ซูเปอร์ไต้ฝุ่น ‘รากาซา’ พัดถล่มฟิลิปปินส์-หลายประเทศเตือนภัย

มะนิลา 22 ก.ย. – ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ สั่งให้หน่วยงานรับมือภัยพิบัติเฝ้าระวังขั้นสูงสุด และระดมทุกหน่วยงานของรัฐบาลเตรียมพร้อม ขณะที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “รากาซา” กำลังเคลื่อนตัวเข้าไปยังภาคเหนือของประเทศ ในขณะเดียวกันก็มีการประกาศเตือนภัยพายุลูกนี้ทั่วเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ระบุว่า พายุรากาซาซึ่งมีความเร็วลม 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงถึง 295 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ทวีกำลังขึ้นเล็กน้อยขณะเคลื่อนผ่านเกาะบาบูยัน และมุ่งหน้าสู่เกาะคาลายัน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งสูงเกินสามเมตร หมู่เกาะบาบูยันยังคงมีการเตือนภัยพายุระดับสูง โดยแนะนำให้ประชาชนอยู่ห่างจากพื้นที่ชายฝั่งและริมแม่น้ำ รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้สั่งระงับการทำงานและการเรียนการสอนทั่วเขตเมโทรมะนิลาและพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะลูซอน เนื่องจากแถบฝนรอบนอกของพายุเริ่มพัดเข้าสู่ภูมิภาค ทำให้มีการแจ้งเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดไฟฟ้าดับ ดินถล่ม น้ำท่วม และสภาพทะเลที่เป็นอันตราย สายการบินต่างๆ ได้ยกเลิกเที่ยวบินในประเทศไปแล้วกว่าสิบกว่าเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินที่ให้บริการในศูนย์กลางหลักของเกาะลูซอน ขณะที่ท่าเรือต่างๆ ระงับบริการเรือข้ามฟาก แม้ว่าพายุรากาซาจะไม่ได้พัดเข้าไต้หวันโดยตรง แต่คาดว่าแถบฝนรอบนอกของพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนักตามแนวชายฝั่งตะวันออกของเกาะซึ่งมีประชากรเบาบาง ไต้หวันได้ออกประกาศเตือนภัยทั้งทางบกและทางทะเล ยกเลิกเที่ยวบินในประเทศ 146 เที่ยว และอพยพประชาชนกว่า 900 คนออกจากพื้นที่ภูเขาทางตอนใต้และตะวันออก กระทรวงกลาโหมของเวียดนามได้สั่งให้กองกำลังเฝ้าติดตามพายุและเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศในปลายสัปดาห์นี้ จีนได้ประกาศมาตรการควบคุมอุทกภัยในหลายมณฑลทางตอนใต้ โดยเตือนว่าจะเกิดฝนตกหนักตั้งแต่คืนวันอังคาร ฮ่องกงประกาศปิดสนามบินนาน 36 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่คืนวันอังคาร ขณะที่มาเก๊าและจูไห่กำลังเตรียมรับมือกับผลกระทบ โดยมีการสั่งปิดโรงเรียนและเริ่มแผนการอพยพแล้ว […]

การหาเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพีญี่ปุ่นเริ่มแล้ว

โตเกียว 22 ก.ย. – การรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ที่ลาออกจากตำแหน่ง ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในวันจันทร์ โดยมีสมาชิกรัฐสภา 5 คนลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ รายงานของสื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่น ดูเหมือนว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างผู้สมัครสองคน ได้แก่ นางซานาเอะ ทาคาอิจิ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายใน ซึ่งตั้งเป้าที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น และ นายชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีจุนอิจิโร โคอิซูมิ นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครอีกสามคน ได้แก่ นายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายโทชิมิตสึ โมเทกิ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และ นายทากายูกิ โคบายาชิ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งการเลือกผู้นำพรรคแอลดีพีคนใหม่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะได้เป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนต่อไปไม่ได้รับประกันว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากพรรครัฐบาลและพรรคเล็กร่วมรัฐบาล ซึ่งได้แก่พรรคโคเมโตะได้สูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนตุลาคม 2024 ก่อนหน้านี้ นายอิชิบะได้ประกาศความตั้งใจที่จะลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการที่พรรคร่วมรัฐบาลสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ต้องจัดการเลือกตั้งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพีเร็วกว่ากำหนดเดิมที่วางไว้ในปี […]

กวางตุ้งเตรียมหยุดเรียน-ทำงาน รับมือไต้ฝุ่น ‘รากาซา’

กว่างโจว 22 ก.ย. — มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีนยกระดับการรับมือเหตุฉุกเฉินจากลมแรงเป็นระดับ 2 ซึ่งสูงสุดอันดับสองในระบบเตือนภัย 4 ระดับของจีน ในวันนี้เมื่อตอน 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีสองเมืองประกาศมาตรการระงับกิจกรรมหลายรายการ ขณะที่พายุไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีนรายงานว่า สำนักงานใหญ่ควบคุมน้ำท่วม ภัยแล้ง และลมแรงของกว่างตง รายงานว่าโรงเรียนหลายแห่งจะระงับการเรียนการสอนตั้งแต่วันอังคาร (23 ก.ย.) ในเมืองจูไห่และเมืองเจียงเหมิน และจะมีการระงับการทำงาน การผลิต การขนส่งสาธารณะ และการดำเนินธุรกิจในช่วงบ่ายวันอังคารเช่นกัน บริการเรือโดยสารข้ามฟากไปยังหมู่เกาะชวนซานในเมืองเจียงเหมินจะถูกระงับทั้งหมดตั้งแต่วันอังคาร (23 ก.ย.) เนื่องจากความเร็วลมในน่านน้ำใกล้เคียงอาจสูงถึงราว 20 เมตรต่อวินาที สำนักบริหารความปลอดภัยทางทะเลของกว่างตงได้เคลื่อนย้ายเรือบริเวณชายฝั่งกว่า 10,000 ลำทั่วมณฑลไปหลบภัยยังน่านน้ำที่ปลอดภัยแล้ว เมื่อนับถึงตอน 10.00 น. ของวันจันทร์ (22 ก.ย.) หอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยาประจำกว่างตงเผยว่าไต้ฝุ่นรากาซา ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 18 ของปี 2025 คาดว่าจะขึ้นฝั่งตามแนวชายฝั่งตอนกลางหรือตะวันตกของกว่างตงในวันพุธ (24 ก.ย.) ในระดับไต้ฝุ่นกำลังแรงหรือซูเปอร์ไต้ฝุ่น และจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อกว่างตงตั้งแต่วันอังคารถึงวันพฤหัสบดี (23-25 […]

เมืองโตโยอาเกะในญี่ปุ่นจำกัดเวลาใช้สมาร์ทโฟน

นาโกยา 22 ก.ย. – สภาเมืองโตโยอาเกะในภาคกลางของญี่ปุ่นให้ความเห็นชอบผ่านเทศบัญญัติที่แนะนำให้ชาวเมืองทุกคนจำกัดการใช้สมาร์ทโฟน เครื่องเล่นวิดีโอเกม และอุปกรณ์ดิจิทัลอื่นๆ ไว้ที่วันละสองชั่วโมง นอกเหนือจากเวลาทำงานและเรียนหนังสือ แม้จะไม่มีบทลงโทษใดๆ ก็ตาม สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า เทศบัญญัติฉบับนี้บังคับใช้ในเมืองโตโยอาเกะ จังหวัดไอจิ ประกาศใช้ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้งานเทคโนโลยีที่มากเกินไป และเชื่อว่าเป็นที่แรกในญี่ปุ่นที่มีระเบียบนี้ ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แม้จะตระหนักถึงความจำเป็นของสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ดิจิทัลอื่นๆ แต่ระเบียบนี้ก็ได้เตือนว่าการใช้งานบริการสตรีมมิงวิดีโอมากเกินไปอาจส่งผลเสียได้ รวมถึงการนอนหลับไม่เพียงพอและการลดการปฏิสัมพันธ์ภายในครอบครัว เทศบัญญัติฉบับนี้ระบุให้เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาควรงดเว้นการใช้สมาร์ทโฟนหลังเวลา 21.00 น. และนักเรียนมัธยมต้นและผู้ที่อายุมากกว่าควรงดใช้หลังเวลา 22.00 น. โดยระบุว่า การนอนหลับที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตทางร่างกายและจิตใจ สำหรับเด็กทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ระเบียบยังได้เรียกร้องให้ผู้ปกครองกำหนดกฎเกณฑ์ภายในบ้านสำหรับการใช้อุปกรณ์ต่างๆ โดยทางเมืองสัญญาโตโยอาเกะว่าจะจัดตั้งระบบให้คำปรึกษาสำหรับผู้ปกครอง นายมาซาฟูมิ โคกิ นายกเทศมนตรีเมืองโตโยอาเกะ กล่าวกับสำนักข่าวเกียวโดว่า ทางเมืองกำหนดข้อจำกัดเวลาการใช้สมาร์ทโฟนในระเบียบนี้ โดยอ้างอิงจากแนวทางการนอนหลับที่ดีต่อสุขภาพจากกระทรวงสาธารณสุข, แรงงาน และสวัสดิการ โดยคำนวณจากเวลาใช้งานเฉลี่ยในวันธรรมดาที่สองชั่วโมง และสรุปว่าการใช้งานเกินกว่านี้อาจส่งผลให้เกิดการนอนหลับไม่เพียงพอ.-813.-สำนักข่าวไทย

Indonesia's President Prabowo Subianto appoints several ministers

กองทัพอินโดนีเซียลงโฆษณาเต็มหน้า นสพ.

จาการ์ตา 22 ก.ย.- กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียลงโฆษณาเต็มหน้าหนังสือพิมพ์ใหญ่ที่สุดของประเทศในวันนี้ แจกแจงรายละเอียดและปกป้องโครงการของกระทรวงฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ คอมปาส (Kompas) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย ตีพิมพ์โฆษณาเต็มหน้าชิ้นหนึ่งของกระทรวงกลาโหมในวันนี้ โฆษณามีพาดหัวว่า “ไม่ใช่แค่เพียงกองทัพอีกต่อไป : การปกป้องประชาชนตามสไตล์อินโดนีเซีย” เนื้อหากล่าวถึงนโยบายของกองทัพที่ได้แผ่ขยายและปรับเปลี่ยนไปสู่การปกป้องประชาชนบนพื้นฐานของความรุ่งเรืองและความร่วมมือข้ามภาคส่วน รัฐบาลเรียกร้องให้เกิดการฟื้นตัวระดับชาติผ่านการที่กองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการ 10 โครงการ โฆษณาระบุว่า กองทัพได้ฝึกฝนคนหนุ่มสาวที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาด้วยวิถีแบบทหารและโภชนาศาสตร์ จนกลายเป็นนักโภชนาการของโครงการอาหารทั่วประเทศ นอกจากนี้กองทัพยังคาดหวังว่า จะมีกำลังพลมากถึง 500 กองพันใน 5 ปี และจะมุ่งมั่นปกป้องโครงการเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ทั้งนี้นับตั้งแต่ชนะเลือกตั้งขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 8 ของอินโดนีเซียเมื่อเดือนตุลาคม 2567 นายพลปราโบโว ซูเบียนโต วัย 73 ปี ได้เพิ่มตำแหน่งในรัฐบาลจำนวนหนึ่งให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารและมอบหมายให้กองทัพดำเนินโครงการของเขา มีตั้งแต่โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนฟรี การผลิตยา ไปจนถึงโครงการทางการเกษตร จุดกระแสวิตกให้แก่กลุ่มนักศึกษาและนักเคลื่อนไหวว่า อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยใหญ่อันดับ 3 ของโลก จะกลับไปสู่ยุคระเบียบใหม่ (New Order) ที่เป็นยุคทหารครอบงำประเทศในสมัยผู้นำเผด็จการอย่างนายพลซูฮาร์โต ประธานาธิบดีคนที่ 2 ที่ผูกขาดปกครองอินโดนีเซียตั้งแต่ปี 2511 จนกระทั่งถูกโค่นล้มในปี 2541.-814.-สำนักข่าวไทย

สนามบินในยุโรปยังมีปัญหาหลังถูกโจมตีทางไซเบอร์

บรัสเซลส์/เบอร์ลิน 21 ก.ย. – สนามบินหลายแห่งในยุโรปกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อรื้อฟื้นการปฏิบัติงานให้กลับเป็นปกติหลังจากมีแฮกเกอร์ก่อกวนระบบเช็กอินอัตโนมัติ โดยสนามบินบรัสเซลส์ของเบลเยียมได้ขอให้สายการบินยกเลิกเที่ยวบินขาออกครึ่งหนึ่งในวันจันทร์ เนื่องจากยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กลุ่มแฮกเกอร์โจมตี “คอลลินส์ แอโรสเปซ” (Collins Aerospace) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเช็กอินและขึ้นเครื่อง โดยเป็นบริษัทในเครือของอาร์ทีเอ็กซ์ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานที่สนามบินฮีทโทรว์ในกรุงลอนดอน สนามบินเบอร์ลินและสนามบินบรัสเซลส์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้โดยสารต้องเผชิญกับคิวยาว การยกเลิกเที่ยวบินและความล่าช้าของเที่ยวบิน ขณะที่สถานการณ์ในสนามบินเบอร์ลินและฮีทโทรว์เริ่มคลี่คลายลงอย่างมากในวันอาทิตย์แต่ความล่าช้าและการยกเลิกเที่ยวบินยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง คอลลินส์ แอโรสเปซ ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ กล่าวว่ากำลังทำงานร่วมกับสนามบินที่ได้รับผลกระทบ 4 แห่งและสายการบินต่างๆ และอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการอัปเดตที่จำเป็นเพื่อฟื้นฟูระบบให้ใช้งานได้เต็มรูปแบบ สนามบินบรัสเซลส์ระบุว่าเที่ยวบินขาออกตามกำหนดการ 257 เที่ยวในวันอาทิตย์ ถูกยกเลิกไป 50 เที่ยวเพื่อหลีกเลี่ยงคิวยาวและการยกเลิกแบบกระทันหัน ขณะที่เมื่อวันก่อนหน้า เที่ยวบินขาออก 234 เที่ยวถูกยกเลิกไป 25 เที่ยว สนามบินเบอร์ลิน-บรันเดนบูร์กกล่าวในวันอาทิตย์ว่า ยังคงเกิดปัญหาอยู่บางส่วน แต่ได้มีการใช้ระบบแก้ไขแบบไมพึงพาอุปกรณ์อัตโนมัติแล้ว ส่วนสนามบินฮีทโทรว์กล่าวในช่วงเช้าวันอาทิตย์ว่ายังคงดำเนินการกู้คืนจากระบบเช็กอินที่หยุดชะงัก และเสริมว่า “เที่ยวบินส่วนใหญ่ยังคงดำเนินการต่อไป” หน่วยงานกำกับดูแลระดับภูมิภาคกล่าวว่ากำลังตรวจสอบแหล่งที่มาของการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับหลายภาคส่วน ตั้งแต่การดูแลสุขภาพไปจนถึงยานยนต์.-813.-สำนักข่าวไทย

Typhoon Ragasa path

ฮ่องกง-ฟิลิปปินส์เตรียมรับมือไต้ฝุ่น “รากาซา”

ฮ่องกง 22 ก.ย. – ฮ่องกงเตรียมรับมือไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) ซึ่งเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดลูกหนึ่งในรอบหลายปี มีรายงานว่าฮ่องกงอาจปิดสนามบินนานาชาติ นานถึง 36 ชั่วโมง ด้านฟิลิปปินส์งดการเรียนการสอนและการทำงานในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศที่คาดว่าไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่ง หอสังเกตการณ์ฮ่องกงซึ่งทำหน้าที่ติดตามและพยากรณ์สภาพอากาศแจ้งผ่านเว็บไซต์เมื่อเวลา 07.45 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซาจะเคลื่อนตัวผ่านช่องแคบลูซอนเข้ามายังพื้นที่ตอนเหนือของทะเลจีนใต้ในวันนี้ โดยจะมีการหมุนเวียนเป็นวงกว้างและมีความเร็วในการเคลื่อนตัวค่อนข้างสูง เสี่ยงเป็นอันตรายต่อชายฝั่งมณฑลกวางตุ้ง หอสังเกตการณ์ฯ จะแจ้งสัญญาณเตรียมพร้อมหมายเลข 1 ในเวลา 12.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หอสังเกตการณ์ฯ ระบุว่า เมื่อไต้ฝุ่นเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ฮ่องกงมากขึ้น กระแสลมในพื้นที่จะทยอยพัดแรงขึ้นในวันพรุ่งนี้ จากนั้นสภาพอากาศจะเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว หอสังเกตการณ์ฯ จะพิจารณาแจ้งสัญญาณกระสลมแรงหมายเลข 3 ระหว่างเวลา 20.00-22.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น กระแสลมจะพัดแรงขึ้นในวันที่ 24 กันยายน โดยอาจรุนแรงถึงระดับเฮอริเคนในพื้นที่นอกชายฝั่งและพื้นที่สูง ฝนจะตกหนักและมีพายุฝนฟ้าคะนอง คลื่นลมในทะเลจะสูงมาก ขอให้ประชาชนเตรียมตัวรับมือกับลมพัดแรงและน้ำท่วม และติดตามข้อมูลสภาพอากาศล่าสุดต่อไป บลูมเบิร์กนิวส์รายงานวันนี้อ้างแหล่งข่าวว่า ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเตรียมระงับเที่ยวบินผู้โดยสารทั้งหมดเป็นเวลา 36 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 23 กันยายนถึงเวลา 06.00 […]

เกาหลีเหนือพร้อมคุยกับสหรัฐหากเลิกกดดันเรื่องอาวุธนิวเคลียร์

โซล 22 ก.ย. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันจันทร์ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวว่าไม่มีเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงการเจรจากับสหรัฐ หากสหรัฐหยุดยืนกรานให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่เขาจะไม่ยอมแลกเปลี่ยนคลังอาวุธนิวเคลียร์กับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร นายคิมกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า โดยส่วนตัวแล้ว เขายังคงมีความทรงจำที่ดีกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ โดยผู้นำทั้งสองเคยพบปะกันสามครั้งในช่วงที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรก นายคิมกล่าวว่า หากสหรัฐละทิ้งความหมกมุ่นที่ไร้สาระเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์และยอมรับความเป็นจริง รวมถึงต้องการการอยู่ร่วมกันอย่างสันติอย่างแท้จริง ก็ไม่มีเหตุผลใดที่เกาหลีเหนือจะไม่นั่งลงเจรจากับสหรัฐ นายคิมให้เหตุผลว่า การสร้างอาวุธนิวเคลียร์เป็นเรื่องของการอยู่รอดของประเทศ เพื่อปกป้องความมั่นคงจากภัยคุกคามร้ายแรงของสหรัฐและเกาหลีใต้ เขาอ้างถึงการซ้อมรบทางทหารของพันธมิตรทั้งสองที่เขากล่าวว่าได้พัฒนาเป็นการซ้อมรบเพื่อทำสงครามนิวเคลียร์ นายคิมกล่าวว่า ข้อเสนอการเจรจาล่าสุดจากสหรัฐและเกาหลีใต้นั้นไม่จริงใจ เพราะเจตนาพื้นฐานที่จะทำให้เกาหลีเหนืออ่อนแอและทำลายระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และข้อเสนอแบบเป็นขั้นตอนจากเกาหลีใต้เรื่องการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เกาหลีเหนืออยู่ภายใต้มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายฉบับที่บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการห้ามส่งอาวุธ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเงินทุนในการพัฒนาทางทหาร แต่เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธทรงอานุภาพ ประธานาธิบดีลี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้นท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถยับยั้งเกาหลีเหนือได้ ซึ่งปัจจุบันยังคงเพิ่มอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมหาศาล 15 ถึง 20 หัวรบเข้าสู่คลังแสงทุกปี เขากล่าวว่า ในความเป็นจริงคือแนวทางเดิมในการคว่ำบาตรและกดดันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่กลับทำให้มันแย่ลง นายลีได้แสดงท่าทีเป็นมิตรตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน โดยกล่าวว่าการเจรจากับเกาหลีเหนือเป็นสิ่งจำเป็น และได้เสนอขั้นตอนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในที่สุด นายลีกล่าวกับรอยเตอร์ว่า มีอุปสรรคสำคัญในการรื้อฟื้นการเจรจากับเกาหลีเหนือ แต่เขายังคงเชื่อว่าแนวทางแบบเป็นขั้นตอนในการปลดโครงการนิวเคลียร์เป็นทางเลือกที่สมจริง และจำเป็นต้องสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมเพื่อนำเกาหลีเหนือกลับสู่โต๊ะเจรจา โดยนายทรัมป์มีบทบาทสำคัญในความพยายามเหล่านี้.-813.-สำนักข่าวไทย

บราซิลประท้วงต้านกฎหมายนิรโทษกรรม

บราซิเลีย 22 ก.ย. – ชาวบราซิลหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในเมืองใหญ่ๆ ในวันอาทิตย์ เพื่อประท้วงความพยายามของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะปกป้องอดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร และสมาชิกสภานิติบัญญัติจากกระบวนการยุติธรรม โดยนับเป็นการประท้วงของกลุ่มฝ่ายซ้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเซาเปาโล ประเมินจำนวนผู้ชุมนุมว่า มีผู้ประท้วงราว 40,000 คน เข้าร่วมการประท้วงบนถนนอเวนิดา เปาลีสตา (Avenida Paulista) ในเมืองเซาเปาโล เพื่อต่อต้านความพยายามในสภา และเพื่อเฉลิมฉลองการตัดสินลงโทษนายโบลโซนาโร ครั้งนี้นับเป็นการชุมนุมที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดของกลุ่มฝ่ายซ้ายนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 ซึ่งในครั้งนั้นก็มีผู้คนจำนวนมากออกมารวมตัวกันบนถนนสายเดียวกันนี้ เพื่อเฉลิมฉลองการได้รับเลือกตั้งของประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้จัดการชุมนุมได้คลี่ธงชาติบราซิลขนาดเกือบ 15 เมตร ซึ่งมีข้อความคัดค้านการนิรโทษกรรม “No Amnesty’ ซึ่งต่างจากการประท้วงของกลุ่มที่สนับสนุนนายโบลโซนาโร เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ที่ผู้ชุมนุมได้กางธงชาติสหรัฐขนาดใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ในการแทรกแซงและกดดันผู้พิพากษาบราซิล และกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพื่อช่วยเหลือนายโบลโซนาโร การประท้วงครั้งนี้ซึ่งจัดโดยกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคม สหภาพแรงงาน และพรรคการเมือง ได้ประณามสมาชิกสภาที่พยายามหลีกเลี่ยงผลทางกฎหมายสำหรับตนเองและสำหรับนายโบลโซนาโร ซึ่งถูกตัดสินจำคุกจากข้อหาสมคบคิดก่อรัฐประหารหลังจากที่ผู้สนับสนุนของเขาบุกรุกอาคารของรัฐบาลภายหลังความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในปี 2022 เหตุการณ์ในวันอาทิตย์ถือเป็นการประท้วงครั้งสำคัญครั้งแรกนับตั้งแต่การตัดสินลงโทษนายโบลโซนาโร ในเดือนนี้ โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมใกล้เคียงกับการประท้วงของกลุ่มฝ่ายขวาที่ต่อต้านการลงโทษเขาในเมืองใหญ่ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกที่ชัดเจนในหนึ่งในประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก […]

‘ทรัมป์’ ร่วมพิธีไว้อาลัย ‘ชาร์ลี เคิร์ก’

แอริโซนา 22 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และแกนนำรัฐบาลหลายคนจากพรรครีพับลิกัน ร่วมพิธีไว้อาลัยชาร์ลี เคิร์ก อินฟลูเอนเซอร์นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายขวาที่ถูกลอบยิงเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์และครอบครัวเข้าร่วมงานพิธีไว้อาลัยให้กับเคิร์ก นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายขวาที่ถูกลอบยิงสังหาร ซึ่งพิธีจัดขึ้นที่สนามฟุตบอลสเตท ฟาร์ม สเตเดียม ขนาดความจุด 63,000 ที่นั่ง ในเมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนาในวันอาทิตย์ โดยมีเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม และผู้นำพรรครีพับลิกันคนอื่นเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยด้วย ซึ่งทั้งหมดทยอยขึ้นกล่าวบนเวทียกย่องเคิร์กว่ายอมสละชีวิตตนเองเพื่ออเมริกาและปกป้องแนวคิดอนุรักษ์นิยม และโจมตีฝ่ายซ้ายว่าอยู่เบื้องหลังการปลุกระดมลอบสังหารเคิร์ก จนภาพรวมบรรยากาศเหมือนเป็นเวทีหาเสียงหรือกิจกรรมทางการเมืองมากกว่าพิธีไว้อาลัย ขณะเดียวกันอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าเทสลาและอีกหลายบริษัท ก็เดินทางมาเข้าร่วมพิธีไว้อาลัย และมีโอกาสได้พบรวมถึงจับมือกับทรัมป์ด้วย เป็นเหมือนการกลับมาฟื้นสัมพันธ์กันอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่เคยเป็นพันธมิตรกันตั้งแต่ช่วงนายทรัมป์หาเสียงเลือกตั้ง และพบกันครั้งหลังสุดเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ทรัมป์มอบกุญแจทองคำให้มัสก์ขณะลาออกจากทบวงประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DOGE ที่ทรัมป์ตั้งขึ้นเพื่อปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐและแก้ปัญหาทุจริต ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะโต้เถียงกันผ่านสื่อออนไลน์เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีศุลกากรของทรัมป์แบบไม่ไว้หน้า ชาร์ลี เคิร์ก วัย 31 ปี ถูกนักศึกษาวิทยาลัย […]

อังกฤษ-ออสเตรเลีย-แคนาดา รับรองปาเลสไตน์

ลอนดอน 22 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษประกาศยอมรับรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ เพื่อฟื้นคืนความหวังสันติภาพของชาวปาเลสไตน์และอิสราเอล ด้านผู้นำอิสราเอลไม่ยอมรับท่าทีของผู้นำประเทศต่างๆ ที่ให้การยอมรับรัฐปาเลสไตน์ นายสตาร์เมอร์ แถลงผ่านสื่อสังคมออนไลน์แอปพลิเคชันเอ็กซ์วานนี้ระบุว่า อังกฤษยอมรับรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ เพื่อฟื้นคืนความหวังเพื่อสันติภาพสำหรับชาวปาเลสไตน์และอิสราเอล หลังจากสตาร์เมอร์ได้ประกาศยื่นคำขาดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมว่า อังกฤษจะให้การยอมรับรัฐปาเลสไตน์ เว้นแต่อิสราเอลได้ดำเนินขั้นตอนเพื่อยุติสถานการณ์อันเลวร้ายในฉนวนกาซา เช่นเดียวกันกับนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลีย ประกาศการรับรองรัฐปาเลสไตน์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เอ็กซ์และว่าการตัดสินใจมีผลในทางปฏิบัติโดยทันที รวมถึงนายกรัฐมนตรี มาร์ก คาร์นีย์ของแคนาดา โพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ประกาศว่า วันนี้แคนาดายอมรับรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ ส่วนประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส แถลงผ่านวีดิโอที่โพสต์บนเอ็กซ์วานนี้ ก่อนที่ฝรั่งเศสจะประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในสัปดาห์นี้ระบุว่า เขาไม่ได้ลืมการสูญเสียชีวิตของผู้คนในเหตุโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 และไม่ลืมว่ายังคงมีตัวประกันที่ยังถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซา แต่ฝรั่งเศสต้องการเห็นข้อตกลงหยุดยิงเกิดขึ้นโดยทันที อยากเห็นการปล่อยตัวประกัน ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา และท้ายที่สุด คือการที่รัฐอิสราเอลและรัฐปาเลสไตน์อยู่ร่วมกันโดยสันติ ด้านนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงย้ำว่าจะไม่มีรัฐปาเลสไตน์ การออกมาประกาศยอมรับรัฐปาเลสไตน์โดยผู้นำประเทศต่างๆ เป็นเหมือนการตบรางวัลให้กับลัทธิก่อการร้ายที่โจมตีอิสราเอล เขาพยายามป้องกันความพยายามยอมรับรัฐปาเลสไตน์มานานหลายปีแม้ถูกกดดันจากนานาชาติและภายในประเทศ เนทันยาฮูกล่าวเน้นย้ำเมื่อช่วงต้นเดือนว่า รัฐปาเลสไตน์จะเกิดขึ้นได้ผ่านการเจรจาโดยตรงเท่านั้น ขณะที่กลุ่มฮามาส ระบุในแถลงการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เทเลแกรมว่า การตัดสินใจรับรองรัฐปาเลสไตน์ เป็นขั้นตอนสำคัญนำไปสู่เอกราชสำหรับชาวปาเลสไตน์ และ […]

คณะ สส.สหรัฐเยือนจีนครั้งแรกในรอบหลายปี

ปักกิ่ง 21 ก.ย. – คณะผู้แทนจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนจีนเพื่อเจรจาในวันอาทิตย์ ถือเป็นการเยือนครั้งแรกของคณะผู้แทนจากรัฐสภานับตั้งแต่ปี 2019 รายงานข่าวจากกลุ่มสื่อที่จัดขึ้นโดยสถานทูตสหรัฐในจีนระบุว่า คณะผู้แทนจากทั้งสองพรรคการเมืองของสหรัฐ ทั้งรีพับลิกันและเดโมแครต จะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง การเดินทางดังกล่าว ซึ่งประกาศแจ้งให้ทราบในเดือนนี้ มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากทั้งสองประเทศกำลังมองหาแนวทางเพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาของความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด ซึ่งรุนแรงขึ้นจากความขัดแย้งทางการค้า ข้อจำกัดของสหรัฐต่อชิปเซมิคอนดักเตอร์ การเป็นเจ้าของ ติ๊กต็อก กิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้ และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของตน คณะผู้แทนสหรัฐ นำโดยนายอดัม สมิธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นอดีตประธานและเป็นสมาชิกอาวุโสจากพรรคเดโมแครตในคณะกรรมการด้านการทหารของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีหน้าที่กำกับดูแลกระทรวงกลาโหมและกองทัพสหรัฐ นายสมิธเคยให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์เอ็นบีซี เมื่อวันที่ 9 กันยายนว่า การเปิดการเจรจาทวิภาคีกับจีนเป็นสิ่งสำคัญ แค่การได้พูดคุยกับจีน ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐเห็นด้วยกับทุกสิ่งที่จีนทำ จีนเป็นประเทศที่ใหญ่และทรงพลัง สหรัฐก็เป็นประเทศที่ใหญ่และทรงพลังเช่นกัน เขาคิดว่าจำเป็นต้องพูดคุยกัน หลังจากมีการประกาศการเยือนครั้งนี้ได้ไม่นาน นายพีท เฮ็กเซท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พูดคุยกับนายตง จวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีนเป็นครั้งแรก โดยย้ำว่าสหรัฐไม่ได้แสวงหาความขัดแย้งกับจีน แต่จะปกป้องผลประโยชน์สำคัญของตนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก.-813.-สำนักข่าวไทย

1 5 6 7 8 9 5,563
...