vatinee

เมืองพัทยา 26 มิ.ย. – ป.ป.ช.ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าก่อสร้างสนามกีฬาฯ ตะวันออก เมืองพัทยา หลังก่อสร้างมาแล้ว 15 ปี พบ คืบหน้ามากไม่พบปัญหาทุจริต คาดเสร็จ ธ.ค นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช. พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2551 แต่ติดปัญหาก่อสร้างผิดแบบ และสถานการณ์โควิดทำให้ต้องเปลี่ยนผู้รับจ้างรายใหม่และมีกำหนดการว่าจะแล้วเสร็จถายในเดือนธันวาคม 2568 นายสาโรจน์ เผยว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีประเด็นว่าสนามกีฬาแห่งนี้ มีการลงทุนก่อสร้างไปแล้วงานหยุดชะงัก ซึ่งทางภาคประชาชนก็ไม่สบายใจที่ใช้งบประมาณแผ่นดินไปแล้ว แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดชลบุรี และ ป.ป.ช.ภาค 2 ได้ประสานการดำเนินการตั้งแต่ปี 2566 เรื่อยมา พร้อมบูรณาการร่วมกับภาคประชาชน ในการตรวจสอบการบริหารจัดการงบประมาณภาครัฐก่อสร้างทุกภาคส่วน รวมถึงผู้รับเหมา และภาคเอกชน โดยเมื่อปีที่แล้วจนถึงปีนี้ที่เราติดตาม มีความเปลี่ยนแปลงคืบหน้ามาก งานภาพใหญ่ตามสัญญาโครงการที่จะทำถึงในช่วงเดือนธันวาคมปี 2568 น่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ตามกำหนด โดยจะเหลือเพียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆเรื่องการปรับภูมิทัศน์ และการติดตั้งเก้าอี้สนามตามสัญญา […]

ตร. 26 มิ.ย. – จเรตำรวจฯ เผยยังไม่ได้รับมติแพทยสภา กรณีลงโทษ 2 แพทย์ รพ.ตำรวจ ยันไม่หนักใจ ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษ 2 แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ และทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบจเรตำรวจแห่งชาติในการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเรื่อง ซึ่งจะเป็นขั้นตอนตามธุรการในเรื่องของการรับและส่งหนังสือ เพราะว่าเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ยินข่าวแล้ว แต่ยังคงต้องรอหนังสือก่อน เมื่อถามว่า พร้อมที่จะตรวจสอบในประเด็นนี้หรือไม่ เนื่องจากเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ จเรตำรวจฯ ระบุว่า ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ส่วนตัวไม่หนักใจ เพราะทุกอย่างต้องยืนอยู่บนพยานหลักฐาน ซึ่งที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ปกติเรื่องที่เกี่ยวกับข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ จเรตำรวจแห่งชาติจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้วทุกคดี ทั้งคดีที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว.-412-สำนักข่าวไทย

26 มิ.ย.- ตำรวจยืนยันกัมพูชาเป็นที่ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์อันดับ 1 ของไทย ที่ผ่านมาทางการไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ยิ่งสถานการณ์ตึงเครียดยังติดต่อกันไม่ได้ เตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของตึก 18 และ 25 ชั้น ฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยืนยันหลังตัดระบบโทรคมนาคมและตัดไฟ ช่วยให้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากกัมพูชาลดลง รวมถึงการหลอกลวงในโลกโซเชียล พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์หลังการปิดด่านและการตัดระบบโทรคมนาคมในพื้นที่ชายแดนกัมพูชาส่งผลให้แนวโน้มการหลอกลวงทางไซเบอร์มีแนวโน้มลดลง โดยพบว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางไซเบอร์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีประเทศกัมพูชาเป็นที่ตั้งฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอันดับ 1 ซึ่งปัจจุบันได้มีการสกัดกั้นทางภาคพื้นคือตามพื้นที่แนวชายแดน และระบบโทรคมนาคมต่างๆ ไปในระดับหนึ่ง ซึ่งเห็นได้ชัดจากการโทรศัพท์เข้ามาหลอกลวงซึ่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะถูกตัดบ่อยครั้งซึ่งเป็นผลมาจากการตัดระบบโทรคมนาคมของบริเวณชายแดนกัมพูชา แต่ประเทศไทยเตรียมดำเนินการทางคดีกับเจ้าของตึก 25 ชั้น และ18 ชั้น ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลไปถึงเจ้าของตึกทั้ง 2 หลัง เพื่อเอาผิดทางคดี call center ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากประเทศกัมพูชาในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ และเมื่อมีสถานการณ์ความตึงเครียดที่ชายแดน ก็ยังไม่ได้มีการติดต่อกับทางตำรวจกัมพูชาหรือทางการของกัมพูชาในการประสานข้อมูลในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนความเป็นไปได้ในการขอความร่วมมือประเทศกัมพูชาในการปราบปรามแก๊ง call center […]