เปิดปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” เปิดโปงขบวนการจัดหาบัญชีม้า

บช.ก. 15 ต.ค. – ผบ.ตร.ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” เปิดโปงขบวนการจัดหาบัญชีม้า ตัดเส้นทางฟอกเงินธุรกิจสีเทา


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์” เปิดโปงขบวนการจัดหาบัญชีม้า ตัดเส้นทางฟอกเงินธุรกิจสีเทา โดยออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 72 หมาย จับกุมแล้ว 64 ราย หลบหนี 8 ราย

กลุ่มที่ 1 ผู้ร่วมขบวนการเว็บพนันออนไลน์ Crown168 จำนวน 14 ราย พร้อมยึดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) จำนวน 685 บัญชี, บัตรกดเงินสดอีกหลาย 100 ใบ, โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ดโทรศัพท์ รวมของกลางอื่น ๆ กว่า 1,000 รายการ


กลุ่มที่ 2 ผู้ร่วมขบวนการจัดหาบัญชีม้า จำนวน 20 ราย จับกุมแล้ว 14 ราย พร้อมยึดแท็บเลตเครื่องสำคัญที่ใช้ในการจัดหาบัญชีม้า, โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสมุดบัญชีบางส่วน

กลุ่มที่ 3 ผู้ร่วมขบวนการฟอกเงินธุรกิจสีเทา จำนวน 38 ราย จับกุมแล้ว 36 ราย พร้อมตรวจยึดธนบัตรไทยและธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐ รวมมูลค่ากว่า 31 ล้านบาท และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ

ทั้งนี้ ยังได้มีการอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนิติบุคคลที่พบความเชื่อมโยงกันอีกหลายบริษัท รวมจำนวนกว่า 25 ล้านบาท


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้ดำเนินการจับกุมเว็บพนันออนไลน์ Crown168 ซึ่งได้รับการประสานงานจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ตรวจพบเว็บไซต์ชื่อ https://crown168.com/ ที่มีการจัดให้มีการเล่นพนันในลักษณะคาสิโนออนไลน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตโดยผิดกฎหมาย (พนันออนไลน์) จากการจับกุมดังกล่าวสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 14 ราย พร้อมยึดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) จำนวน 685 บัญชี, บัตรกดเงินสดอีกหลาย 100 ใบ, โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ดโทรศัพท์ รวมของกลางอื่น ๆ กว่า 1,000 รายการ จากการตรวจสอบบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ที่ตรวจยึดได้นั้น พบว่ามีบัญชีธนาคารนิติบุคคลหรือบริษัทรวมอยู่ด้วย

ต่อมาได้มีการนำบัญชีธนาคารที่ตรวจยึดได้มาตรวจสอบกับข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ ศูนย์ AOC (Anti Online Scam Operation Center) โดยพบว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวถูกนำมาใช้เป็นบัญชีรับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีข้อมูลตรงกับที่มีการรับแจ้งจากศูนย์ AOC จำนวนหลายคดี เช่น หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน, หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้เสริม, หลอกให้ติดตั้งโปรมแกรมเพื่อควบคุมโทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย, หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล เป็นต้น

ตำรวจ กก.1 บก.ป. จึงได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อตรวจสอบที่มาของบัญชีธนาคารและซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ตรวจยึดได้ จนภายหลังทราบว่า บัญชีธนาคารต่างๆ ได้มาจากกลุ่มบุคคล ซึ่งมีการรวมตัวกันเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ สั่งการผ่านทางกลุ่มไลน์เฉพาะ ที่มีสมาชิกของขบวนการภายในกลุ่มไลน์ มีการให้ค่าตอบแทนกับผู้ที่มาทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคาร เป็นรายเดือนๆ ละ 2,000 บาท ต่อคนต่อเดือน และเมื่อบัญชีธนาคารมีปัญหา เช่น ถูกอายัดบัญชี, ถูกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ, บัญชีที่ทางธนาคารไม่อนุญาตให้ทำธุรกรรมการเงิน บัญชีเหล่านี้จะได้รับเงินค่าตอบแทนรายเดือนน้อยลงเรื่อยๆ จนเมื่อบัญชีธนาคารไม่สามารถใช้งานได้ หัวหน้าขบวนการจะแจ้งตามลำดับลงมาว่าให้งดจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนของบุคคลตามที่แจ้งมา และให้ดำเนินการปิดบัญชี

ส่วนสมาชิกในขบวนการจะได้ค่าตอบแทนเป็น “ค่าหัวคิว” หักจากเจ้าของบัญชีธนาคาร ซึ่งหากสมาชิกคนใดหาคนมาเปิดบัญชีธนาคารได้มาก ก็จะได้ค่าตอบแทนมากขึ้นตามลำดับ หลังจากนั้นเมื่อได้บัญชีธนาคารพร้อมใช้งานมาแล้ว ขบวนการดังกล่าวจะนำบัญชีธนาคารที่ได้มาไปใช้เป็นบัญชีที่รับเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น บัญชีรับแทง (บัญชีรับเงินจากผู้เล่นพนันทุกประเภท), บัญชีจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เล่นการพนันทุกประเภท, บัญชีที่ใช้รับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง เป็นต้น ในขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน

ผลการปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการจัดหาบัญชีม้าได้จำนวน 14 ราย โดยยังมีอีก 6 ราย ซึ่งเป็นระดับหัวหน้าและผู้ใกล้ชิดหัวหน้าขบวนการ หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดแท็บเลต, ซิมการ์ด และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อสั่งการกันในขบวนการอีกจำนวนหลายรายการ จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือพบว่ามีกลุ่มไลน์เกี่ยวกับการจัดหาบุคคลมาเปิดบัญชี, การจ่ายเงินค่าตอบแทน, แก้ไขสแกนใบหน้า จำนวน 19 กลุ่มไลน์ และยังพบข้อมูลสถานที่ส่งบัญชีม้าอีก 17 จุดทั่วประเทศ

จากการสืบสวนขยายผลบัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคลหรือบริษัทที่ตรวจยึดมาได้ พบว่ามีเส้นทางการเงินต้องสงสัยเชื่อมโยงไปยังบัญชีธนาคาร บริษัท จี เอ็น xxx จึงได้ทำการตรวจสอบ ปรากฏว่าภายในระยะเวลา 1 เดือน บริษัท จี เอ็น xxx มีการรับโอนเงินจากบริษัทฯ อื่นๆ กว่า 21 บริษัท เป็นเงินกว่า 800 ล้านบาท จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนพบว่าบริษัทฯ จำนวน 21 บริษัท ที่โอนเงินเข้ามายัง บริษัท จี เอ็น xxx เป็นการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล เปิดบริษัทฯ มาบังหน้าเท่านั้น ไม่ได้มีการดำเนินกิจการตามจุดประสงค์ที่ขอจดทะเบียน และจากการตรวจสอบข้อมูลบุคคลของกรรมการบริษัทฯ แต่ละรายแล้ว พบว่าเป็นบุคคลที่มีฐานะไม่สัมพันธ์กับเงินหมุนเวียนของบริษัทที่มียอดเงินหมุนเวียนนับร้อยล้านบาท เพราะแท้จริงแล้ว บริษัทฯ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการไปขอเปิดบัญชีธนาคารกับธนาคารแล้วนำบัญชีธนาคารของนิติบุคคลหรือบริษัทนั้น มาเป็นบัญชีรับเงิน-จ่ายเงินให้กับกลุ่มเว็บพนันออนไลน์กว่า 10 เว็บไซต์ และกลุ่มเครือข่ายที่กระทำผิดกฎหมายอย่างอื่นอีก โดยมีการโอนเงินผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเปิดให้เล่นการพนันต่อไปยังบัญชีธนาคารของ บริษัท จี เอ็น xxx ก่อนกรรมการ บริษัท จี เอ็น xxx (ม้า) จะลงลายมือชื่อในใบถอนเงินและเอกสารมอบอำนาจ โดยเว้นช่องชื่อผู้รับมอบอำนาจและจำนวนเงิน ทิ้งไว้ให้กับกลุ่มถอนเงิน ไปตระเวนถอนเงินผิดกฎหมายทั่วกรุงเทพ

จากการสืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 สามารถพิสูจน์ทราบถึงขบวนการฟอกเงินรายใหญ่ในประเทศได้ โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะเรียกตัวเองว่าเป็นกลุ่ม Payment ซึ่งทำหน้าที่ในการรับฟอกเงินให้กับธุรกิจสีเทาต่างๆ โดยจากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์, แก๊งค้ายาเสพติด และเว็บพนันออนไลน์ โดยคิดค่าตอบแทนอย่างน้อย 3% ต่อยอดเงินที่กลุ่มธุรกิจสีเทานำมาฟอก และหากกลุ่มธุรกิจสีเทาต้องการฟอกเป็นเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี กลุ่ม Payment ก็จะนำเงินสดไปทำการแลกเปลี่ยนโดยมีค่าตอบแทนเป็น % ตามจำนวนเงินที่นำมาแลกอิงตามค่าเงินเหรียญ USDT ของวันนั้นๆ

สำหรับผลการปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงต้นปี พ.ศ.2567 นำมาสู่การสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาขบวนการจัดหาบัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคล (บริษัท) เพื่อฟอกเงินให้กับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายทั้งบุคคลและองค์อาชญากรรมต่าง ๆ โดยในวันที่ 7-11 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ จำนวน 36 ราย พร้อมตรวจยึดธนบัตรไทยและธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐมูลค่ารวมกว่า 31 ล้านบาท, สมุดบัญชีธนาคาร บริษัท จี เอ็น xxx พร้อมหลักฐานอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้ทำการอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนิติบุคคล ที่พบความเชื่อมโยงกันอีกหลายบริษัท รวมจำนวน 25 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนั้นยังพบว่าเป็นเงินจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์โอนเข้ามาเพื่อฟอกเงินอีกด้วย

ทั้งนี้ในทางสืบสวนพบว่ามีข้อมูลที่เชื่อว่ายังมีกลุ่มนิติบุคคลที่ทำการเปิดบริษัท โดยการจ้างบุคคลอื่นมาเป็นกรรมการ ซึ่งเมื่อทำการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้แล้ว จะไปยื่นขอเปิดบัญชีธนาคาร แล้วนำบัญชีธนาคารในรูปแบบนิติบุคคลไปใช้ประโยชน์ในลักษณะที่ทำการจับกุมมาแล้วอยู่อีกจำนวนหลายกลุ่ม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป จะทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดรายที่เหลือเพื่อเป็นการตัดตอน และแก้ปัญหาบัญชีธนาคารม้า ที่กำลังระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างแพร่หลายต่อไป

การเปิดบัญชีธนาคารให้บุคคลอื่นใช้ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงต่อตัวเจ้าของบัญชีและสังคมการกระทำดังกล่าวถือเป็นการสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น การฟอกเงิน การฉ้อโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ หากบัญชีดังกล่าวถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และต้องรับโทษทั้งจำคุกและปรับ จากการกระทำดังกล่าวอาจทำให้มีผู้คนอีกจำนวนมากที่จะต้องสูญเสียทรัพย์สินไปอย่างประเมินค่าไม่ได้ เพียงเพราะการเปิดบัญชีธนาคาร ที่ได้ผลตอบแทนเพียงน้อยนิด ไม่ว่าจะได้รับข้อเสนอล่อใจใดๆ ก็ตาม ควรปฏิเสธอย่างเด็ดขาด หากพบเห็นบุคคลที่พยายามชักชวนให้เปิดบัญชี หรือมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบโดยทันที.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]