องต้นให้ใช้คำว่าระงับบัญชีเฉพาะก้อนเงินที่พบความเกี่ยวข้องกับบัญชีผู้กระทำผิด ไม่ใช่การอายัดทั้งบัญชี แต่เป็นการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยว จากนั้นก็จะให้ผู้บริสุทธิ์ยืนยันหรือแสดงตัวใน 4 ประการ 1.ชื่อนามสกุล 2.เลขบัตรประชาชน 3.เลขบัญชีธนาคาร และ 4.ธนาคารที่เจ้าของบัญชีใช้ หากยืนยันและตรวจสอบพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง ก็จะปลดล็อกให้ภายในครึ่งวัน โดยจะเริ่มวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งขั้นตอนเมื่อผู้เสียหายอยู่ในพื้นที่ใดก็ตาม สามารถแจ้งเหตุในพื้นที่นั้น ๆได้ทันที ซึ่งไม่ใช่การผลักภาระให้กับประชาชน เป็นเพียงแค่การยืนยันตัวตนเพื่อความบริสุทธิ์กับทุกฝ่าย โดยกระบวนการทั้งหมดพนักงานสอบสวนจะเร่งรัดประสานกับศูนย์ PCT ก่อนรวบรวมส่งไปให้ทาง AOC ที่เป็นศูนย์ใหญ่จัดการกับเรื่องนี้ โดยยึดการบริหารงานที่ตำรวจเคยมีประสบการณ์ในคดีใหญ่ ๆ มาแล้ว ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องรวดเร็วที่สุด และมาตรการนี้สามารถลดภาระให้กับ AOC ที่คู่สายปัจจุบันมีไม่เพียงพอต่อการรองรับกับผู้เสียหาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการกำชับไปที่ 191 และ 1559 ให้ช่วยรองรับในการแก้ปัญหาให้กับผู้เสียหายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งกระบวนการนี้ ยอมรับว่ามีการเรียกร้องจากพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ ในเรื่องของภาระสำนวนที่มากขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการบริหารภายในองค์กร […]

ผบ.ตร. ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับตำรวจตรวจความเรียบร้อยแนวหลัง

ศรีสะเกษ 27 ก.ค.-ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามเยี่ยมกำลังพลและความสงบเรียบร้อยแนวหลัง ที่ จ.ศรีสะเกษ เผยได้กำชับทุกสถานีตำรวจแนวชายแดน ให้ดูแลทรัพย์สินของประชาชน หลังต้องอพยพออกมาจากบ้านเรือน ขณะเดียวกันให้เฝ้าสังเกตบุคคลที่อาจเป็นสายของฝ่ายตรงข้ามด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังโรงบาลศรีสะเกษเพื่อเยี่ยมให้กำลังใจส.ต.อ.วชิระ กุศลพันธ์ อายุ 32 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด จากเหตุการณ์กัมพูชาโจมตีเป้าหมายพลเรือน ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือส่วนตัว จากนั้นได้เดินทางไปให้กำลังใจประชาชนที่ศูนย์อพยพในวัดแห่งหนึ่งใน อำเภอพยุห์ จ. ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนจากอำเภอกันทรลัอพยพหนีภัยการสู้รบมาอยู่ที่นี่ ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับทีมข่าว สำนักข่าวไทยว่าในวันนี้ตั้งใจเดินทางมาจังหวัดแนวชายแดนโดยก่อนหน้านี้ได้ไปที่อุบลราชธานีก่อนที่จะมาศรีสะเกษซึ่งขณะนี้ภารกิจในส่วนของตำรวจมีด้วยกันสองส่วนคือส่วนแนวหน้าได้แก่ตำรวจตระเวนชายแดนที่มีการสนับสนุนอยู่ในแนวการสู้รบกับทหารและที่อยู่ในแนวส่วนหลังคือการดูแล ทรัพย์สินของประชาชนที่ต้องละทิ้งบ้านเรือนและอพยพออกมาอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆขณะเดียวกันก็ได้สั่งให้เฝ้าระวังกรณีคนแปลกหน้าซึ่งอาจจะเป็นสายของฝ่ายตรงข้ามและการชี้เป้าหมายหรือ. ยุทธศาสตร์ต่างๆในเขตประเทศไทยด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.เผยตำรวจใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เหตุปะทะชายแดน

24 ก.ค. – ผบ.ตร. เผยตำรวจใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา สำรวจจำนวนผู้บาดเจ็บ เคลื่อนย้ายผู้ป่วย หลังปิดปราสาทยุติส่งกำลังเข้าปฏิบัติการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ปะทะบริเวณแนวชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ส่งผลให้มีทหารและประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บ ผบ.ตร. ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างเป็นทางการ โดยในการปฏิบัติการครั้งนี้ ทหารดำเนินการตามภารกิจหลัก ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์กำลังดำเนินการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยครอบคลุมการรักษาความมั่นคงภายใน การอพยพประชาชน การบูรณาการการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย ร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ สำหรับคำถามเรื่องการส่งกำลังเพิ่มเติมเข้าไปสนับสนุน ผบ.ตร. ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้มีการร้องขอจากกองทัพให้ส่งกำลังควบคุมฝูงชนเข้าไปเตรียมความพร้อม เนื่องจากอาจเกิดเหตุขัดแย้งระหว่างประชาชนทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาเมือนธม แต่เนื่องจากขณะนี้มีคำสั่งปิดปราสาทแล้ว จึงยุติการนำกำลังควบคุมฝูงชนเข้าปฏิบัติการ ย้ำว่าขณะนี้ใช้ปฏิบัติการทางทหารเป็นหลัก ส่วนตำรวจยังคงเน้นการสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ในแนวหลัง เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งนี้ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ประจำการในแนวบังเกอร์ชายแดนยังคงอยู่ในพื้นที่ตามหน้าที่ เพื่อสนับสนุนภารกิจร่วมกับทหารต่อไป.-415-สำนักข่าวไทย

พ่อแม่ “น้องเมย” พร้อมเข้าพบ ผบ.ตร. ติดใจเรื่องการเลื่อนยศคู่กรณี

กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – พ่อแม่ “น้องเมย” พร้อมเข้าพบ ผบ.ตร. อยากขอความเมตตาพิจารณาว่าคู่กรณีสมควรเป็นตำรวจต่อหรือไม่ นายพิเชษฐ และนางสุกัลยา พ่อแม่ของ “น้องเมย” ให้สัมภาษณ์บอกว่า หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อต้องขอปรึกษาทนายความก่อน ที่ผ่านมาจนถึงชั้นศาลฎีกา ครอบครัวก็เหนื่อยมากแล้ว ตอนนี้ขอให้ทนายความดำเนินการ ส่วนเรื่องทางคดีคงไม่พูดต่อ เพราะไม่อยากก้าวล่วงศาล ยอมรับว่าความรู้สึกในใจรู้สึกขัดแย้งในฐานะครอบครัวที่ต้องสูญเสียลูกชาย แต่เห็นผู้กระทำเติบโตในหน้าที่ข้าราชการตำรวจ อยากฝากถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าคู่กรณียังสมควรที่จะเป็นตำรวจอยู่หรือไม่ ซึ่งที่ ผบ.ตร. บอกว่าขณะเกิดเหตุคู่กรณีไม่ได้อยู่สถานะตำรวจ จะดำเนินการทางวินัยตาม พ.ร.บ.ตำรวจปี 2565 ไม่ได้นั้น มองว่าไม่น่าใช่ เพราะตอนนั้นเขาเลือกเหล่ามาแล้วว่าเป็นเหล่าตำรวจ อย่างลูกตนก็เลือกเหล่านายร้อย จปร. มันชัดเจนอยู่แล้ว แต่เข้าใจว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มาทีหลังก็ไม่ได้กล่าวโทษท่าน แต่อยากฝากขอความเมตตากับท่าน โดยครอบครัวติดใจเรื่องการเลื่อนยศของคู่กรณี เพราะยศขึ้นเร็วมาก จาก ร.ต.ต. เป็น ร.ต.ท. อยากรู้ว่าคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ทราบหรือไม่ ส่วนที่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าอยากจะพบเพื่อพูดคุยกับครอบครัวเป็นการส่วนตัว ตนมองว่าเป็นเรื่องดี […]

ผบ.ตร.สั่งลุยปราบยาเสพติดตามนโยบายรัฐ 3 เดือน ต้องเห็นผล

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร.สั่งลุยปราบยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล 3 เดือน ต้องเห็นผล ไม่ตอบจะเอาตำแหน่งเป็นประกันหรือไม่ ย้ำว่าจะทำให้ดีที่สุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายหลักในการมอบนโยบายและขับเคลื่อนการกวาดล้างยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ภายใต้แนวคิด “NO Drugs NO Dealers” ซึ่งมีนโยบายจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีว่า ยาเสพติดจะต้องหมดไปจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายใน 3 เดือน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า นโยบายดังกล่าวทุกส่วนราชการ โดยเฉพาะฝ่ายปกครองและตำรวจ ต้องนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด การประชุมครั้งนี้ได้มีการกำชับผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ และตำรวจทั่วประเทศ ถึงขั้นตอนการปฏิบัติที่ชัดเจน โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 สิ้นเดือนนี้จะมีการ “เอกซเรย์” พื้นที่ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพื่อค้นหาและจับกุมผู้ค้ารายย่อย ผู้ค้าขนาดกลาง และผู้เสพให้เข้มข้นกว่าเดิม จะมีการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ยึดทรัพย์ และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ผบ.ตร.ยันจัดการพระสงฆ์ทำผิดตาม กม. มองส่วนน้อยหากเทียบกับพระทั้งประเทศ

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. ยันดำเนินคดีพระสงฆ์กระทำผิดตามกฎหมาย ส่วนตัวมองว่ายังมีจำนวนน้อยหากเทียบกับพระสงฆ์ทั้งประเทศ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีข่าวในวงการพระสงฆ์ที่กำลังเป็นที่จับตาอยู่ในขณะนี้ ว่า ในภาพรวมของกรณีพระสงฆ์ที่ตกเป็นข่าว ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนไปแล้ว โดยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม ทั้งพระสงฆ์หรือฆราวาส ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วนประเด็นที่ว่าการสืบสวนจะกระทำในฐานะพระสงฆ์หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอีกส่วนหนึ่ง เรื่องพระเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ตนจึงไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์อะไรอีกแล้ว พร้อมย้ำว่าขณะนี้มีความชัดเจนในการดำเนินคดีและกระบวนการทางวินัยสงฆ์ได้ดำเนินการควบคู่กันไปอยู่แล้ว ผู้กระทำความผิดก็เป็นไปตามนั้น ปัญหาการกระทำความผิดของพระสงฆ์เป็นเพียงส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนพระสงฆ์ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 3 แสนรูป โดยย้ำว่าการจัดการกับผู้กระทำความผิดจะเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายทุกขั้นตอน.-415-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.ยันไม่ขัดแย้งสำนักพุทธฯ ชม “บิ๊กเต่า” ตั้งใจทำงาน

บช.ก. 17 ก.ค. – ผบ.ตร.ยันไม่ขัดแย้งสำนักพุทธฯ หลังพูดคุยในที่ประชุมตั้งศูนย์ตรวจสอบพระสงฆ์ ชม “บิ๊กเต่า” ตั้งใจทำงาน ส่วนคดีพระสมณศักดิ์สูงกว่าคดี “สีกากอล์ฟ” ได้รับรายงานแล้ว ยันเหตุเกิดในต่างจังหวัด เกี่ยวข้องสีกาเช่นเดียวกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และนายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมกำหนดแนวทางป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เราได้มีการจัดตั้งศูนย์ร้องเรียนการกระทำผิดของพระสงฆ์ขึ้น โดยเป็นการร่วมมือกันหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย ตำรวจ, ป.ป.ช., ป.ป.ท., ปปง. และสำนักงานพระพุทธศาสนา โดยจะมีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งการจัดตั้งศูนย์ครั้งนี้ถือเป็นการจัดตั้งเฉพาะกิจขึ้นมาก่อน โดยให้ทางผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้อำนวยการศูนย์ แต่ในอนาคตคงจะต้องยกระดับให้เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยการแบ่งหน้าที่กันนั้น จะให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาตรวจสอบว่าวัดไหนบุคคลใดไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และแนวทางที่วางไว้ ก็จะผิดเรื่องวินัยสงฆ์ หากผิดในเรื่องอาญาตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินคดี ซึ่งตัวเองไม่อยากให้เหมารวม ให้แยกเป็นเรื่องของบุคคล ส่วนการแสดงทรัพย์สินวัดนั้น ก็จะให้ทาง […]

ตร.แถลงผลระดมกวาดล้างอาวุธปืน 7 วัน ยึดได้กว่า 4 พันกระบอก

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. แถลงผลยุทธการ “ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล” ระดมกวาดล้างอาวุธปืน 7 วัน ยึดได้กว่า 4,000 กระบอก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำทีมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ ภายใต้แผนยุทธการ “ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล” ซึ่งดำเนินการระหว่างวันที่ 14-20 มิถุนายน 2568 สืบเนื่องจากสถานการณ์อาชญากรรมที่ผู้ก่อเหตุมักใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จึงได้สั่งการให้กองบัญชาการต่างๆ ระดมกำลังในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน โดยมีเป้าหมายหลักในการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด และการจับกุมบุคคลตามหมายจับที่ยังหลบหนี โดยมี พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นผู้ควบคุมสั่งการในภาพรวม ผลการปฏิบัติการตลอด 7 วัน พบการจับกุมคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนและวัตถุระเบิด รวมทั้งสิ้น 4,590 คดี ผู้ต้องหา 3,686 คน ตรวจยึดอาวุธปืน 4,422 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 26,490 […]

ผบ.ตร.สร้างความมั่นใจนักบิน แจงตั้งงบ 950 ล้านซ่อมบำรุงอากาศยาน

เนชั่น 30 พ.ค.-ผบ.ตร.เดินหน้าสร้างความมั่นใจให้นักบิน แจงปมตั้งงบ 950 ล้านซ่อมบำรุงอากาศยาน บอกปีนี้ยังไม่ได้ใช้ ขอวางแนวบริหารให้ถูกต้อง มีคุณภาพ คุ้มค่าเงิน ชี้คืบหน้าปฏิการเชิงรุกเหตุไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้ เชื่อวันหน้าควบคุมได้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการหารือกองบินตำรวจว่า เหตุที่เกิดขึ้นที่กองบินตำรวจ เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาที่จะดำเนินการใน 2 ประเด็น คือ การสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นกับสังคม และต้องการสร้างความมั่นใจให้กับนักบิน เพื่อทำหน้าที่ โดยระหว่างนี้จะเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อความโปร่งใสและเพื่อความสุจริตอย่างแท้จริง ซึ่งในเรื่องของสร้างความมั่นใจ นั้น ตนได้เดินทางไปที่กองบินตำรวจเพื่อวางแนวบริหารอากาศยาน วิธีการบริหารนักบิน และการซ่อมบำรุงต่างๆเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ขณะที่เครื่องบินตำรวจที่สามารถใช้ได้อยู่ในตอนนี้จะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เมื่อไหร่หลังมีการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คาดว่า เราใช้เวลาในการตรวจสอบ 1 สัปดาห์ โดยให้นักบินได้มีส่วนร่วมด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักบิน และคาดว่าในวันเสาร์ที่ 31 พ.ค.นี้ จะสามารถเริ่มภารกิจที่จำเป็นได้ ส่วนการตั้งงบประมาณในการซ่อมบำรุงปีละ 950 ล้านบาท นั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในปีนี้เรายังไม่ใช้งบประมาณ เพื่อวางแนวการบริหารใหม่ให้เกิดความถูกต้อง และเน้นในเรื่องของการซ่อมอากาศยานให้เกิดคุณภาพมากที่สุด คุ้มค่ากับงบประมาณให้มากที่สุด พร้อมยืนยันว่า มีการตรวจสอบย้อนหลังกลับไปอยู่แล้วเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เมื่อถามถึงกรณีที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ […]

ผบ.ตร.สั่งขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้องเอี่ยวอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

กรุงเทพฯ 16 พ.ค. – ผบ.ตร. สั่งตำรวจสอบสวนกลาง ขยายผลถึงไวยาวัจกร พระรูปอื่น เอี่ยวเล่นพนันหรือไม่ และเตรียมคุมตัวอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พร้อมผู้ต้องหาอีกคน ฝากขัง-ค้านประกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าคืบหน้าการสอบปากคำ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรืออดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และนางสาวอรัญญาวรรณ 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดียักยอกเงินวัดไร่ขิงกว่า 300 ล้านบาท เพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์ โดยจากการสอบปากคำผู้ต้องหา มีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะหลักฐานเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงไปยังเว็บพนัน ไม่ใช่กิจของสงฆ์อย่างชัดเจน ประกอบกับผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ตั้งเป็นรูปคณะทำงานขึ้นมา มี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี เนื่องจากผู้ต้องหา อดีตเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ และเป็นการกระทำความผิดในฐานะเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พนักงานสอบสวนเตรียมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปขออำนาจศาลฝากขังช่วงบ่ายนี้ ชั้นสอบสวนคัดค้านประกันตัว เนื่องจากมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก และเกรงไปเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนขยายผลไปบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้ใกล้ชิดกับผู้ต้องหา อย่างเช่น ไวยาวัจกร และพระลูดวัด […]

1 2 3 8
...