เกาหลีใต้เล็งเข้มขึ้นหลังป่วยโควิดใหม่เพิ่ม

โซล 15 พ.ย.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้กำลังพิจารณายกระดับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม หลังจากยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นเกินวันละ 200 คนมาสองวันติดกันแล้วในวันนี้ เนื่องจากมีการติดเชื้อแบบเป็นกลุ่มก้อน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้กำลังพิจารณายกระดับการรักษาระยะห่างทางสังคมอีก 1 ระดับ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1 ทั่วประเทศจากทั้งหมด 5 ระดับ แต่ทางการท้องถิ่นหลายแห่งได้เพิ่มเป็นระดับ 1.5 แล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และใช้มาตรการเข้มงวดขึ้น มาตรการระดับ 1 ให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทางแนะนำ เช่น สวมหน้ากากอนามัย ไม่ควรรวมตัวกันเกิน 500 คน ส่วนมาตรการระดับ 1.5 แนะนำว่าไม่ควรรวมตัวกันเกิน 100 คน แต่ไม่ได้ห้ามอย่างเด็ดขาด สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอ (KDCA) แจ้งว่า วันนี้พบผู้ป่วยใหม่ 208 คน แยกเป็น 176 คนติดเชื้อในประเทศ และ 32 คนเดินทางมาจากเอเชีย สหรัฐ และยุโรป ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมที่ 28,546 คน ยอดผู้ป่วยใหม่เกิน […]

ญี่ปุ่นสร้างสถิติป่วยโควิดรายใหม่สามวันติด

ญี่ปุ่นมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่สามติดต่อกันเมื่อวานนี้ เนื่องจากหลายเมืองใหญ่ยังคงมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น

ออสเตรเลียหวังลงนามอาร์เซ็ปจะช่วยสัมพันธ์จีน

เมลเบิร์น 15 พ.ย.- นายไซมอน เบอร์มิงแฮม รัฐมนตรีการค้าออสเตรเลียเผยว่า ออสเตรเลียหวังว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรืออาร์เซ็ป (RCEP) ที่ 15 ชาติในเอเชีย-แปซิฟิกจะลงนามในวันนี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับจีนดีขึ้น นายเบอร์มิงแฮมให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ดิเอจในออสเตรเลียก่อนที่สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนจะปิดฉากการประชุมสุดยอดครั้งที่ 37 แบบทางไกลกับอีก 5 ชาติในวันนี้ โดยมีเวียดนามเป็นเจ้าภาพว่า เวทีอาเซียนจะช่วยให้ความสัมพันธ์ออสเตรเลียกับจีนเปลี่ยนไปในทางสร้างสรรค์ได้ สถานการณ์ขณะนี้ขึ้นกับฝั่งจีนเป็นหลักว่า พร้อมจะเจรจาหรือไม่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมเป็น 15 ชาติจะลงนามอาร์เซ็ปปิดท้ายการประชุมสุดยอดอาเซียนในวันนี้ หลังจากเปิดประชุมมาตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน จะเป็นเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลกเพราะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) รวมกันราวร้อยละ 30 ของจีดีพีโลก ขณะที่ความสัมพันธ์ออสเตรเลียกับจีนที่เป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดตึงเครียดนับจากออสเตรเลียเรียกร้องให้สอบสวนนานาชาติเรื่องต้นตอของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พบครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อปลายปีก่อน ข้อพิพาทนี้กระทบต่ออุตสาหกรรมและการส่งออกของออสเตรเลียไปจีนทั้งสินค้าเกษตร ไม้สัก และทรัพยากรธรรมชาติมูลค่ามหาศาล.-สำนักข่าวไทย

อีลอน มัสก์เผยเป็นไปได้สูงที่จะติดโควิด

แคลิฟอร์เนีย 15 พ.ย.- นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของบริษัทรถไฟฟ้าเทสลา และบริษัทยานอวกาศสเปซเอ็กซ์ เผยเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แบบปานกลาง หลังจากแสดงความสงสัยต่อความแม่นยำของชุดตรวจหาเชื้อ นายมัสก์วัย 49 ปี ทวีตว่า ได้ผลตรวจที่แตกต่างกันอย่างมากจากห้องทดลองปฏิบัติการหรือแล็บที่แตกต่างกัน แต่เป็นไปได้สูงมากว่าเขาติดโควิด-19 แล้ว เพราะมีอาการไข้หวัดเล็กน้อย ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเชื้อโคโรนาไวรัสเป็นไข้หวัดประเภทหนึ่ง แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นผลตรวจด้วยวิธีพีซีอาร์ (PCR) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานและให้ผลแม่นยำกว่าชุดตรวจรวดเร็วหรือไม่ และเมื่อมีคนทวีตถามถึงอาการ เขาทวีตตอบว่า มีไข้ขึ้นลงเล็กน้อย รู้สึกเหมือนเป็นไข้หวัดปกติ แต่ปวดเมื่อยและมึนศีรษะมากกว่าไอจาม ซีอีโอสเปซเอ็กซ์เพิ่งทวีตเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาด้วยวิธีตรวจหาแอนติเจนที่ให้ผลรวดเร็ว แต่ได้ผลเป็นบวกสองครั้ง ตามด้วยผลตรวจเป็นลบสองครั้ง ทั้งที่ตรวจด้วยเครื่องเดียวกันในวันเดียวกัน จึงสงสัยในความแม่นยำของชุดตรวจหาเชื้อ เขามีกำหนดต้องไปร่วมพิธีส่งนักบินอวกาศ 4 คน ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐหรือนาซา (NASA) เดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติด้วยยานอวกาศครูว์ดรากอนของสเปซเอ็กซ์ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะงดหรือไม่ นาซาเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ภารกิจส่งนักบินอวกาศไปด้วยยานอวกาศของเอกชนครั้งแรกถูกเลื่อนจากคืนวันเสาร์เป็นคืนวันอาทิตย์เนื่องจากพยากรณ์ว่าสภาพอากาศที่รัฐฟลอริดา ที่ตั้งฐานปล่อยยานไม่เอื้ออำนวย.-สำนักข่าวไทย

เอมิเรตส์ขาดทุนครึ่งปีครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ

ดูไบ 12 พ.ย.- เอมิเรตส์ สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) แจ้งว่า ขาดทุนรายครึ่งปีเป็นครั้งแรกในรอบ 30 กว่าปี เพราะได้รับผลกระทบหนักจากการปิดเมืองเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาดที่ทำให้การบินแทบนิ่งสนิท เชค อาเหม็ด บิน ซาอีด อัล มัคตุม ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของเอมิเรตส์แถลงว่า สถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับอุตสาหกรรมการบินและการเดินทางในขณะนี้ ทำให้ปีการเงิน 2563-2564 กลุ่มเอมิเรตส์ขาดทุนครึ่งปีเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี โดยขาดทุน 14,100 ล้านดีแรห์ม (ราว 116,379 ล้านบาท) เนื่องจากมีผู้โดยสารใช้บริการระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 กันยายน เพียง 1.5 ล้านคน ลดลงมากถึงร้อยละ 95 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากโรคโควิด-19 ทำให้เอมิเรตส์ระงับการดำเนินงานชั่วคราวตั้งแต่ต้นปีการเงิน ก่อนทยอยกลับมาให้บริการอีกครั้ง อย่างไรก็ดี บริษัทได้รับแรงสนับสนุนจากธุรกิจการขนส่งที่แข็งแกร่ง จากการเปลี่ยนไปมุ่งเน้นการขนส่งสิ่งของทั่วโลก รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์และช่องทางดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ในช่วงที่จำนวนผู้โดยสารหดหาย ช่วยให้บริษัทมีรายได้ร้อยละ […]

เกาหลีใต้หวังได้วัคซีนโควิดให้คน 60%ในปีนี้

โซล 12 พ.ย.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้เผยว่า ทางการกำลังเจรจาขั้นสุดท้ายกับบริษัทยารายใหญ่ระดับโลก เพื่อจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ครอบคลุมประชาชนร้อยละ 60 ภายในปีนี้ รองผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีหรือเคดีซีเอ (KDCA) เผยว่า ทางการกำลังเจรจาขั้นสุดท้ายกับผู้ผลิตยาหลายแห่งที่กำลังทดลองทางคลินิกวัคซีนโรคโควิด-19 ระยะสามซึ่งเป็นระยะสุดท้าย เช่น ไฟเซอร์ แอสตราเซนเนกา โนวาแวกซ์ โดยจะจัดหาวัคซีนให้ได้มากที่สุด เบื้องต้นตั้งเป้าให้ครอบคลุมประชาชนร้อยละ 60 จากทั้งหมด 52 ล้านคน รองผู้อำนวยการเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลจัดหาวัคซีนได้แล้ว 20 ล้านโดสผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่เป็นการจัดสรรวัคซีนโรคโควิด-19 สากลนำโดยองค์การอนามัยโลก เพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชน 10 ล้านคน คนละสองเข็ม ที่เหลือ 40 ล้านโดสจะจัดซื้อจากบริษัทเอกชน จากที่จัดงบประมาณไว้ 172,000 ล้านวอน (ราว 4,677 ล้านบาท) สำหรับจัดซื้อวัคซีนชุดแรก 60 ล้านโดส อย่างไรก็ดี กว่าวัคซีนแต่ละขนานจะได้รับการอนุมัติให้ใช้ต้องผ่านกระบวนการที่กินเวลาพอสมควร รัฐบาลจะประชุมกับคณะกรรมการที่ปรึกษาที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ในวันนี้เป็นครั้งแรก เพื่อหารือแผนการจัดหาวัคซีนในประเด็นมาตรฐานความปลอดภัยและกระบวนการจัดสรร เกาหลีใต้พบผู้ป่วยใหม่ 143 […]

ผู้นำฟิลิปปินส์สั่งเร่งช่วยผู้ประสบภัยไต้ฝุ่น

มะนิลา 12 พ.ย.- ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์สั่งการหน่วยงานรัฐบาลเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยไต้ฝุ่นหว่ามก๋อที่คร่าชีวิตไปแล้ว 2 คน สูญหาย 4 คน และทำให้กรุงมะนิลาน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบหลายปี ประธานาธิบดีดูเตอร์เตแถลงต่อประชาชนทั้งประเทศในวันนี้ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งใคร จะจัดหาที่พัก สิ่งของบรรเทาทุกข์ ความช่วยเหลือทางการเงิน และการให้คำปรึกษาหลังภัยพิบัติแก่ผู้ประสบภัย ไต้ฝุ่นหว่ามก๋อเป็นพายุลูกที่ 21 ที่กระหน่ำฟิลิปปินส์ในปีนี้ หลังจากเมื่อต้นเดือนเพิ่งเผชิญซูเปอร์ไต้ฝุ่นโกนีที่มีความรุนแรงที่สุดในโลกในปีนี้ คร่าชีวิตคนในฟิลิปปินส์ไป 25 คน บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังต้องรับมือกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มีผู้ป่วยสะสม 401,416 คน เสียชีวิต 7,710 คน มากเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนรองจากอินโดนีเซียที่มีผู้ป่วยสะสม 448,118 คน เสียชีวิต 14,836 คน บ้านเรือนหลายหมื่นหลังในพื้นที่ลุ่มต่ำจมน้ำเพราะฝนตกหนัก ประชาชนต้องปีนขึ้นไปรอความช่วยเหลืออยู่บนหลังคา ชาวเมืองชานกรุงมะนิลารายหนึ่งเผยว่า รอความช่วยเหลืออยู่บนชั้นสามของบ้านพร้อมกับสมาชิกครอบครัวและเพื่อนบ้านอีกสิบกว่าชีวิต ด้านนายกเทศมนตรีเมืองมาริกินาเผยว่า บ้านเรือนประชาชนจมน้ำบางส่วนหรือทั้งหมดราว 40,000 หลัง สถานการณ์หนักหนาเกินกว่าท้องถิ่นจะรับมือไหว และเลวร้ายที่สุดนับจากน้ำท่วมใหญ่เพราะไต้ฝุ่นในปี 2552 ครัวเรือนเกือบ 3 ล้านหลังทั้งในและรอบกรุงมะนิลาไม่มีไฟฟ้าใช้ ประชาชนขนสิ่งมีค่าและสัตว์เลี้ยงลุยน้ำท่วมสูงระดับเอว […]

ญี่ปุ่นมีโควิดรายใหม่สูงสุดนับจากต้น ส.ค.

โตเกียว 12 พ.ย.- ญี่ปุ่นแจ้งพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 1,547 คนวานนี้ เกือบทำสถิติใหม่ และสูงที่สุดนับจากต้นเดือนสิงหาคม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเริ่มเห็นสัญญาณของการระบาดระลอกสามเพราะอากาศเริ่มเย็นลงและคนอยู่ในอาคารมากขึ้นโดยที่อากาศถ่ายเทไม่ดีพอ สำนักข่าวเกียวโดนิวส์อ้างอิงข้อมูลทางการว่า ผู้ป่วยใหม่ทั้งประเทศวานนี้เกือบเท่าสถิติ 1,596 คนเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม หลังจากหลายพื้นที่ในเขตเมืองใหญ่มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น เฉพาะจังหวัดโตเกียวมีผู้ป่วยใหม่ 317 คน เกินวันละ 300 คนเป็นครั้งแรกนับจากวันที่ 20 สิงหาคม ยอดผู้ป่วยสะสมที่ 33,377 คน สูงที่สุดในบรรดา 47 จังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดโอซากามีผู้ป่วยใหม่ 256 คน ยอดผู้ป่วยสะสมมากเป็นอันดับสอง จังหวัดฮอกไกโดมีผู้ป่วยใหม่ 197 คน เกินวันละ 100 คนเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยเมื่อวันจันทร์มีผู้ป่วยมากที่สุดถึง 200 คน ยอดผู้ป่วยสะสมทั้งญี่ปุ่นอยู่ที่ 112,767 คน รวม 700 คนบนเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซสที่ต้องลอยลำนอกเมืองโยโกฮามาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตคงที่ที่ […]

ญี่ปุ่นระบุโควิดทำตกงาน 70,000 ตำแหน่ง

โตเกียว 10 พ.ย.- กระทรวงแรงงานของญี่ปุ่น ระบุว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้คนกว่า 70,000 คน ต้องตกงาน หรือกำลังจะตกงาน กระทรวงแรงงานของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนผู้ถูกเลิกจ้าง หรือไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้าง เนื่องจากนายจ้างประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจพบว่า ช่วงสิ้นเดือนมกราคม ถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน มีผู้ตกงานหรือกำลังจะตกงาน 70,242 คน แต่เชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ เพราะตัวเลขที่ได้มารวบรวมเฉพาะกรณีที่สำนักงานแรงงานในภูมิภาค และสำนักงานจัดหางานสาธารณะ ได้รับรายงานมาเท่านั้น ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีการเลิกจ้างถึง 12,979 ตำแหน่ง รองลงมาคือผับและร้านอาหาร ซึ่งมีการเลิกจ้างคนงานไป 10,445 คน ขณะที่ภาคการค้าปลีก มีคนว่างงาน 9,378 คน และมีพนักงานโรงแรมตกงาน 8,614 คน กระทรวงแรงงานญี่ปุนขอให้ธุรกิจต่างๆ จ้างงานพนักงานไว้ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากโครงการเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ขณะเดียวกันกระทรวงยังให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ว่างงาน ในการหางานใหม่ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นสั่งตั้งงบเสริมก้อนสามกระตุ้นเศรษฐกิจ

โตเกียว 10 พ.ย.- นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะของญี่ปุ่น สั่งคณะรัฐมนตรีจัดทำงบประมาณเสริมก้อนที่สามสำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาด แหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า งบประมาณเสริมสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันสิ้นสุดเดือนมีนาคมปีหน้า จะเป็นงบสนับสนุนโครงการให้เงินอุดหนุนในแคมเปญ “Go To Travel” หรือ “ออกไปเที่ยว” ของรัฐบาลที่คาดว่าจะขยายหลังสิ้นสุดในปลายเดือนมกราคม เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวต่อไป ควบคู่ไปกับการกระตุ้นการบริโภค และช่วยให้ภาคธุรกิจยังคงการจ้างงานไว้ ส.ส. บางคนของพรรคเสรีประชาธิปไตย และพรรคโคเมอิโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า งบประมาณเสริมดังกล่าว จะมีวงเงินระหว่าง 10-15 ล้านล้านเยน (ระหว่าง 2.88-4.33 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้ยังจะถูกนำไปเป็นทุนส่งเสริมให้บรรดาบริษัทพัฒนาตนเองให้มีความเป็นดิจิทัลมากขึ้นและเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน ปรับปรุงการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติของประเทศ และเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้กับคู่รักที่กำลังเข้าโครงการส่งเสริมการมีบุตร.-สำนักข่าวไทย

พรรคท้องถิ่นยะไข่โค่นพรรคซู จี

ซิตตเว 10 พ.ย.- พรรคแห่งชาติอาระกันหรือเอเอ็นพี (ANP) โค่นพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี (NLD) ที่เป็นพรรครัฐบาลเมียนมาในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ ด้วยการกวาดคะแนนในเขตเลือกตั้งส่วนใหญ่ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ ผลการนับคะแนนเบื้องต้นชี้ว่า นายนี ปู มุขมนตรีรัฐยะไข่ พรรคเอ็นแอลดียังคงได้รับเลือกตั้งอีกสมัย แต่พรรคเสียที่นั่งในหลายเมืองที่เคยเป็นฐานเสียงในการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2558 คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมาประกาศยกเลิกการเลือกตั้งปีนี้ใน 9 เมืองทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ โดยอ้างเรื่องเหตุรุนแรงจากการที่กองทัพกำลังสู้รบกับกองทัพอาระกัน และจำกัดการเลือกตั้งให้เหลือเพียงเมืองซิตตเวที่เป็นเมืองเอกและเขตทางใต้ เท่ากับมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพียง 1 ใน 4 จากทั้งหมด 1.6 ล้านคนในรัฐนี้ เว็บไซต์อิรวดีอ้างแหล่งข่าวพรรคเอเอ็นพีว่า ผู้สมัครของพรรคอย่างน้อย 15 คน ชนะเลือกตั้งในสมัชชาแห่งสหภาพซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎร สภาชาติพันธุ์ซึ่งเป็นสภาสูง สภาระดับรัฐและสภาภูมิภาคของรัฐยะไข่ ถือเป็นความสำเร็จเพราะเขตเหล่านี้ไม่เคยเป็นฐานเสียงของพรรคมาก่อน พรรคนี้หาเสียงด้วยการขอให้ชาวรัฐยะไข่สนับสนุนพรรคชาติพันธุ์ในรัฐ มากกว่าพรรคคนนอกหรือพรรคเบอร์มา ซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ทรัมป์ ปลดฟ้าผ่า รมต.กลาโหม

วอชิงตัน 10 พ.ย.- ผู้นำสหรัฐปลดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ขัดแย้งกันมานานเรื่องนโยบาย ส่งสัญญาณว่าจะใช้ช่วงเวลาที่เหลือในการดำรงตำแหน่งหาทางเรียกคะแนนหลังพ่ายการเลือกตั้งประธานาธิบดี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตว่า ได้ปลดนาย มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกจากตำแหน่งแล้ว และผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ นายคริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ ทั้งนี้โดยให้มีผลในทันที ขณะที่วุฒิสภามีแนวโน้มว่าจะยังไม่รับรองการเสนอชื่อ จนกว่าทรัมป์จะหมดวาระในเดือนมกราคม ที่ผ่านมาทรัมป์ มีความเห็นขัดแย้งกับเอสเปอร์ในหลายประเด็น และไม่พอใจอย่างยิ่งที่เอสเปอร์คัดค้าน ที่ทรัมป์ขู่จะใช้ทหารประจำการ เข้าปราบปรามการประท้วงต่อต้านความอยุติธรรมทางเชื้อชาติ จากกรณี จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวของตำรวจ ในมินนิแอโพลิสเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ขอสงวนชื่อเผยว่า หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้แจ้งให้เอสเปอร์ทราบล่วงหน้าไม่กี่นาทีเรื่องทรัมป์จะทวีตปลดเขาออกจากตำแหน่ง ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เอสเปอร์รู้ตัวดี และได้เตรียมลาออก หรือเตรียมรับการถูกปลดมานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทรัมป์ได้รับเลือกกลับมาเป็นสมัยที่สอง ทั้งนี้โดยทรัมป์ยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเขาแพ้การเลือกตั้งให้กับ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย

1 668 669 670 671 672 697