เร่งปฏิรูปกม.ตลาดทุน เพิ่มประสิทธิภาพ ฟื้นเชื่อมั่น

กรุงเทพฯ 7 มี.ค.- วงเสวนา ฟื้นเชื่อมั่นตลาดทุนทุกฝ่ายเห็นร่วมต้องเร่งปฏิรูปกฎหมายตลาดทุน เพิ่มประสิทธิภาพกำกับดูแล ลดอุปสรรคธุรกิจ โดยทีดีอาร์ไอ เสนอทบทวน กฎระเบียบตลาดทุน 138 เรื่อง 332 สามารถลดต้นทุนค่าเสียโอกาสได้ถึง 943 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ ปธ.บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ ชี้ ต้องปฏิรูปกม.ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง หนุนตรากม.แบบ Omnibus ด้าน “ดร.กอบศักดิ์” ระบุ ตลาดทุนไทยเผชิญความท้าทายหนัก แนะ สร้างกลไกกำกับดูแลที่มีคุณภาพคู่ส่งเสริมการแข่งขัน


ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ร่วมกับ กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) จัดงานสัมมนาสาธารณะ “กิโยตินกฎระเบียบ เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย” เพื่อนำเสนอผลการทบทวนกฎระเบียบตลาดทุนไทย และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคส่งผลต่อการแข่งขัน รวมทั้งข้อเสนอในการปฏิรูปกฎหมายเพื่อปรับปรุงกลไกการกำกับดูแลและส่งเสริมการแข่งขันในตลาดทุน

นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ตลท. เตรียมเสนอผ่าน รมว.คลัง ให้ใช้เครื่องมือทางกฎหมายแบบ Omnibus หรือการพิจาณาแก้กฎหมายอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับในประเทศอื่น ๆ เช่น กรณีประเทศสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เพื่อให้กระบวนการแก้ไขกฎหมายทำได้รวดเร็วขึ้น และสามารถแก้ไขไปพร้อมกับสถานการณ์ที่เกิดวิกฤตตลาดทุนไทยได้เลย ซึ่งปัจจุบันตลาดทุนไทยเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก เชื่อว่าการปฏิรูปกฎหมาย หรือการกิโยตินกฎระเบียบตลาดทุนจะเป็นหัวใจสำคัญ ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นกลับมาได้ ยังช่วยลดต้นทุน อำนวยความสะดวกให้นักลงทุน ช่วยให้สังคมเกิดความเชื่อมั่นว่าผู้กระทำผิดจะได้รับลงโทษอย่างจริง และผู้เสียหายจะได้รับการเยียวยาช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ช่วยสร้างความโปร่งใส ความยุติธรรมในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เคยมีข้อเสนอแนะในการออกแบบกฎหมายกำกับดูแลตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพว่าจะต้องความเข้าใจลักษณะของตลาด มีวัตถุประสงค์ของนโยบายที่ชัดเจน ออกแบบและบังคับใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เกิดการบูรณาระหว่างหน่วยงาน และทบทวนปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง


“การปฏิรูปกฎหมายจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดทุน แต่ถือเป็นภารกิจที่ท้าทายที่หากทุกภาคส่วนร่วมมือก็จะช่วยสร้างระบบกฎหมายที่เป็นธรรม โปร่งใส และยืดหยุ่นต่อความเปลี่ยนแปลงในตลาดทุนได้” นายกิติพงศ์ ระบุ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และอุปนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า ตลาดทุนไทยเผชิญความท้าทายจากปัจจัยหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนธุรกิจใหม่ที่ดึงดูดนักลงทุน และอุปสรรคในด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในตลาดทุนซึ่งกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้แม้ว่าตามหลักการกฎหมายกำกับดูแลตลาดทุน มีความสำคัญในการคุ้มครองนักลงทุน ควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และรักษาความเชื่อมั่นของตลาด แต่ในขณะเดียวกันการมีกฎหมายที่สร้างต้นทุนเกินสมควรในการประกอบธุรกิจ รวมถึงการขาดกฎหมายที่มีประสิทธิภาพในการกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน และการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายอย่างทันท่วงทีก็กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพของตลาดทุนไทยด้วยเช่นกัน

“ดังนั้นแล้วการปฏิรูปกฎหมายเพื่อสร้างกลไกกำกับดูแลที่มีคุณภาพควบคู่กับการส่งเสริมการแข่งขันในตลาดทุนจึงเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นและสนับสนุนให้ตลาดทุนไทยสามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืน” นายกอบศักดิ์ กล่าว


ดร.กิรติพงศ์ แนวมาลี หัวหน้าโครงการกิโยตินกฎระเบียบตลาดทุน ทีดีอาร์ไอ เปิดเผยผลการศึกษาวิเคราะห์ ทบทวนกฎ ระเบียบ ประกาศ และข้อบังคับที่เกี่ยวกับการอนุญาตที่ไม่จำเป็น หรือเป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจในตลาดทุนไทย (กิโยตินกฎระเบียบตลาดทุน) ว่า ทีดีอาร์ไอได้ใช้เวลาศึกษา 2 ปี โดยให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน โดยได้ทบทวนปัญหาการปฏิบัติตามกฎหมายด้านตลาดทุน 138 เรื่อง 332 กระบวนงาน

แบ่งได้ดังนี้ กระบวนงานในส่วนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 71 กระบวนงาน สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) 53 กระบวนงาน สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) 2 กระบวนงาน สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (TLCA) 23 กระบวนงาน บริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) 105 กระบวนงาน สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) 16 กระบวนงาน สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) 7 กระบวนงาน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่สมาชิก FETCO 55 กระบวนงาน

ยกตัวอย่างจากข้อเสนอ 3 มาตรการยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทยดังนี้

1.มาตรการเพิ่มความสะดวกและยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุน เช่น การส่งนัดประชุมผู้ถือหุ้น ที่ควรปรับให้การส่งหนังสือเชิญประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นช่องทางหลักจากเดิมที่จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถือหุ้นก่อน ความซ้ำซ้อนการยืนยันตัวตน KYC ให้สามารถดำเนินการเพียงครั้งเดียวผ่านระบบกลาง เช่น NDID หรือระบบอื่นๆ และสามารถใช้ได้กับทุก บล. และ บลจ. และการติดและตรวจสอบอาการแสตมป์บนหนังสือมอบฉันทะของผู้ถือหุ้น เสนอว่าควรยกเลิกการติดอากรแสตมป์กรณีดังกล่าว

ส่วนการขาดเครื่องมือในการกำกับสำนักงานสอบบัญชีตลาดทุนนั้น เสนอให้แก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ เพิ่มโทษปรับเป็นพินัย โดยให้อำนาจสำนักงาน ก.ล.ต. ปรับเป็นพินัยสำนักงานสอบบัญชีซึ่งค่าปรับสูงสุดต้องเพียงพอที่จะป้องกันการกระทำความผิด พร้อมออกแนวทางลงโทษผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชี รวมถึงแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ให้สำนักงานสอบบัญชีต้องขึ้นทะเบียนเป็นสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนกับสำนักงานก.ล.ต.ด้วย นอกจากนี้ยังมีประเด็นการพัฒนาปรับปรุงกลไกการบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการดำเนินคดีและปรับปรุงบทลงโทษให้รุนแรงเพียงพอสำหรับการป้องกันและปราบปรามการกระทำอันไม่เป็นธรรม (Market Misconduct) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนด้วย

2.มาตรการเพิ่มความสะดวกและความเชื่อมั่นตลาดตราสารหนี้ เช่น ข้อจำกัดการโอน Scripless Saving Bond ระหว่างธนาคาร โดยเสนอให้แก้ไขหนังสือชี้ชวนให้สามารถโอนได้ การกำหนดให้ใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน แก้ไขระเบียบหน่วยงานผู้รับหลักประกันให้รองรับการใช้พันธบัตรไร้ใบตราสารเป็นหลักประกันได้ การขาดมาตรการคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยในหุ้นกู้คราวฟันดิงก์ ควรกำหนดให้ผู้ให้บริการคราวฟันดิงก์ต้องอำนวยความสะดวกและตั้งกองทุน การกำกับดูแลระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ออกและเสนอขายในและต่างประเทศ เสนอให้สำนักงานก.ล.ต. สร้างความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรฐานการให้ข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางโดยเฉพาะการขายผลิตภัณฑ์ต่างประเทศที่แตกต่างจากของไทยเพื่อให้นักลงทุนทราบข้อมูลความเสี่ยงแท้จริง

3.มาตรการการพัฒนากลไกการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำผิดคดีหลักทรัพย์ เช่น ปรับภูมิทัศน์ตลาดทุนด้วยการดำเนินคดีแบบกลุ่ม Class Action โดยเปิดให้มีองค์กรซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางได้เข้ามาดำเนินคดีแทนผู้เสียหาย การกำหนดแรงจูงใจของทนายความที่เหมาะสม การสนับสนุนด้านการเงิน การจัดการ ด้านความช่วยเหลือทางกฎหมาย และปรับกระบวนการทางศาลให้มีความกระชับเท่าที่จำเป็นและเป็นธรรมต่อคู่ความ

“ในจำนวนข้อเสนอทั้งหมดมี 22 เรื่องที่มีข้อมูลชัดเจนเพียงพอต่อการประเมินเป็นต้นทุนได้ ซึ่งพบว่าหากมีการปรับปรุงตามข้อเสนอดังกล่าวจะสามารถประหยัดต้นทุนได้อย่างน้อย 96.4 ล้านบาทต่อปี จากต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง 282.9 ล้านบาทต่อปี หรือประหยัดได้ร้อยละ 34.1 และยังสามารถลดต้นทุนค่าเสียโอกาสได้ถึง 943.1 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น ร้อยละ 87.2 จากต้นทุนค่าเสียโอกาสทั้งหมด 1,081.9 ล้านบาทต่อปี” ดร.กิรติพงศ์ ระบุ-511 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]