Trump to impose $100,000 fee per year for H-1B visas, in likely blow to tech

สหรัฐขึ้นค่าวีซ่าคนทำงานทักษะสูงเป็นกว่า 3 ล้านบาท

วอชิงตัน 20 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงนามคำสั่งเก็บค่าวีซ่าทำงานเอช 1 บี (H1B) สำหรับคนทำงานทักษะสูง เป็นปีละ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.18 ล้านบาท) เสี่ยงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาคเทคโนโลยีของสหรัฐที่ต้องพึ่งพาแรงงานทักษะสูงจากอินเดียและจีน ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร 2 ฉบับเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ฉบับแรกเป็นการกำหนดวีซ่าประเภทใหม่สำหรับผู้ที่ยินดีจ่ายเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31.83 ล้านบาท) เพื่อเข้าสหรัฐ เขาเรียกวีซ่าประเภทนี้ว่า “บัตรทองทรัมป์” และอ้างว่าจะนำเงินเข้าประเทศมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 3.18 ล้านล้านบาท) ซึ่งรัฐบาลจะนำไปใช้ในการลดภาษีและชำระหนี้ เจ้าหน้าที่ที่ขอสงวนนามเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังจะออก “บัตรแพลตินัม” เพื่อใช้แทนวีซ่านักลงทุนในปัจจุบัน บัตรนี้จะมีมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 159 ล้านบาท) อนุญาตให้ชาวต่างชาติพำนักอยู่ในสหรัฐได้สูงสุด 270 วันโดยไม่ต้องเสียภาษีรายได้ที่เป็นรายได้นอกสหรัฐ นายทรัมป์ยังได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารที่เป็นคำประกาศขึ้นค่าวีซ่าเอช 1 บีจากปีละ 215 […]

Swedish military publishes pictures of Russian jets

เอสโตเนียเผยเครื่องบินรบรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้า

ทาลลินน์ 20 ก.ย.- เอสโตเนียแจ้งว่า เครื่องบินรบรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าเอสโตเนีย ขณะที่รัสเซียโต้กลับว่า เป็นการบินเหนือน่านน้ำที่เป็นกลาง นับเป็นเหตุการณ์ทางทหารครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและสมาชิกนาโต เอสโตเนีย ซึ่งเป็นประเทศริมทะเลบอลติกแถลงเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า มิก-31 (MiG-31) ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ความเร็วเหนือเสียงของรัสเซียจำนวน 3 ลำได้รุกล้ำน่านฟ้าของเอสโตเนีย เป็นเวลา 12 นาที ก่อนถูกบีบให้บินออกไป นายมาร์กุส ซาคนา รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนียกล่าวว่า รัสเซียได้ละเมิดน่านฟ้าเอสโตเนียแล้ว 4 ครั้งในปีนี้ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการกระทำไร้ยางอายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และได้เรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียมารับหนังสือประท้วงแล้ว นายกรัฐมนตรีคริสเทน มีฮัลของเอสโตเนียเปิดเผยว่า เอสโตเนียได้ขอให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ที่เอสโตเนียเป็นสมาชิกอยู่ เปิดการหารือตามมาตรา 4 ของสนธิสัญญานาโตที่บัญญัติให้สมาชิกหารือร่วมกัน หากมีสมาชิกประเทศใดเห็นว่าดินแดน ความเป็นอิสระทางการเมือง หรือความมั่นคงของสมาชิกประเทศนั้นถูกคุกคาม นายมีฮัลกล่าวด้วยว่า ฝูงบินรบรัสเซียบินเข้ามาในน่านฟ้านาโตราว 5 ไมล์ทะเลหรือ 9 กิโลเมตร ก่อนถูกฝูงบินเอฟ-35 (F-35) ของอิตาลีที่ประจำการอยู่ที่ฐานทัพในเอสโตเนียผลักดันออกไป กระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมช่วงเช้าตรู่วันนี้ตามวันเวลาท้องถิ่นว่า ฝูงบินรบของรัสเซียบินเหนือน่านน้ำสากลของทะเลบอลติก โดยบินจากภูมิภาคด้านตะวันตกเฉียงเหนือไปยังแคว้นคาลินินกราด ซึ่งเป็นดินแดนริมทะเลบอลติกที่ไม่ติดกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย และตั้งอยู่คั่นกลางระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนีย เป็นการบินที่ปฏิบัติตามระเบียบสากลอย่างเคร่งครัดเรื่องไม่ละเมิดพรมแดนของประเทศอื่นและได้รับการยืนยันจากหน่วยงานตรวจสอบอิสระ ฝูงบินของรัสเซียไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าเอสโตเนีย เนื่องจากยึดตามเส้นทางการบินที่ห่างจากเกาะนอกชายฝั่งของเอสโตเนียกว่า […]

third US vessel strike in SOUTHCOM's area of responsibility

“ทรัมป์” สั่งยิงเรืออ้างขนยาเสพติดเป็นลำที่ 3 แล้ว

วอชิงตัน 20 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ยิงทำลายเรือขนยาเสพติดที่กำลังแล่นอยู่ในเขตความรับผิดชอบของกองทัพเรือสหรัฐ สังหารนักค้ายาเสพติดเพศชายได้  3 คน นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ผู้นำสหรัฐมีคำสั่งลักษณะนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า กระทรวงกลาโหมได้ปฏิบัติการโจมตีตามคำสั่งของเขา ตามที่ข่าวกรองยืนยันว่า เรือลำดังกล่าวกำลังค้าเสพติด โดยมีการขนถ่ายตามเส้นทางค้ายาเสพติดอันเป็นที่รู้กันเพื่อวางพิษชาวอเมริกัน ผู้นำสหรัฐไม่ได้แสดงหลักฐานสนับสนุนการกล่าวอ้าง หรือรายละเอียดว่าเรือเดินทางออกจากที่ใด หรือการโจมตีเกิดขึ้นบริเวณไหน แต่ได้โพสต์คลิปภาพถ่ายทางอากาศความยาว 1 นาที มีคำว่า unclassified แปลว่า ไม่เป็นความลับ อยู่ด้านบน เป็นภาพการเล็งเป้าเรือลำหนึ่งที่กำลังแล่นด้วยความเร็วสูง แล้วยิงจนเรือระเบิดลุกเป็นไฟ ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่สหรัฐยิงทำลายเรือโดยอ้างว่าเป็นเรือค้ายาเสพติด ครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 กันยายน ครั้งนั้นนายทรัมป์อ้างว่า ได้สั่งการให้สังหารนักค้ายาเสพติด 11 คนในน่านน้ำสากลที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบของกองบัญชาการทหารสหรัฐภาคใต้หรือเซาท์คอม (SOUTHCOM) ขณะที่นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุว่า เป็นการโจมตีในน่านน้ำทางตอนใต้ของทะเลแคริบเบียนเพื่อจัดการเรือค้ายาเสพติดที่ล่องออกมาจากเวเนซุเอลา ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กันยายนนายทรัมป์ประกาศว่า กองทัพได้สังหารชายก่อการร้ายชาวเวเนซุเอลา 3 คนที่กำลังลำเลียงยาเสพติดในน่านน้ำสากลที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบของเซาท์คอม ซึ่งครอบคลุมทะเลแคริบเบียนและอเมริกาใต้ […]

9 ทันโลก : กัมพูชาเสื่อมถอย 2 ปี ภายใต้รัฐบาลฮุน มาเนต

19 ก.ย. – ตระกูลฮุนได้ส่งต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากพ่อสู่ลูก มาราว 2 ปี ปรากฏว่าการวิเคราะห์ผลงานของรัฐบาลรุ่นลูกในปัจจุบัน ที่ชี้ว่าล้มเหลวในการทำงาน ไม่ว่าจะเรื่องการทุจริต นิติรัฐและการกำจัดความยากจน จนถือได้ว่าล้มเหลวในการเป็นรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของประชาชน.-สำนักข่าวไทย

นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นคว้ารางวัล “Ig Nobel’ อีกครั้ง

บอสตัน 19ก.ย. – ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น 11 คน ได้รับรางวัล “อิกโนเบล” (Ig Nobel) สาขาชีววิทยา จากการทดลองที่แสดงให้เห็นว่า การทาสีลายทางคล้ายม้าลายบนตัววัว สามารถช่วยลดจำนวนแมลงวันดดูดเลือดกัดได้เป็นอย่างมาก สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า จากการศึกษาของทีมนักวิจัยญี่ปุ่นที่ตีพิมพ์ในปี 2019 ระบุว่า การทาสีลายทางขาว-ดำบนวัวพันธุ์ญี่ปุ่นสีดำ อาจช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการถูกแมลงวันดูดเลือดกัดได้ การไล่แมลงรบกวนเหล่านี้จะช่วยให้วัวมีเวลาในการแทะเล็มหญ้าและพักผ่อนน้อยลง รวมถึงเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ซึ่งจากการศึกษาประมาณการว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในการผลิตปศุสัตว์ของสหรัฐ สูงถึงปีละ 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการใช้แลคเกอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ในการทาบนตัววัวญี่ปุ่นสีดำ นักวิจัยพบว่าแมลงวันที่ดูดเลือดวัวมีจำนวนลดลงมากถึงร้อยละ 50 ในกลุ่มวัวที่ถูกทาสีลายทางสีขาว-ดำเมื่อเทียบกับวัวที่ทาสีลายทางสีดำหรือไม่ได้ทาสีเลย ซึ่งในรายงานวิจัยได้ระบุว่า การทาสีลายทางอาจเป็นทางเลือกแทนการใช้ยาฆ่าแมลงในปัจจุบัน เพื่อป้องกันแมลงวัน และยังเป็นประโยชน์ต่อสวัสดิภาพของสัตว์ สุขภาพของมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ผู้จัดงานรางวัลอิกโนเบลประจำปีครั้งที่ 35 ในปีนี้ ที่จัดขึ้นที่เมืองบอสตันในสหรัฐกล่าวว่า งานวิจัยชิ้นนี้ซึ่งมีชื่อว่า “Cows painted with zebra-like striping can avoid biting fly attack” ซึ่งแปลว่า “วัวที่ทาสีลายทางคล้ายม้าลายสามารถหลีกเลี่ยงการถูกแมลงวันกัดได้” ได้ต่อยอดจากการวิจัยของทีมนักวิทยาศาสตร์จากฮังการี […]

แผ่นดินไหวรุนแรงที่คาบสมุทรคัมชัตกาในรัสเซีย

มอสโก 19 ก.ย. – เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในพื้นที่คาบสมุทรคัมชัตกา ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ในวันศุกร์ ส่งผลให้มีการประกาศเตือนภัยสึนามิหลายจุดในภูมิภาค แต่คลื่นสึนามิเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งแล้ว ก็ยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาด 7.8 เกิดที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร และมีแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อก (aftershocks) ตามมาหลายครั้ง โดยมีขนาดถึง 5.8 กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียระบุในตอนแรกว่าแผ่นดินไหวมีขนาด 7.2 แต่ได้ปรับแก้ตัวเลขเป็น 7.8 ในภายหลัง นายวลาดิเมียร์ โซโลดอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคคัมชัตกา กล่าวว่า หน่วยฉุกเฉินทั้งหมดได้เข้าสู่สภาวะเตรียมพร้อมขั้นสูง แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ นายโซโลดอฟเขียนข้อความผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมด้วยว่า ทันทีที่เกิดแผ่นดินไหว ทางการเริ่มทำการตรวจสอบอาคารและที่พักอาศัยอย่างรวดเร็ว รายงานแจ้งว่า ทางการประกาศเตือนภัยสึนามิในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทร ซึ่งยื่นออกไปในทะเลแบริ่งและมหาสมุทรแปซิฟิก เจ้าหน้าที่รายงานว่า คลื่นสึนามิมีความสูง 30-62 เซนติเมตร ตามจุดต่างๆ ตลอดแนวชายฝั่งของคาบสมุทร นอกจากนี้กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินยังได้ประกาศเตือนภัยสึนามิสำหรับบางส่วนของหมู่เกาะคูริล ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น แต่คำเตือนทั้งสองแห่งถูกยกเลิกในอีกหลายชั่วโมงต่อมา คาบสมุทรคัมชัตกาตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวสูง โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาดมากกว่า 7 อย่างน้อย 2 ครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นโหวตหนุนหยุดยิงถาวรในกาซ่าแต่สหรัฐคัดค้าน

นิวยอร์ก 19 ก.ย. – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบร่างมติเรียกร้องให้หยุดยิงถาวรในฉนวนกาซ่า ขณะที่สหรัฐเป็นประเทศเดียวที่ออกเสียงคัดค้าน สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 14 ประเทศมีมติเห็นชอบร่างมติเรียกร้องให้หยุดยิงถาวรในฉนวนกาซ่าโดยไม่มีเงื่อนไข และให้อิสราเอลยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดในการส่งมอบความช่วยเหลือเข้าไปในฉนวนกาซ่า ร่างมติดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยสมาชิกคณะมนตรีฯ 10 ประเทศที่ได้รับเลือกจากสมาชิกทั้งหมด 15 ประเทศ ซึ่งในร่างญัตตินี้ยังเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสและกลุ่มอื่นๆ จับตัวเอาไว้โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย ทูตเดนมาร์กประจำสหประชาชาติกล่าวว่าฉนวนกาซ่ากำลังเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายด้านมนุษยธรรมและกำลังจะทวีความรุนแรงขึ้นจากการที่อิสราเอลเดินหน้ารุกคืบโจมตีกาซ่าซิตี้ ขณะที่สหรัฐเป็นเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่คัดค้านร่างมตินี้ นับเป็นครั้งที่ 6 แล้วที่สหรัฐใช้อำนาจออกเสียงยับยั้งหรือวีโต้ร่างมติของคณะมนตรีฯ ที่เกี่ยวข้องกับสงครามในฉนวนกาซ่าระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบ 2 ปีแล้ว นักการทูตสหรัฐกล่าวก่อนการลงมติว่ากลุ่มฮามาสจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเพราะเป็นฝ่ายเริ่มและยังไม่ยอมยุติสงคราม ซึ่งสงครามอาจจะยุติลงในวันนี้หากฮามาสยอมปล่อยตัวประกันและยอมวางอาวุธ.-816.-สำนักข่าวไทย

มิวนิกเตรียมพร้อมสำหรับเทศกาล ‘อ็อกโทเบอร์เฟสต์’

มิวนิก 19 ก.ย. – การเตรียมงานสำหรับ “อ็อกโทเบอร์เฟสต์” (Oktoberfest) เทศกาลเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังดำเนินไปอย่างเต็มที่ในวันพฤหัสบดี ก่อนที่จะงานจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันเสาร์นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ที่ชื่นชอบเบียร์หลายพันคนจากทั่วโลกหลั่งไหลมายังสถานที่ที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “วีซึ่น” (Wiesn) หรือทุ่งหญ้า “เทเรเซียนวีเซอ” (Theresienwiese) ในแต่ละปี ผู้คนที่สวม “เลเดอร์โฮเซน” (Lederhosen) หรือกางเกงหนัง ซึ่งเป็นชุดประจำท้องถิ่นของชาวบาวาเรีย จะมารวมตัวกันในงานนี้ที่โดยปกติแล้วจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 6 ล้านคน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผู้ร่วมงานจะนั่งที่โต๊ะยาวส่วนกลางเพื่อดื่มเบียร์ รับประทานไส้กรอก เพรทเซล หรือขาหมู และฟังวงดนตรี “อูมปาห์” (Oompah) ที่ใช้เครื่องดนตรีทองเหลืองเป็นส่วนประกอบสำคัญ นายดีเทอร์ ไรเทอร์ (Dieter Reiter) นายกเทศมนตรีนครมิวนิกกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า เมืองมิวนิกจัดเทศกาลพื้นบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่าจะมีงานเลียนแบบในจีน อเมริกา และที่อื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งจัดงานกันขนาดใหญ่มาก และเสริมว่า ประเทศอื่น ๆ สามารถจัดให้ใหญ่ได้แต่ก็ไม่สามารถดึงดูดผู้คนได้มากเท่าที่เมืองมิวนิกจัด และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมงานของที่นี่ถึงเป็นเทศกาลพื้นบ้านที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เทศกาลซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่เมืองมิวนิก จะจัดขึ้นนานกว่าสองสัปดาห์เล็กน้อยและปีนี้จะปิดฉากลงในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีเหนือสั่งเร่งพัฒนาโดรน

โซล 19 ก.ย. – ผู้นำเกาหลีเหนือสั่งการให้เร่งพัฒนาอากาศยานไร้คนขับเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามยุคใหม่ ขณะที่ทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศมีมติประณามการทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โทรทัศน์เคอาร๋ทีของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่าเมื่อวานนี้นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือได้ไปชมการทดสอบอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนซึ่งมีทั้งอากาศยานโจมตีไร้คนขับทางยุทธวิธี ‘กึมซอง’ และอากาศยานสอดแนมทางยุทธศาสตร์ไร้คนขับ ผลการทดสอบปรากฎว่าโดรนประสบความสำเร็จในการโจมตีเป้าหมายเป็นอย่างดี รายงานระบุว่านายคิมแสดงความพอใจอย่างยิ่งต่อผลการทดสอบครั้งนี้ และได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาโดรนว่าเป็นภารกิจที่มีความสูงสุดสำหรับการปรับปรุงกองทัพเนื่องจากมีการใช้โดรนอย่างแพร่หลายมากขึ้นในสงครามยุดใหม่ ผู้นำเกาหลีเหนือเรียกร้องให้มีการยกระดับในการพัฒนาโดรนด้วยการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอมาใช้ และกระตุ้นการผลิตโดรนให้มากขึ้น ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้พัฒนาโดรนมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่อาศัยเทคโนโลยีจากมิตรประเทศเช่นจีน และผลิตโดรนเลียนแบบรุ่นของต่างประเทศ ในช่วง 2 ปีมานี้นายคิมได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาโดรนประเภทต่างๆ เป็นอย่างมากเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้กับกองทัพอากาศและยกระดับขีดความสามารถในการรบทางอากาศของเกาหลีเหนือ อีกด้านหนึ่งเมื่อวานนี้ที่ประชุมทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอที่กรุงเวียนมา ของออสเตรีย มีการลงมติของประเทศต่างๆ โดยมี 96 ประเทศเห็นชอบให้ประณามการทดลองนิวเคลียร์จำนวน 6 ครั้งของเกาหลีเหนือที่ผ่านมา ขณะที่ 5 ประเทศออกเสียงคัดค้านซึ่งรวมถึงจีนและรัสเซียที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของเกาหลีเหนือ ขณะที่อีก 17 ประเทศงดออกเสียง ไอเออีเอได้ออกรายงานเกี่ยวกับการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในเดือนสิงหาคมและแสดงความกังวลอย่างยิ่ง รายงานระบุว่าอาคารใหม่ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนี่ยมกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในเมืองนยองบยอนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ.-816.-สำนักข่าวไทย

ผู้แทนพิเศษจีนหารือกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา

กรุงเทพ 19 ก.ย. – ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศจีน เดินทางเยือนประเทศไทย หารือกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา เฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายเมื่อวันพุธที่ผ่านมาระบุว่า นายเติ้ง ซีจวิน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ในการเยือนครั้งนี้ นายเติ้งได้เข้าพบกับบุคคลสำคัญของไทย ได้แก่ พลเอกสนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ประธานร่วมฝ่ายไทย สำนักเลขาธิการคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา และผู้อำนวยการสำนักกิจการชายแดน กองบัญชาการทหารสูงสุดไทย ก่อนหน้านี้ นายเติ้งได้พบกับ นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทย ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่ประเทศมาเลเซีย นายเติ้งกล่าวว่า จีนหวังว่าไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ไม่อาจแยกจากกันได้และเป็นสมาชิกสำคัญของอาเซียน จะร่วมกันหาทางออกผ่านการเจรจา เพื่อฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดนโดยเร็ว จีนสนับสนุนให้อาเซียนมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในเรื่องนี้ และพร้อมให้ความช่วยเหลือตามความต้องการของทั้งสองฝ่าย ทางฝ่ายไทยได้แสดงความชื่นชมต่อจุดยืนที่เป็นกลางและเป็นธรรมของจีน รวมถึงบทบาทที่สร้างสรรค์ในการช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา.-813.-สำนักข่าวไทย

ประกาศผลรางวัล Ig Nobel ครั้งที่ 35

บอสตัน 19 ก.ย. – นักวิทยาศาสตร์และแขกผู้มีเกียรติได้รวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยบอสตันในวันพฤหัสบดี เพื่อร่วมพิธีมอบรางวัล “อิกโนเบล” (Ig Nobel) ประจำปีครั้งที่ 35 ซึ่งเป็นรางวัลที่ยกย่องการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่แปลกประหลาด เป็นรางวัลที่ “ทำให้คนหัวเราะ แล้วฉุกคิด” (makes you laugh, then think) ผู้ชนะรางวัลในปีนี้มีทั้งนักวิจัยที่ศึกษาปฏิกิริยาของคนหลงตัวเองเมื่อถูกบอกว่าพวกเขามีสติปัญญา และนักโภชนาการที่ศึกษาว่ากิ้งก่าบางชนิดเลือกกินพิซซ่าแบบใด รางวัลอื่นๆ ยังมอบให้กับงานวิจัยที่หลากหลาย ตั้งแต่การแสดงให้เห็นว่าการดื่มแอลกอฮอล์บางครั้งช่วยเพิ่มความสามารถในการพูดภาษาต่างประเทศ ไปจนถึงการค้นพบเกี่ยวกับฟิสิกส์ของซอสพาสต้า พิธีมอบรางวัลมีการผสมผสานระหว่างการนำเสนอทางวิทยาศาสตร์กับการที่ผู้ชมร่วมกันปาเครื่องบินกระดาษ และการแสดงโอเปร่าขนาดย่อม ๆ ที่มีการร้องเพลงเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ซึ่งเป็นธีมหลักของการจัดงานในปีนี้ และรางวัลเป็นแบบจำลองกระเพาะอาหารมนุษย์ โดยมีกระเพาะอาหารทั้งสองด้านมีลักษณะคล้ายใบหน้าคน รางวัลประจำปีนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความบันเทิงและส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมระดับโลก โดยจัดขึ้นโดยวารสาร “แอนนัลส์ ออฟ อิมพรอบอะเบิล รีเสิร์ช” (Annals of Improbable Research) ซึ่งเป็นรางวัลที่เปี่ยมด้วยจินตนาการที่สร้างขึ้นเพื่อคู่ขนานกับรางวัลโนเบล.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ยินดีที่รายการของ ‘จิมมี คิมเมล’ ถูกแบน

วอชิงตัน 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐแสดงความยินดีกับการที่รายการทอล์กโชว์ที่ จิมมี คิมเมล เป็นผู้ดำเนินรายการถูกระงับการออกอากาศ และกล่าวว่าสถานีโทรทัศน์ควรถูกเพิกถอนใบอนุญาตหากนำเสนอข่าวเชิงลบต่อรัฐบาลของเขา ซึ่งเป็นการปลุกกระแสเพิ่มเติมให้กับการถกเถียงระดับชาติเรื่องเสรีภาพในการพูดแสดงความเห็น นายคิมเมลเข้าไปเกี่ยวช้องกับความพยายามของนายทรัมป์และผู้สนับสนุนที่ต้องการลงโทษผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาซึ่งเป็นพันธมิตรทางการเมืองที่ใกล้ชิดกับนายทรัมป์ที่ถูกลอบสังหาร เคิร์กถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลจากระยะไกลขณะกำลังพูดคุยกับกลุ่มคนในระหว่างการจัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยในรัฐยูทาห์เมื่อวันที่ 10 กันยายน หลังจากนั้น พันธมิตรของทรัมป์และเคิร์กได้เตือนชาวอเมริกันให้แสดงความไว้อาลัยต่อเคิร์กอย่างเหมาะสม มิเช่นนั้นจะต้องเผชิญผลที่ตามมา สถานีโทรทัศน์เอบีซีประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าได้ถอดรายการทอล์คโชว์ยามดึก “จิมมี คิมเมล ไลฟ์” (Jimmy Kimmel Live) ออกจากผังรายการอย่างไม่มีกำหนด นักเขียน นักแสดง และนายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และคนอื่นๆ ได้ประณามการระงับรายการของคิมเมล โดยเรียกการกระทำนี้ว่าเป็นการยอมจำนนต่อแรงกดดันจากรัฐบาลซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ นายทรัมป์กล่าวในระหว่างเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการในช่วง 2 วันที่ผ่ามาว่า คิมเมลถูกลงโทษเพราะ “พูดสิ่งที่แย่มาก” เกี่ยวกับเคิร์ก นับตั้งแต่กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายทรัมป์ได้ใช้อำนาจและศาลเพื่อโจมตีคำพูดที่ไม่เป็นที่น่าพอใจเกี่ยวกับตัวเขา โดยเรียกมันว่าเป็นการหมิ่นประมาทหรือคำกล่าวที่เป็นเท็จ นายทรัมป์เคยขู่ว่าจะเพิกถอนใบอนุญาตของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นที่เป็นพันธมิตรกับเครือข่ายระดับชาติ ซึ่งใบอนุญาตเหล่านี้ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารสหรัฐ หรือ เอฟซีซี ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล การระงับรายการของคิมเมลเกิดขึ้นหลังจากเจ้าของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นหลายแห่งประกาศว่าจะหยุดออกอากาศรายการทอล์กโชว์ที่เต็มไปด้วยคนดังของเขา […]

1 7 8 9 10 11 5,563
...