ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วม-ดินถล่มในญี่ปุ่น

โตเกียว 8 ส.ค. – สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ออกประกาศพิเศษเตือนภัยจากฝนตกหนักในจังหวัดคาโงะชิมะ บนเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น และแนะนำให้ประชาชนอยู่ภายในที่พักอาศัย สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ฝนตกหนักในภูมิภาคคิวชู รวมถึงจังหวัดคาโงะชิมะ จะยังคงมีต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์ สถานีโทรทัศน์ของบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือ เอ็นเอชเค รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในเมืองคิริชิมะ สูงเกิน 500 มิลลิเมตรแล้ว และทางการท้องถิ่นได้ออกคำเตือนให้อพยพประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ที่เมืองไอระ เกิดเหตุดินถล่มเนื่องจากฝนตกหนักสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาหญิงวัย 30 ปีรายหนึ่งที่ยังคงสูญหายไป นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงโตเกียวว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการทุกวิถีทางเพื่อรับมือ รวมถึงการให้ข้อมูล การสนับสนุนการอพยพ และการปฏิบัติการกู้ภัย.-813.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียคาด ‘ทรัมป์’ และ ‘ปูติน’ อาจพบกันสัปดาห์หน้า

วอชิงตัน 8 ส.ค. – นายดมิทรี โพลยันสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อาจจะได้พบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า แต่เขาไม่ทราบเรื่องการแผนการพบกันระหว่างนายปูตินกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนว่าจะมีหรือไม่ นายโพลยันสกีกล่าวกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการพบกันระหว่างนายปูตินและนายทรัมป์ว่า เท่าที่เขาได้ยินมา มีหลายสถานที่ที่ถูกกล่าวถึง แต่มีการตกลงกันเรื่องบางอย่างที่ไม่ต้องการเปิดเผย สำหรับกำหนดเวลาในการพบกันน้ัน คาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีทั้งสองกล่าวไว้เองก่อนหน้านี้ เขากล่าวเสริมด้วยว่า ตนเองยังไม่เคยได้ยินเรื่องการวางแผนพบกันระหว่างนายปูตินกับนายเซเลนสกี แต่เขาก็ออกตัวเขาตัวเขาไม่ได้อยู่ในวงในที่จะทราบรายละเอียดได้ นับตั้งแต่การพบกันระหว่างนายปูตินกับอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่นครเจนีวาของสวิตเซอรืแลนด์ ในเดือนมิถุนายน 2021 ก็ยังไม่มีการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับรัสเซียอีกเลย รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยอ้างถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงของตน ขณะที่ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกมองว่าการรุกรานครั้งนี้เป็นการยึดครองดินแดนแบบจักรวรรดินิยม นายทรัมป์เคยให้คำมั่นว่าจะยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ผ่านมาเกือบเจ็ดเดือนในวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา เขายังไม่สามารถทำตามที่ได้สัญญาเอาไว้ได้.-813.-สำนัก่ข่าวไทย

อิสราเอลเห็นขอบแผนยึดครองฉนวนกาซ่าทั้งหมด

เทลอาวีฟ 8 ส.ค. – คณะรัฐมนตรีด้านการเมืองและความมั่นคงของอิสราเอลได้อนุมัติแผนการที่จะเข้าควบคุมฉนวนกาซาในช่วงเช้าวันศุกร์ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงว่า อิสราเอลตั้งใจที่จะเข้าควบคุมทางการทหารทั่วทั้งฉนวนกาซา แถลงการณ์จากสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอลจะเตรียมการเข้าควบคุมฉนวนกาซา ขณะเดียวกันก็จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือนที่อยู่นอกพื้นที่การสู้รบ นายเนทันยาฮู กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาต้องการจะให้อิสราเอลยึดครองทางทหารในพื้นที่ทั้งหมดของฉนวนกาซ่า ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง เขาให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่องฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐว่า อิสราเอลมีความตั้งใจที่จะยึดครองทางทหารในพื้นที่ทั้งหมดของฉนวนกาซ่าเพราะต้องการมีเขตแดนด้านความมั่นคง แต่ไม่ต้องการยึดครองเพื่อที่จะปกครองดินแดนดังกล่าวแต่อย่างใด โดยอิสราเอลต้องการมอบดินแดนฉนวนกาซ่าให้กับกองกำลังอาหรับที่จะปกครอง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงการปกครองหรือประเทศอาหรับที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในรัฐบาลอิสราเอลระบุว่ามติใดๆ ของคณะรัฐมนตรีด้านการเมืองและความมั่นคงจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีทั้งคณะซึ่งอาจจะมีการประชุมกันในวันอาทิตย์นี้ และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่านายเนทันยาฮูต้องการเข้ายึดครองฉนวนกาซ่าในระยะยาวหรือเป็นเพียงปฏิบัติการระยะสั้นเพื่อทำลายล้างกลุ่มฮามาสและปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่ยังเหลืออยู่ ด้านกลุ่มฮามาสระบุในแถลงการณ์เรียกคำกล่าวของนายเนทันยาฮูว่าเป็นการทำรัฐประหารอย่างโจ่งแจ้งต่อกระบวนการเจรจาหยุดยิง และเป็นแผนการของนายเนทันยาฮูที่จะขยายการรุกรานฉนวนกาซ่า เจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอัลจาซีร่าว่ากลุ่มฮามาสจะไม่ยอมรับกองกำลังใดๆ ก็ตามที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อปกครองฉนวนกาซ่าที่เชื่อมโยงกับอิสราเอล ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่าเขาสนับสนุนหรือคัดค้านการที่ทหารอิสราเอลอาจเข้ายึดครองดินแดนฉนวนกาซ่าเอาไว้ทั้งหมด ทรัมป์บอกแต่เพียงว่าเวลานี้รัฐบาลสหรัฐกำลังมุ่งเน้นเรื่องการเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในฉนวนกาซ่าเท่านั้น แต่เรื่องอื่นเขาไม่สามารถจะพูดได้.-816.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ฮุน มาเนต’ เสนอ ‘ทรัมป์’ ชิงโนเบลสันติภาพ

พนมเปญ 8 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชาส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังคณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์เพื่อเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ หนังสือของนายฮุน มาเน็ต ลงวันที่ 7 สิงหาคม มีเนื้อหาว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 และ 47 ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการยกย่องผลงานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในการส่งเสริมสันติภาพโลก การเสนอชื่อครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความซาบซึ้งของตัวเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความกตัญญูอย่างสุดซึ้งของประชาชนชาวกัมพูชาสำหรับบทบาทสำคัญยิ่งของนายทรัมป์ในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ความเป็นผู้นำอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งโดดเด่นด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขข้อขัดแย้งและป้องกันสงครามหายนะผ่านการเจรจาต่อรองที่มีวิสัยทัศน์และสร้างสรรค์ แสดงให้เห็นล่าสุดในบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกัมพูชาและไทย การแทรกแซงอย่างทันท่วงทีนี้ ซึ่งช่วยป้องกันความขัดแย้งที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก และปูทางไปสู่การฟื้นฟูสันติภาพระหว่างสองประเทศ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จอันโดดเด่นของประธานาธิบดีทรัมป์ในการคลี่คลายความตึงเครียดในภูมิภาคที่ผันผวนที่สุดของโลก การแสวงหาสันติภาพอย่างต่อเนื่องผ่านการทูตของเขาสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอัลเฟรด โนเบล อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือการยกย่องเชิดชูผู้ที่มีคุณูปการอันโดดเด่นต่อภราดรภาพระหว่างประเทศและการส่งเสริมสันติภาพ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เขาหวังว่าการเสนอชื่อนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจะได้รับการพิจารณาเป็นอย่างดี.-816.-สำนักข่าวไทย

เลขาธิการยูเอ็นพอใจที่ไทย-กัมพูชาพยายามยุติการปะทะ

สหประชาชาติ 8 ส.ค. – นายฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ แถลงข่าวที่นครนิวยอร์กเมื่อวานนี้ว่า นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ รู้สึกพอใจที่ผู้นำของไทยและกัมพูชาร่วมกันพยายามยุติการปะทะกันบริเวณชายแดนที่มีข้อขัดแย้งระหว่างสองประเทศ นายฮักกล่าวตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนหลังจากที่ประเทศไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงและลงนามในข้อตกลงหยุดยิงในรายละเอียดของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี (GBC) นัดพิเศษที่จัดขึ้นที่มาเลเซียในวันพฤหัสบดี นายฮักกล่าวว่า เลขาธิการยูเอ็นรู้สึกยินดีกับความพยายามของผู้นำไทยและกัมพูชาที่จะยุติการสู้รบ และหวังว่าทั้งสองประเทศจะยังคงเจรจากันต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาที่ค้างอยู่ทั้งหมด แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา หลังจากการเจรจาที่กระทรวงกลาโหมมาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดยิงด้วยอาวุธทุกชนิด โดยให้คำมั่นว่าจะหลีกเลี่ยงการยิงโดยไม่มีเหตุอันควรไปยังที่ตั้งหรือกองกำลังของอีกฝ่าย และตกลงที่จะไม่เพิ่มกำลังพลตามแนวชายแดน การปะทะกันด้วยอาวุธระหว่างกองกำลังกัมพูชาและไทยปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ตามแนวชายแดน ทั้งสองประเทศตกลงที่จะหยุดยิงในช่วงบ่ายของวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเวลาเที่ยงคืนของวันเดียวกัน.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐยินดีไทย-กัมพูชาตกลงรับผู้สังเกตการณ์อาเซียน

วอชิงตัน 8 ส.ค. – นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแสดงความยินดี หลังจากไทยและกัมพูชายอมให้ผู้สังเกตการณ์จากอาเซียนเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ชายแดนที่มีข้อขัดแย้ง ที่ส่งผลให้เกิดการปะทะกันเป็นเวลา 5 วัน และตกลงหยุดยิงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นายรูบิโอระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า สหรัฐยินดีต่อความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ว่าเป็น ก้าวสำคัญในการทำให้ข้อตกลงหยุดยิงแข็งแกร่งขึ้น และจัดตั้งกลไกการสังเกตการณ์ของอาเซียน ที่นำโดยมาเลเซีย ประธานของอาเซียนในปีนี้ พร้อมเสริมว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และตนเองคาดหวังว่ารัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทยจะเคารพในพันธสัญญาของตนอย่างเต็มที่เพื่อยุติความขัดแย้งนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ประชากรญี่ปุ่นลดลง 9 แสนคน

โตเกียว 8 ส.ค. – ประชากรญี่ปุ่นลดลงต่อเนื่อง หลังจากข้อมูลพบว่า มีคนตายในญี่ปุ่นมากกว่าเด็กเกิดใหม่ถึงเกือบ 1 ล้านคน จนประชากรญี่ปุ่นลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 67 ปี กระทรวงกิจการภายในของญี่ปุ่นเผยข้อมูลล่าสุดว่า จำนวนประชากรญี่ปุ่นในปีที่แล้วลดลง 908,574 คน เป็นการลดลงรายปีมากเป็นประวัติการณ์ ลดลงมากกว่า 900,000 คนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2501 และลดลงติดต่อกันปีที่ 16 ทำให้ตอนนี้ เหลือประชากรในญี่ปุ่นประมาณ 121 ล้านคน ข้อมูลยังระบุว่า ปีที่แล้วมีเด็กเกิดใหม่ในญี่ปุ่นเพียง 686,061 คน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2442 แต่กลับมีผู้เสียชีวิตตลอดทั้งปีมากถึง 1.6 ล้านคน เท่ากับทุกๆ เด็กเกิดใหม่ในญี่ปุ่น 1 คนจะมีคนตายเกินกว่า 2 คน ข้อมูลยังพบด้วยว่า ประชากรในกรุงโตเกียวและจังหวัดชิบะเพิ่มขึ้นทุกปี จังหวัดอื่นอีก 45 จังหวัดมีจำนวนลดลง ขณะเดียวกัน จำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมีจำนวนมากกว่า 3.677 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 354,100 คนจากปีก่อนหน้า คิดเป็นร้อยละ […]

กัมพูชาปัดขู่ถอนสัญชาติ-ยึดที่ดิน ทำแรงงานแห่กลับ

พนมเปญ 8 ส.ค. – โฆษกกระทรวงแรงงานกัมพูชา แถลงปฏิเสธข่าวขู่ถอนสัญชาติ-ยึดที่ดินแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในไทยหากไม่เดินทางกลับประเทศ อ้างที่แห่กลับช่วงนี้เพราะไม่พอใจที่กองทัพไทยรุกรากกัมพูชา รวมทั้งอยากกลับไปช่วยเศรษฐกิจชาติ จากกรณีที่แรงงานชาวกัมพูชาในไทยจำนวนมากเดินทางกลับประเทศในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้การสู้รบจะสิ้นสุดลง โดยมีกระแสข่าวว่า สาเหตุที่แรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก เนื่องจากถูกขู่ว่ารัฐบาลจะยึดที่ดินและถอนสัญชาติ ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่กฎหมายว่าด้วยการถอนสัญชาติ กัมพูชาเริ่มมีผลใช้บังคับพอดีนั้น ล่าสุด นายซุน เมษา โฆษกกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมวิชาชีพของกัมพูชา ได้แถลงปฏิเสธว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่ได้ออกคำขู่ทั้งเรื่องถอนสัญชาติและยึดที่ดินดังกล่าว สาเหตุหลักที่ชาวกัมพูชารีบเดินทางกลับนั้นเป็นผลมาจากพวกเขาถูกกระทำจากกลุ่มหัวรุนแรงในไทยและทางการไทยก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ กับคนเหล่านั้น รวมถึงยังไม่พอใจที่กองทัพไทยรุกรานกัมพูชา คนกัมพูชาเหล่านี้ทำตามคำร้องขอของ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต เป็นความปรารถนาของคนกัมพูชาที่ต้องการกลับมาช่วยเหลือเศรษฐกิจของชาติ ขอให้ชาวกัมพูชาและประชาคมโลกอย่าเชื่อรายงานเท็จเหล่านี้ โฆษกกระทรวงแรงงานฯ กัมพูชา อ้างอีกว่า ขณะนี้ชาวกัมพูชาประมาณ 750,000 คนที่ทำงานและพำนักอยู่ในไทยได้เดินทางกลับประเทศกัมพูชาแล้ว และขอแจ้งให้ทราบว่า กระทรวงแรงงานฯ ได้ดำเนินการรณรงค์ระยะที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวกัมพูชาที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศไทยได้มีโอกาสงานใน 300 ตำบลทั่วประเทศ พร้อมขอเชิญชวนผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจชาวกัมพูชาในเขตอำเภอต่างๆ ร่วมเผยแพร่โอกาสงานมากมายในกัมพูชา ซึ่งรวมถึงโอกาสงานใหม่กว่า 550,000 ตำแหน่ง รวมถึงการฝึกอบรมด้านเทคนิคและวิชาชีพฟรี.-815.-สำนักข่าวไทย

เผย ‘ปูติน’ และ ‘ทรัมป์’ จะพบกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

มอสโก 7 ส.ค. – นายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซียกล่าววันนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะพบกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดของนายอูชาคอฟที่กล่าวว่า รัสเซียและสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงในการจัดการประชุมทวิภาคีในระดับสูงสุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าตามข้อเสนอของฝ่ายอเมริกา ซึ่งคือการประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีทรัมป์ และว่า ขณะนี้กำลังมีการเตรียมการอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับการพบกันครั้งนี้ นายอูชาคอฟมิได้ระบุว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะจัดขึ้นที่ใด แต่ในวันพฤหัสบดีนี้ นายปูตินมีกำหนดจะต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งแหล่งข่าวเคยระบุว่าเป็นสถานที่ที่อาจใช้จัดประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐกับรัสเซียได้ ดัชนีตลาดหุ้นของรัสเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 หลังจากมีประกาศเรื่องการประชุมสุดยอดปูติน-ทรัมป์ นายอูชาคอฟกล่าวว่า นายสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของนายทรัมป์ พบกับนายปูตินเมื่อวันพุธ และได้หยิบยกความเป็นไปได้ในการจัดประชุมสามฝ่ายระหว่างนายทรัมป์ นายปูติน และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนขึ้นมาหารือ แต่เขากล่าวว่าฝ่ายรัสเซียไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ ต่อข้อเสนอนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้-สหรัฐเตรียมซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่

โซล, 7 ส.ค. – เกาหลีใต้และสหรัฐจะจัดการซ้อมรบทางทหารร่วมครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมนี้ แม้ว่าจะมีการเลื่อนการฝึกซ้อมประจำปีบางส่วนที่เคยสร้างความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือออกไปเป็นช่วงปลายปีก็ตาม นายอี ซอง-จุน โฆษกคณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ กล่าวว่า การฝึกซ้อมประจำปีที่มีชื่อรหัสว่า “อุลชิ ฟรีดอม ชิลด์” (Ulchi Freedom Shield) เป็นเวลา 11 วัน จะมีขนาดใกล้เคียงกับการซ้อมรบร่วมเมื่อปี 2024 แต่มีการปรับเปลี่ยนโดยเลื่อนกิจกรรมภาคสนาม 20 รายการ จากจำนวน 40 รายการ ไปเป็นเดือนกันยายน นายอี กล่าวในการแถลงข่าวว่า พันธมิตรทั้งสองประเทศตกลงที่จะเลื่อนการฝึกซ้อมบางส่วนไปเดือนหน้า เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงการสร้างความมั่นใจในสภาวะการฝึกซ้อมในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด และการรักษาสมดุลด้านการป้องกันร่วมกันตลอดทั้งปี นายอี กล่าวว่า การฝึกซ้อมในปีนี้จะทดสอบการรับมือที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ใช้ในสงครามยุคใหม่ โดยอ้างถึงความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลาง เขาระบุว่า การฝึกซ้อมจะรวมถึงฉากทัศน์สถานการณ์การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ แต่จะไม่ครอบคลุมถึงการทดสอบนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้นของเกาหลีเหนือ นายอี กล่าวว่า การตัดสินใจที่จะเลื่อนกำหนดการออกไปนั้นมีเหตุผลหลายประการ เช่น สภาพอากาศที่รุนแรง และปฏิเสธว่าไม่มีปัจจัยทางการเมืองอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนี้ การซ้อมรบครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ […]

ปธน. เกาหลีใต้เตรียมต้อนรับการเยือนผู้นำเวียดนาม

โซล 7 ส.ค. – สำนักงานของประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยวันนี้ว่า ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับนายโต เลิม (To Lam) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่จะเดินทางมาเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการเป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันอาทิตย์นี้ โดยจะมีการหารือเพื่อกระชับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และพลังงานนิวเคลียร์ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นายโต เลิม จะเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่เดินทางเยือนเกาหลีใต้นับตั้งแต่ที่นายอีชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนมิถุนายน และการเดินทางครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้นสำหรับสินค้าของตน นางคัง ยู-จอง โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า นอกเหนือจากการค้าและการลงทุนแล้ว ผู้นำทั้งสองจะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในประเด็นเชิงกลยุทธ์ รวมถึงความมั่นคงในภูมิภาค ตลอดจนโครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐ จะเรียกเก็บภาษีร้อยละ 15 สำหรับสินค้าเกาหลีใต้ และร้อยละ 20 สำหรับสินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหรัฐ บริษัทในเกาหลีใต้ เช่น ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเวียดนามเพื่อขยายฐานการผลิตนอกประเทศจีน แต่เนื่องจากนโยบายภาษีของทรัมป์ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการลงทุนในอนาคต แหล่งข่าวในเกาหลีใต้ที่ทราบเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำทั้งสองกล่าวว่า นายโต เลิม และ นายอี […]

จีนพบไดโนเสาร์ ‘ซอโรโพโดมอร์ฟ’ เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย ตอ.

คุนหมิง 7 ส.ค. — บทความล่าสุดที่เผยแพร่ในวารสารไซเอนทิฟิก รีพอร์ตส (Scientific Reports) เปิดเผยว่าทีมนักวิจัยจีนค้นพบกลุ่มซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์ชนิดใหม่จากยุคจูราสสิกตอนต้นในอำเภออู่ติ้ง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งถือเป็นซากไดโนเสาร์ซอโรโพโดมอร์ฟ (sauropodomorph) ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่พบมาในเอเชียตะวันออก สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อปี 2020 มีการค้นพบซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนในชั้นหินยุคจูราสสิกตอนต้น บริเวณตำบลว่านเต๋อในอำเภออู่ติ้ง โดยนักวิจัยจากสถาบันบรรพชีวินวิทยาสัตว์มีกระดูกสันหลังและมานุษยวิทยาบรรพกาล (IVPP) พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยาแห่งประเทศจีน มหาวิทยาลัยอวิ๋นหนาน และสำนักทรัพยากรธรรมชาติท้องถิ่น ใช้เวลา 5 ปีในการฟื้นฟูและศึกษาซากฟอสซิลเหล่านี้ พร้อมตั้งชื่อสายพันธุ์ไดโนเสาร์เจ้าของฟอสซิลนี้ว่า “อู่ติ้งหลง” (ภาพจากสถาบันบรรพชีวินวิทยาสัตว์มีกระดูกสันหลังและมานุษยวิทยาบรรพกาล : ซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ซอโรโพโดมอร์ฟ สายพันธุ์อู่ติ้งหลง) ซากฟอสซิลของอู่ติ้งหลงที่พบประกอบด้วยกระดูกส่วนหัว กระดูกสันหลังบริเวณคอและระดับอก รวมถึงกระดูกขาหน้าที่ยังคงอยู่ในสภาพดี โหยว ไห่หลู่ นักวิจัยจากสถาบันบรรพชีวินวิทยาฯ ระบุว่าผลการวิเคราะห์ทางสายวิวัฒนาการและชั้นหินพบว่าสายพันธุ์อู่ติ้งหลงเป็นไดโนเสาร์ซอโรโพโดมอร์ฟที่มีการแยกสายวิวัฒนาการเร็วที่สุดและอยู่ในชั้นหินโบราณที่สุดในเอเชียตะวันออกเท่าที่ค้นพบจนถึงปัจจุบัน โดยไดโนเสาร์ชนิดนี้มีชีวิตอยู่ในยุคแรกสุดของยุคจูราสสิกตอนต้น เมื่อราว 200 ล้านปีก่อน การศึกษาครั้งนี้ได้พัฒนาข้อมูลเชิงโครงสร้างลักษณะทางสายวิวัฒนาการแบบใหม่ขึ้น ซึ่งเป็นการต่อยอดจากงานวิจัยก่อนหน้านี้ (ภาพจากสถาบันบรรพชีวินวิทยาสัตว์มีกระดูกสันหลังและมานุษยวิทยาบรรพกาล : ภาพถ่ายและภาพวาดเส้นโครงกระดูกหัวกะโหลกของไดโนเสาร์ซอโรโพโดมอร์ฟ สายพันธุ์อู่ติ้งหลง) เมื่อเทียบกับไดโนเสาร์ซอโรโพโดมอร์ฟสายพันธุ์อื่นๆ ที่เคยพบในเอเชียตะวันออก อู่ติ้งหลงมีขนาดเล็กกว่า เคลือบฟันเรียบกว่า […]

1 27 28 29 30 31 694