“อ.นพดล” ชงรัฐบาลเดินหน้าตามแผน 4 เดือน ยุติภัยบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 25 ก.ย.- “อ.นพดล” เสนอรัฐบาล อนุทิน–กระทรวงดีอี” เดินหน้าตามแผน 4 เดือน ยุติภัยบัญชีม้าคืนความเป็นธรรมให้ผู้สุจริต


ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพลและศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ วอชิงตัน ดีซีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ที่ปรึกษาโครงการ Stronger Together สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการศึกษา ยุติภัยบัญชีม้า ที่ค้นพบในโครงการศึกษาวิจัยมาตรการความร่วมมือเพื่อปกป้องผู้สุจริต ยุติภัยบัญชีม้า และสร้างเกราะป้องกันภัยให้ประชาชนจากขบวนการมิจฉาชีพออนไลน์ โดยประเด็นสำคัญที่ค้นพบพอสรุปได้ดังนี้

ข้อเท็จจริง (Facts) ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อาชญากรรมทางการเงินดิจิทัล ได้ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อทั้ง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และ ความเชื่อมั่นของประชาชนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแก๊งคอลเซนเตอร์และเครือข่ายมิจฉาชีพออนไลน์ ที่ฉวยโอกาสจากช่องโหว่ของระบบการเงินและเทคโนโลยีการสื่อสารในการหลอกลวงประชาชน ส่งผลให้เกิดความเสียหายมูลค่าหลายร้อยล้านบาทต่อวัน


อย่างไรก็ตาม ในกลางปี 2567 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เมื่อมีการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในระดับทวิภาคี ระหว่าง คณะทำงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ. ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ กับ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยผมมีโอกาสเข้าร่วมประชุมในฐานะที่ปรึกษาและผู้แทนภาคประชาชน

ข้อมูลสถิติยืนยันชัดเจนว่า ในช่วง มีนาคม 2565 – มีนาคม 2567 (762 วัน) ความเสียหายรวมมีมูลค่า 65,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 85.3 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง เมษายน 2567 – สิงหาคม 2568 (518 วัน) ความเสียหายลดลงเหลือ 33,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 63.5 ล้านบาท (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, 2568) แสดงให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าวสามารถทำให้ขบวนการมิจฉาชีพออนไลน์และแก๊งคอลเซนเตอร์สูญเสียรายได้มากกว่า 8,000 ล้านบาทต่อปี การวิเคราะห์บริบทสถานการณ์ (Contextual Analysis) วิเคราะห์จุดอ่อนสำคัญ พบว่า

  1. การทำงานแยกส่วนแต่ละส่วนหลากหลายมาตรฐาน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ธนาคารต่าง ๆ ป.ป.ง. ธปท. ตำรวจ กรมสรรพากร ฯลฯ)
  2. การสื่อสารไม่เพียงพอ ทำให้ประชาชนไม่รับรู้ความก้าวหน้า และเกิดความรู้สึก “รัฐทอดทิ้ง” ทั้ง ๆ ที่ วันนี้ทุกภาคส่วนกำลังเดินมาถูกทางแล้ว มาตรการต่าง ๆ ทำให้ขบวนการมิจฉาชีพและแก๊งคอลเซนเตอร์สูญเสียรายได้หลายพันล้านบาท และประชาชนตื่นรู้ตื่นตัวตระหนักมากยิ่งขึ้น
  3. มาตรการคุ้มครองผู้สุจริตยังไม่ชัดเจน จึงทำให้ผู้เสียภาษีและผู้ประกอบการผู้สุจริตสูญเสียแรงจูงใจในการทำดี และตกเป็นเหยื่อขบวนการมิจฉาชีพออนไลน์

ข้อเสนอมาตรการเชิงรุก หากรัฐบาลที่นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เดินหน้าแนวทางเชิงรุกอย่างจริงจัง ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะ “ยุติภัยบัญชีม้า” ได้ภายใน 4 เดือน โดยอาศัยมาตรการสำคัญดังนี้


  1. ศูนย์ตรวจสอบธุรกรรมเร่งด่วน (Fast Track Clearing Center) ศูนย์นี้จะทำหน้าที่กลั่นกรองและเร่งรัดการตรวจสอบธุรกรรมที่ถูกอายัด โดยหากผู้สุจริตมีหลักฐานครบถ้วน จะสามารถปลดอายัดได้ทันทีภายใน 4 ชั่วโมง และกรณีทั่วไปไม่เกิน 48 ชั่วโมง ลดผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและธุรกิจของประชาชนผู้สุจริต
    รัฐบาลใหม่โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี อาจจะพิจารณานั่งหัวโต๊ะจัดตั้งคณะทำงานบูรณาการภายใน 30 วัน โดยมี DES เป็นศูนย์กลาง ประสานทุกหน่วยงานผ่านระบบ Application Programming Interface (API) พร้อมกับกรอบแนวคิดความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นสากลเช่น NIST หรือ ISO/IEC 27001
  2. กรอบแนวคิดธงแดง/ธงเขียว Red Flag/Green Flag Framework ใช้ระบบคัดกรองความเสี่ยงด้วยสัญญาณ “ธงแดง” สำหรับธุรกรรมที่มีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น การโอนเงินหลายทอดหรือบัญชีที่เพิ่งเปิดใหม่ และ “ธงเขียว” สำหรับผู้ที่มีประวัติการเสียภาษีต่อเนื่องหรือได้รับการยืนยันจากหน่วยงานรัฐว่าบริสุทธิ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและลดความผิดพลาด
  3. การใช้ Financial Integrity Score (FIS) จัดทำคะแนนความน่าเชื่อถือทางการเงินเพื่อมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้ที่มีประวัติการเงินโปร่งใส เช่น ได้รับความคุ้มครองมากขึ้น และลดความเสี่ยงที่จะถูกอายัดโดยไม่เป็นธรรม
  4. การทำ AI Fraud Detection และ Blacklist กลางระดับชาติ โดยลงทุนพัฒนาระบบ AI และฐานข้อมูลกลาง เพื่อเฝ้าระวังธุรกรรมผิดปกติแบบเรียลไทม์ พร้อมจัดทำบัญชีดำที่ครอบคลุมทั้ง “บัญชีม้า–เบอร์โทรศัพท์–แอปพลิเคชันหลอกลวง” ให้ทุกธนาคารและผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถเข้าถึงได้อย่างบูรณาการ
  5. การสื่อสารเชิงรุก โปร่งใส และต่อเนื่อง รายงานสัปดาห์ต่อสัปดาห์ต่อสาธารณะ เช่น จำนวนบัญชีที่ได้รับการปลดอายัด มูลค่าความเสียหายที่ลดลง และผลลัพธ์ของมาตรการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่ารัฐกำลังแก้ปัญหาอย่างจริงจังและเห็นผลได้ทันตา ปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เพื่อเปิดทางการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอาชญากรรม

บทสรุป มาตรการนี้ไม่ใช่เพียงการปราบปรามมิจฉาชีพ แต่เป็นการคืนความยุติธรรมแก่ผู้สุจริตและสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินไทย ให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่า เงินในบัญชีจะไม่ถูกทำให้กลายเป็น “บัญชีม้า” โดยไม่เป็นธรรม แต่ภายในระยะเวลา 4 เดือนนี้ ด้วยความร่วมมือบูรณาการแท้จริงของ รัฐบาล นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน ป.ป.ง. และ ธนาคารพาณิชย์ ประเทศไทยจะมีเกราะป้องกันทางการเงินดิจิทัลที่เข้มแข็งที่สุดในภูมิภาค มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนกลับคืนมาได้เป็นมรรคเป็นผล .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]