หนุ่มอังกฤษพิชิตยอดตึกสูงในเดนมาร์ก

ลอนดอน 2 ส.ค. – จอร์จ คิง หนุ่มนักปีนตึกชาวอังกฤษ สามารถพิชิตยอดตึกสูงในเดนมาร์กได้สำเร็จเมื่อวานนี้ คิงปีนขึ้นไปบนยอดอาคารสูงของโรงแรมเรดิสัน บลู ในกรุงโคเปรเฮเกนของเดนมาร์ก เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการปีนขึ้นไปแบบไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้ใดๆ ทั้งสิ้นมีแค่มือเปล่าค่อยๆ ปีนขึ้นไปตามช่องระบายอากาศของตัวอาคาร และในที่สุดเขาก็สามารถขึ้นไปถึงยอดตึกได้สำเร็จก่อนจะลงมาสู่พื้นด้วยการกระโดดร่มลงมา ซึ่งทุกอย่างเรียบร้อยปลอดภัยดี รายงานข่าวระบุว่าหลังจากคิงลงมาถึงพื้นเขาก็ถูกตำรวจจับกุมตัวตามระเบียบและถูกลงโทษปรับเป็นเงิน 300 ยูโร หรือราว 12,300 บาท คิง วัย 26 ปี เป็นหนึ่งใน “ไอ้แมงมุม” อีกคนหนึ่งที่ตระเวนปีนตึกสูงในหลายประเทศทั่วโลก เมื่อปี 2564 เขาเคยพยายามปีนตึกโรงแรมแห่งนี้มาแล้วแต่ยังทำไม่สำเร็จเนื่องจากมีปัญหาว่าช่องระบายอากาศที่เขาปีนขึ้นไปนั้นไม่ได้ถูกขันน็อตให้มั่นคงแข็งแรง การกลับมาครั้งนี้จึงเป็นการมาทำให้สิ่งที่ยังค้างคาอยู่บรรลุเป้าหมาย ก่อนหน้านี้เขาเคยพิชิตยอดตึกมาแล้วหลายแห่ง เช่นตึกชาร์ดในกรุงลอนดอน ซึ่งเวลานั้นคิงเพิ่งจะมีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้นจึงทำให้เขาได้รับความสนใจจากทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีอาคารล็อตเต้ ทาวเวอร์ ในกรุงโซล อาคารตราโทสเฟียร์ในกรุงลอนดอน และโคเปนฮิลล์ ในกรุงโคเปนเฮเกน.-815.-สำนักข่าวไทย

กราดยิง 4 ศพในบาร์สหรัฐ

มอนแทนา 2 ส.ค. – เหตุการณ์กราดยิงในสหรัฐเกิดขึ้นอีกครั้ง ล่าสุดเมื่อวานนี้ มีเหตุเกิดขึ้นในบาร์แห่งหนึ่งในรัฐมอนแทนา มีผู้เสียชีวิตไป 4 คน ทางการสหรัฐเปิดเผยว่าเหตุการณ์กราดยิงครั้งนี้เกิดขึ้นในบาร์ที่มีชื่อว่า “อาวล์ บาร์” (Owl Bar) อยู่ในเมืองอนาคอนดา รัฐมอนแทนา เมื่อเวลา 10.30 น. ช่วงสายของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ต้องสงสัยเป็นคนที่อาศัยอยู่ในบ้านที่อยู่ติดๆ กับบาร์แห่งนี้ โดยทางการระบุว่าชื่อคือนายไมเคิล พอล บราวน์ อายุ 45 ปี หลังจากเหตุแล้วนายบราวน์ได้หลบหนีไป เวลานี้เจ้าหน้าที่กำลังตามล่าตัวอยู่ และในระหว่างที่ยังไล่ล่ามือปืนเจ้าหน้าที่เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ภายในบ้านเนื่องจากผู้ต้องสงสัยมีอาวุธอาจเป็นอันตรายได้ ส่วนมูลเหตุจูงใจในการสังหารเหยื่อทั้ง 4 คงยังอยู่ระหว่างการสอบสวน.-816.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เล็งนำรายได้จากภาษีนำเข้าสินค้ามาจ่ายเป็น “เงินปันผล”

วอชิงตัน 2 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่าเขาอาจพิจารณาให้ “เงินปันผล” แก่ประชาชนโดยนำเงินมาจากรายได้ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี นายทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในอัตราที่สูงลิ่วจากหลายประเทศ โดยให้เหตุผลว่าจะช่วยชำระหนี้และลดภาวะเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกันเส้นตายเรื่องภาษีนำเข้าของนายทรัมป์ในวันศุกร์ไม่ได้ช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์ดีขึ้นมากนัก โดยตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและผลการเจรจากับจีน สำหรับนักลงทุนที่คุ้นชินกับการข่มขู่ของนายทรัมป์ การที่เขายืนยันเก็บภาษีนำเข้าจากหลายสิบประเทศอาจเป็นสัญญาณเตือน เนื่องจากเส้นตายในการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐได้สิ้นสุดลงแล้ว และภาษีใหม่ก็เริ่มมีผลตามกำหนด อัตราภาษีนำเข้าใหม่ของนายทรัมป์ที่อยู่ในอัตราสูงนั้นรวมถึงการเรียกเก็บภาษี 35% สำหรับสินค้าหลายรายการจากแคนาดา, 50% สำหรับบราซิล, 25% สำหรับอินเดีย, 20% สำหรับไต้หวัน และ 39% สำหรับสวิตเซอร์แลนด์.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ สั่งเคลื่อนย้ายเรือดำน้ำนิวเคลียร์

วอชิงตัน 2 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่าเขาได้สั่งให้เรือดำน้ำนิวเคลียร์ 2 ลำไปประจำการใน “ภูมิภาคที่เหมาะสม” เพื่อตอบโต้คำพูดของนายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย เกี่ยวกับความเสี่ยงของสงครามระหว่างสองประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงมองว่าการเคลื่อนไหวของนายทรัมป์เป็นการยกระดับความขัดแย้งทางวาทะกับรัสเซีย แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นการยกระดับทางทหาร เนื่องจากสหรัฐมีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่ประจำการอยู่แล้วและสามารถโจมตีรัสเซียได้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายเมดเวเดฟกล่าวว่านายทรัมป์ควรจำไว้ว่ารัสเซียก็มีศักยภาพในการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในยุคโซเวียต หลังจากที่นายทรัมป์บอกให้นายเมดเวเดฟระวังคำพูด นายทรัมป์โพสต์ในโซเชียลมีเดียในวันศุกร์ กล่าวว่า จากคำพูดที่ยั่วยุอย่างยิ่งของอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย นายดมิทรี เมดเวเดฟ เขาจึงได้สั่งให้เรือดำน้ำนิวเคลียร์ 2 ลำไปประจำการในภูมิภาคที่เหมาะสม เผื่อว่าคำพูดที่โง่เขลาและปลุกปั่นเหล่านี้จะเป็นมากกว่าแค่คำพูด เขากล่าวเสริมด้วยว่า คำพูดมีความสำคัญมาก และมักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ เขาหวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นหนึ่งในสถานการณ์เหล่านั้น เมื่อนักข่าวถามในในเวลาต่อมาว่าทำไมถึงสั่งให้เคลื่อนย้ายเรือดำน้ำ นายทรัมป์กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีรัสเซียได้ข่มขู่ และเขาจะปกป้องประชาชน กองทัพเรือสหรัฐและกระทรวงกลาโหมปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของนายทรัมป์ หรือการเคลื่อนย้ายเรือดำน้ำ โดยปกติแล้วกองทัพสหรัฐจะไม่เปิดเผยรายละเอียดการประจำการและตำแหน่งของเรือดำน้ำสหรัฐเนื่องจากเป็นภารกิจที่ละเอียดอ่อนในการป้องปรามนิวเคลียร์ นายทรัมป์ไม่ได้ระบุเจาะจงว่า “เรือดำน้ำนิวเคลียร์” ที่เขากล่าวถึงคืออะไร เรือดำน้ำทางทหารของสหรัฐทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์และบางลำอาจติดขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงกล่าวว่าการที่ประธานาธิบดีสหรัฐพูดถึงศักยภาพทางทหารนิวเคลียร์ใด ๆ ก็ทำให้เกิดความกังวล โดยสังเกตว่าในอดีตสหรัฐ หลีกเลี่ยงที่จะตอบโต้การข่มขู่ด้วยนิวเคลียร์ของรัสเซีย เนื่องจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดในโลก.-813.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเริ่มบังคับใช้กฎหมายห้ามครอบครองดาบนินจา

ลอนดอน 1 ส.ค. – กระทรวงมหาดไทยอังกฤษประกาศในวันศุกร์ว่า ขณะนี้ประชาชนส่งมอบอาวุธอย่างน้อย 1,000 ชิ้นให้กับทางการภายใต้โครงการนิรโทษกรรมที่รัฐบาลได้เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมที่มีการใช้มีดเป็นอาวุธ ในขณะที่กฎหมายใหม่ที่ห้ามครอบครองดาบแบบนินจาญี่ปุ่นก็มีผลบังคับใช้แล้ว อาชญากรรมที่มีการใช้มีดเป็นอาวุธในอังกฤษและเวลส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 87 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และในปีที่แล้วเพียงปีเดียว มีการกระทำความผิด 54,587 คดี ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปี 2023 และถือว่าเป็นอัตราที่สูงที่สุดในยุโรป เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2024 วัยรุ่นชื่อ “แอ็กเซล รูดากูบานา” (Axel Rudakubana) ได้ก่อเหตุโจมตีงานเต้นรำสำหรับเด็กในธีม “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ที่เมืองเซาท์พอร์ตทางตอนเหนือของอังกฤษ ทำให้เด็กหญิงเสียชีวิต 3 ราย และมีผู้ถูกแทง 10 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญที่สุดในอังกฤษ หลังจากนั้น รัฐบาลได้ให้คำมั่นว่าจะตรวจสอบอายุผู้ซื้อมีดอย่างเข้มงวดมากขึ้น เตือนบริษัทด้านโซเชียลมีเดียว่าอาจถูกปรับหากไม่สามารถควบคุมการจำหน่ายและการส่งเสริมการจำหน่ายอาวุธได้ และได้ประกาศห้ามมีดขนาดใหญ่ดูน่ากลัวที่เรียกว่ามีดรูปแบบซอมบี้ มีดพร้า และดาบนินจา ตลอดเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้รณรงค์ให้เยาวชนนำอาวุธ ซึ่งรวมถึงอาวุธมีคม ไปหย่อนในภาชนะที่เรียกว่า “ถังนิรโทษกรรม” หรือรถตู้เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมอาชญากรรมที่มีการใช้มีด […]

‘จัสติน ทิมเบอร์เลก’ เผยป่วยเป็นโรคลายม์

นิวยอร์ค 1 ส.ค. – จัสติน ทิมเบอร์เลก นักร้องชื่อดัง เปิดเผยผ่านอินสตาแกรมในวันพฤหัสบดีว่า เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคลายม์ (Lyme disease) ซึ่งเป็นภาวะที่เขาอธิบายว่า ทำให้ร่างกายและจิตใจอ่อนเพลียอย่างต่อเนื่อง จัสตินได้แจ้งข่าวนี้หลังจากจบทัวร์คอนเสิร์ต “ฟอร์เก็ต ทูมอร์โรว์” (Forget Tomorrow) โดยเขาเล่าว่าเคยคิดที่จะยุติการทัวร์คอนเสิร์ตหลังจากทราบผลวินิจฉัย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินหน้าแสดงต่อไปเพราะ “ความสุขที่ได้จากการแสดงนั้นมีค่ามากกว่าความเครียดชั่วคราวที่ร่างกายของเขารู้สึกมาก เขสดีใจมากที่ยังคงเดินหน้าเปิดคอนเสิร์ตต่อไป จัสติน ทิมเบอร์เลก เป็นสมาชิกหนึ่งในห้าของสมาชิกของวง “เอ็นซิงก์” (*NSYNC) ซึ่งเป็นวงบอยแบนด์ชื่อดังในช่วงปลายทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 หลังจากวง *NSYNC ยุบวง จัสตินได้เริ่มต้นเส้นทางอาชีพศิลปินเดี่ยว และประสบความสำเร็จอย่างมากกับผลงานเพลงฮิตมากมาย เช่น “SexyBack” และ “Like I Love You” นอกจากการเป็นนักร้อง จัสตินยังเป็นนักแสดงที่มีผลงานในภาพยนตร์และซีรีส์ทางโทรทัศน์หลายเรื่อง โรคลายม์เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากเห็บ สามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ มีไข้ อ่อนเพลีย มีผื่นขึ้น และหากไม่ได้รับการรักษา แบคทีเรียอาจแพร่กระจายไปยังหัวใจ ข้อต่อ และระบบประสาทได้.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำแคนาดาว่าผิดหวังหลัง ‘ทรัมป์’ เพิ่มภาษี

ออตตาวา 1 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ของแคนาดา กล่าวว่าเขารู้สึกผิดหวังหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งทางการบริหารเพื่อขึ้นภาษีสินค้าของแคนาดาที่อยู่นอกเหนือจากข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา จาก 25% เป็น 35% สหรัฐตัดสินใจเพิ่มอัตราภาษีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่แคนาดาดำเนินการล้มเหลวในการหยุดยั้งการลักลอบนำเข้ายาเฟนทานิลจากแคนาดามายังสหรัฐ นายคาร์นีย์โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า อากรและภาษีศุลกากรอัตราใหม่ของสหรัฐ จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสินค้าปรเเภทไม้แปรรูป เหล็ก อะลูมิเนียม และรถยนต์ นายคาร์นีย์ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการเพื่อปกป้องตำแหน่งงานของชาวแคนาดา สนับสนุนการซื้อสินค้าในประเทศ ลงทุนในการแข่งขันทางอุตสาหกรรม และขยายตลาดส่งออก นายคาร์นีย์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่สหรัฐอ้างถึงการที่ยาเฟนทานิลหลั่งไหลข้ามพรมแดนจากแคนาดาไปยังสหรัฐจำนวนมากเป็นเหตุผลในการขึ้นภาษีนั้นไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากแคนาดาคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1% ของการนำเข้ายาเฟนทานิลของสหรัฐ และได้พยายามอย่างหนักเพื่อลดปริมาณยาเฟนทานิลมิให้หลั่งไหลไปยังสหรัฐแล้ว.-813.-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันชี้อัตราภาษี 20% ของสหรัฐเป็นเพียงชั่วคราว

ไทเป 1 ส.ค. – ประธานาธิบดีไล่ ชิง-เต๋อ ของไต้หวัน กล่าววันนี้ว่า อัตราภาษีใหม่ 20% ที่รัฐบาลประธานานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกเก็บจากสินค้าที่นำเข้าจากไต้หวันนั้นเป็นเพียง “ชั่วคราว” และรัฐบาลคาดหวังว่าจะสามารถเจรจาให้ได้อัตราที่ต่ำลงกว่านี้ นายไล่ กล่าวว่า อัตราภาษี 20% ไม่เคยเป็นเป้าหมายของไต้หวันเลย โดยจะมีการเจรจาต่อไปและมุ่งมั่นเพื่อให้ได้อัตราภาษีที่เป็นประโยชน์กับไต้หวันมากกว่านี้ เขายังกล่าวอีกว่า อัตราภาษีสำหรับสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์, และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไต้หวัน ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณา สินค้าเหล่านี้ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของเศรษฐกิจไต้หวัน และมีความสำคัญต่อความพยายามของสหรัฐ ในการรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเหนือจีน คาดว่าจะมีอัตราภาษีที่แตกต่างจากอัตราภาษีโดยรวมของไต้หวัน อัตราภาษีสำหรับสินค้าเหล่านี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ภายใต้มาตรา 232 ของกฎหมายการขยายการค้าปี 1962 ประธานาธิบดีไล่กล่าวว่า เมื่อผลการสอบสวนได้ข้อยุติ ทีมเจรจาของไต้หวันจะเข้าสู่การเจรจาในขั้นต่อไป ทางด้านฮาวเวิร์ด ลุทนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐ มีแผนจะประกาศผลการสอบสวนภายในสองสัปดาห์ คำสั่งพิเศษจากประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าตั้งแต่ 10% ถึง 41% สำหรับสินค้าจากประเทศคู่ค้าหลายสิบประเทศ แม้ว่าอัตรา 20% สำหรับไต้หวันจะน้อยกว่าอัตรา […]

การก่อสร้างห้องบอลรูมในทำเนียบขาวจะเริ่มเดือน ก.ย. นี้

วอชิงตัน 1 สิงหาคม – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเสร็จสิ้นการปรับปรุงสวนโรสการ์เดน (Rose Garden) และเพิ่มการตกแต่งห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) แล้ว ตอนนี้เขาเตรียมที่จะเพิ่มส่วนต่อเติมที่โดดเด่นที่สุดให้กับทำเนียบขาว นั่นคือห้องบอลรูมแห่งใหม่มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะสร้างอยู่ติดกับปีกตะวันออกของอาคารทำเนียบขาว นายทรัมป์ ซึ่งเคยเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีรสนิยมในการตกแต่ง เคยบ่นมานานแล้วว่าทำเนียบขาวไม่มีห้องบอลรูมขนาดใหญ่พอสำหรับจัดงานเลี้ยง และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำเนียบขาวได้ประกาศแผนการที่จะเริ่มการก่อสร้างห้องบอลรูมใหม่ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นโครงการใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การปรับปรุงทำเนียบขาวครั้งใหญ่ในสมัยประธานาธิบดีแฮร์รี ทรูแมน ในปี 1952 อาคารทำเนียบขาวสร้างเสร็จในปี 1800 และถูกสร้างขึ้นใหม่บางส่วนหลังจากถูกอังกฤษเผาได้รับความเสียหายในช่วงสงครามปี 1812 แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การก่อสร้างห้องบอลรูปขนาด 8,360 ตารางเมตรนี้ จะแล้วเสร็จก่อนที่นายทรัมป์จะดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี ในเดือนมกราคม 2029 เธอกล่าวว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างห้องบอลรูมซึ่งสามารถรองรับแขกได้ถึง 650 คน มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์นี้ จะมาจากเงินบริจาคของนายทรัมป์และผู้บริจาครายอื่นๆ ในอดีตที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐคนก่อนๆ มักใช้ห้อง “สเตท ไดนิ่ง […]

เมียนมายกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน-เตรียมเลือกตั้ง

ย่างกุ้ง 1 ส.ค. – รัฐบาลทหารเมียนมายกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อเตรียมการเลือกตั้งปลายปีนี้ ขณะเดียวกันได้มีการประกาศกฎอัยการศึกใน 63 เมืองในหลายรัฐเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยก่อนการเลือกตั้ง โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาแถลงวานนี้ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่บังคับใช้มาตั้งแต่การทำรัฐประการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งการบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินครั้งล่าสุดได้ครบกำหนดลงแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากที่มีการขยายเวลามาถึง 7 ครั้ง ขณะเดียวกันพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารได้ปรับโฉมรัฐบาลใหม่ โดยมีการถ่ายโอนอำนาจจากรัฐบาลทหารไปยังรัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยพลเรือน ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ว่าจะต้องถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนเป็นเวลา 6 เดือนก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งนายโน ซอว์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของตัวเองและเป็นผู้ที่ดูแลธุรกิจต่างๆ ให้กับตระกูลของมิน อ่อง หล่าย เป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเฉพาะกาลขณะพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดต่อไป และทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีด้วย เมื่อวานนี้รัฐบาลเมียนมาได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 11 คน นำโดยพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เพื่อกำกับดูแลเรื่องการเลือกตั้ง รัฐบาลทหารประกาศว่าจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินได้ไม่นาน เมื่อวานนี้สภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติได้ประกาศกฎอัยการศึกใน 63 เมือง ซึ่งกระจายอยู่ในหลายรัฐ ได้แก่ ในรัฐกะฉิ่น กะยา […]

นิวยอร์กประกาศภาวะฉุกเฉินจากฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน

นิวยอร์ก 1 ส.ค. – แคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก และรักษาการผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับพื้นที่ที่เผชิญกับภัยคุกคามจากน้ำท่วมฉับพลันเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องด้วยฝนที่ตกหนักที่ส่งผลกระทบกับการเดินทาง ทั้งทางรถไฟและทางอากาศ ตลอดแนวชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐออกคำเตือนน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของเขตเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ภูมิภาควอชิงตัน-บัลติมอร์ขึ้นไปทางเหนือ ผ่านเมืองฟิลาเดลเฟีย ไปจนถึงเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ และเขตปริมณฑลของนครนิวยอร์ก รถไฟฟ้าใต้ดินในนครนิวยอร์ก เผชิญกับน้ำท่วมขังในอุโมงค์จนเกิดเป็นน้ำตก คลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นภาพภายในและภายนอกรถไฟที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นม่านน้ำตกลงมา นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงทั่วแนวทางหลวงสายอินเตอร์สเตท 95 แต่เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศระบุว่าความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันเริ่มลดลงในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี สภาพอากาศที่เลวร้ายตลอดทั้งวันดูเหมือนจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การเดินทางทางอากาศทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบ ข้อมูลจากบริการติดตามเที่ยวบินออนไลน์ “ไฟลท์อะแวร์” (FlightAware) ระบุว่าสนามบินหลัก 8 แห่ง มีเที่ยวบินอย่างน้อย 1,170 เที่ยวที่ถูกยกเลิก ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินขาเข้าและขาออก หรือภายในประเทศ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายร้อยเที่ยวบินที่ล่าช้าออกไป การเดินทางทางรถไฟโดยสารก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยบริษัทแอมแทรก (Amtrak) รายงานว่าต้องระงับการให้บริการระหว่างเมืองฟิลาเดลเฟียและเมืองวิลมิงตัน เนื่องจากพายุรุนแรงที่ทำให้น้ำท่วมรางรถไฟ แม้ว่าการให้บริการจะกลับมาอีกครั้งในอีกประมาณ 2 ชั่วโมงต่อมา เมื่อระดับน้ำลดลง แต่แอมแทรกก็แจ้งผ่านแอปพลิเคชันเอ็กซ์ว่าคาดว่าจะยังคงมีความล่าช้าตามมา.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีจากไทยในอัตราร้อยละ 19

วอชิงตัน 1 ส.ค. – ทำเนียบขาวของสหรัฐออกแถลงการณ์วานนี้ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าส่งออกจากประเทศไทย ในอัตราร้อยละ 19 จากเดิมขู่จะเก็บภาษีสินค้าไทย สูงถึงร้อยละ 36 ทำเนียบขาวประกาศเรื่องนี้ในเอกสารข้อมูล ก่อนหน้ากำหนดเส้นตายข้อตกลงทางการค้าในวันศุกร์ ซึ่งระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษเมื่อวันพฤหัสบดี สำหรับอัตราร้อยละ 19 ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย ร้อยละ 19 ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 19 และกัมพูชา ร้อยละ 19 ในขณะที่เวียดนาม ถูกเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 20 สปป ลาว ร้อยละ 40 และเมียนมา ร้อยละ 40 โดยอัตราภาษีนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป คำสั่งพิเศษของนายทรัมป์ ระบุอัตราภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับประเทศต่างๆ โดยจะอยู่ในช่วงร้อยละ 10-41 สำหรับ 69 ประเทศคู่ค้า บางประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงที่ช่วยลดภาษีได้ ในขณะที่บางประเทศไม่มีโอกาสเจรจากับรัฐบาลของเขาเลย คำสั่งดังกล่าวระบุว่าสินค้าจากประเทศอื่นๆ ทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อภาคผนวกจะต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 10 […]

1 30 31 32 33 34 694