ทีมชันสูตรยืนยันสาเหตุดับ 6 ศพ เกิดจาก “ไซยาไนด์”

รพ.จุฬาฯ 17 ก.ค. – ทีมชันสูตร 6 ศพ ยืนยันสาเหตุการตายเกิดจากสารไซยาไนด์ หากมากพอทำให้เสียชีวิต ไม่สามารถยืนยันใครตายก่อน ส่วนสารประกอบอื่นรอผลห้องปฏิบัติการยืนยันความชัดเจน


รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมด้วย รศ.นพ.กรเกียรติ วงศ์ไพศาลสิน อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.), พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ, พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) ร่วมกันแถลงผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของชาวเวียดนาม 6 ราย บริเวณชั้น 5 ของโรงแรมย่านราชประสงค์ กรุงเทพฯ

รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า เบื้องต้นจากลักษณะที่ตรวจพบทั้งภายนอกและอวัยวะภายในไม่พบว่ามีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตนอกจากสารไซยาไนด์ ต้องรอผลตรวจอวัยวะภายในเชิงลึก เพื่อหาสารบางอย่างเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นหากได้รับสารไซยาไนด์ระดับมิลลิกรัมในเลือด ถ้าได้รับเกิน 3 มิลลิกรัมต่อซีซี จะเสียชีวิตทุกราย หากได้รับไซยาไนด์ในปริมาณ 1-2 มิลลิกรัมต่อซีซี ผู้ป่วยจะมีอาการค่อนข้างหนัก แต่หากรักษาทันอาจจะรอด ซึ่งจะต้องรอผลจากห้องปฏิบัติการอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งว่าได้รับไปประมาณเท่าใด สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษไซยาไนด์จะขึ้นอยู่กับปริมาณและวิธีการที่ได้รับ เช่น การสูดดมหรือการรับประทาน หากรับประทานในปริมาณที่สูงจะเกิดอาการในระยะเวลาที่สั้น คนไข้จะมีอาการเหนื่อยหอบ หมดสติ รวมถึงมีการชักเกร็ง เพราะขาดออกซิเจนในสมองเฉียบพลัน ซึ่งสามารถเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วมากในเวลาหลักนาที


รศ.นพ.กรเกียรติ กล่าวว่า การชันสูตรในสถานที่เกิดเหตุและนำมาชันสูตรพลิกศพในภาพรวมทั้งหมด 6 ราย เป็นหญิง 3 ราย ชาย 3 ราย ประกอบด้วยชาวเวียดนาม 4 ราย อเมริกัน 2 ราย ส่วนแรกจะเป็นการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจะมีการพิสูจน์เอกสารหลักฐานซึ่งตรงกับสภาพศพที่ได้รับทั้งนี้ทราบชื่อ เชื้อชาติ ทั้งหมด 6 ราย จากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ 2.การพิสูจน์ระยะเวลาการเสียชีวิต ได้ประเมินจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุที่โรงแรม เบื้องต้นทีมแพทย์ที่เข้าไปประเมินศพทุกรายเสียชีวิต 12-24 ชม. ซึ่งการประเมินได้มาจากการตรวจการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น การแข็งตัวของกล้ามเนื้อหลังการตาย การตกสู่เบื้องต่ำของเม็ดเลือดในศพทุกรายพบในลักษณะปรากฏสอดคล้องในทิศทางเดียวกันในระยะเวลา 12-24 ชม. 3.สาเหตุการเสียชีวิต ทุกรายทางพนักงานสอบสวนได้ส่งศพมาชันสูตร ที่ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ โดยได้เก็บภาพหลักฐานของผู้เสียชีวิต การเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ น้ำวุ้นลูกตา เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการตาย และการตรวจซีทีสแกนหาร่องรอยการถูกทำร้ายหรือบาดเจ็บโดยใช้ภาพถ่ายรังสีคอมพิวเตอร์ช่วย ในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายในทุกราย

รศ.นพ.กรเกียรติ กล่าวว่า ส่วนการผ่าชันสูตร ในภาพรวมทั้ง 6 ราย มีร่องรอยการขาดอากาศเกิดขึ้นคือ ริมฝีปากเป็นสีม่วงเข้ม ใบหน้าต่าง ๆ รวมถึงการตกสู่เบื้องต่ำของเลือดมีสีลักษณะพิเศษ รวมถึงปลายเล็บมือที่มีสีม่วงเข้มเป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ว่าอาจจะมีการเสียชีวิตในเรื่องของการขาดอากาศร่วมด้วย จากการตรวจสอบมีคุณลักษณะสำคัญอีกอย่างที่ตรวจพบว่าการตกสู่เบื้องต่ำของเลือดสีที่พบเป็นสีค่อนข้างแดงสดแตกต่างจากเคสหลังตายทั่วไป ทีมชันสูตรจึงตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่า การเสียชีวิตเหล่านี้อาจมีสารพิษบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่พบได้บ่อย ๆ คือ ไชยาไนด์ ทั้งนี้จะเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจพิสูจน์หาสารพิษอื่นๆ ร่วมด้วย

รศ.นพ.กรเกียรติ กล่าวว่า เมื่อผ่าชันสูตร อวัยวะภายในต่างๆ ไม่ได้พบร่องรอยอะไรที่เป็นลักษณะที่สำคัญจากตรวจด้วยตาเปล่าพบเพียงการคลั่งเลือดของอวัยวะต่างๆ ปริมาณมากในทุกราย ส่วนการสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นการสันนิษฐานในเรื่องของการตรวจพิษของสารไซนาไนด์ส่งผลในการขาดอากาศในระดับเซลล์ของอวัยวะที่สำคัญคือระบบประสาทและหัวใจ เชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกรายเสียชีวิต ซึ่งมีการตรวจคัดกรองสารพิษไซยาไนด์ในห้องปฏิบัติการพบมีการเปลี่ยนสี ให้สีเป็นบวก จึงสงสัยเรื่องสารพิษไซยาไนด์ ทั้งนี้ทต้องรอผลการตรวจเลือดยืนยันอีกครั้งอาจใช้เวลาอีก 1-2 วัน คาดว่าจะทราบผลในวันศุกร์นี้ ส่วนจะมีปริมาณเท่าใด และมีสารประกอบอื่นๆ ที่ส่งเสริมฤทธิ์ด้วยหรือไม่นั้นต้องรอผลการตรวจเลือดเพื่อยืนยันอีกครั้งคาดว่าจะทราบผลภาพรวมทั้งหมดใน 1-2 สัปดาห์ ทั้ง 6 ราย เจอไซยาไนด์ทั้งหมดในการตรวจคัดกรอง


อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถแยกแยะระบุเวลาเสียชีวิตเป็นราย ๆ ได้ว่าใครเสียชีวิตในเวลาไหน ในขณะนั้นใครจะเสียชีวิตก่อนหรือหลัง เพราะการแข็งตัวของกล้ามเนื้อหลังตายและการตกสู่เบื้องต่ำของเม็ดเลือดจะบ่งบอกได้เป็นช่วงระยะเวลาเท่านั้น ไม่สามารถลงลึกบอกระยะเวลาที่แน่นอนได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงหลังตายมีปัจจัยรบกวนอยู่หลายอย่าง เช่น อุณหภูมิ สิ่งแวดล้อม แต่การเปลี่ยนแปลงในทุกรายเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ 12-24 ชม. จากสภาพศพบ่งบอกไม่ได้เรื่องการชักเกร็ง ทั้งนี้พบว่าทุกศพมีเศษอาหารคงเหลืออยู่ในกระเพาะแตกต่างกัน ซึ่งบางรายอาหารย่อยไปมากแล้ว แต่บางศพยังไม่ย่อยเท่าที่ควร แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอาหารชนิดใดบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้แพทย์จะบันทึกลงผลการชันสูตรแบบละเอียด ส่วนการตรวจสอบสารไซยาไนด์ที่พื้นผิวอื่นๆ ของศพนั้นเป็นเรื่องยาก ต้องยอมรับว่าแพทย์ตรวจเฉพาะไซยาไนด์ในเลือด จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีไซยาไนด์ติดที่อวัยวะภายนอกของบุคคลใดใน 6 รายนี้บ้าง หลังจากนี้จึงจะมีการตรวจภายนอก

ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวถึงที่มาของสารไซยาไนด์ว่า ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็นคือ เตรียมการนำเข้ามาก่อนเข้าประเทศไทย หรือหาซื้อในประเทศ ผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม ที่กลุ่มผู้เสียชีวิตเริ่มเดินทางเข้าประเทศไปจนถึงวันที่ 12 กรกฎาคม และยอมรับว่าขณะเดินทางผ่าน ตม.ไม่สามารถตรวจหาสารเหล่านี้ได้ รวมถึงไม่สามารถยืนยันว่าผู้ใดคือผู้นำเข้า ต้องรอการสืบสวนให้เสร็จสิ้นชัดเจนก่อน

สำหรับขั้นตอนหลังจากชันสูตรแล้ว ตำรวจจะรอรายงานผลการชันสูตรจากทางแพทย์เพื่อนำไปประกอบในสำนวน ส่วนครอบครัวที่ติดต่อมารับศพ มีเพียงครอบครัวของสามีภรรยาที่มาสอบปากคำที่โรงพัก สน.ลุมพินี ในวันนี้.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]