ลอนดอน 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐและเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เสร็จสิ้นการเยือนอังกฤษครั้งประวัติศาสตร์ เดินทางกลับกรุงวอชิงตัน ดีซี เตรียมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นครนิวยอร์กสัปดาห์หน้า

ทรัมป์และเมลาเนีย เดินทางออกจากคฤหาสน์เชคเกอร์ อายุเก่าแก่หลายร้อยปีเมื่อวานนี้ โดยมีนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ และ วิคตอเรีย สตาร์เมอร์ ภริยามาส่งตัวด้วยตนเอง เป็นการปิดฉากการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการครั้งที่สอง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ก่อนหน้านั้น ทรัมป์และสตาร์เมอร์ได้ยกย่องความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศในการแถลงข่าวร่วมที่เป็นกันเอง โดยพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงความเห็นต่างในประเด็นฉนวนกาซาและพลังงานลม เพื่อเน้นย้ำจุดร่วมกัน ทรัมป์กล่าวว่า การยุติสงครามในยูเครนนั้นมีความซับซ้อนมากกว่าที่เขาคาดไว้ และเขารู้สึกว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียทำให้เขาผิดหวัง ทรัมป์แสดงความไม่พอใจที่หลายประเทศยังคงซื้อพลังงานจากรัสเซีย เพราะวิธีเดียวที่จะลงโทษรัสเซียอย่างได้ผล คือการทำให้ราคาน้ำมันลดลง ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า อังกฤษสามารถใช้ทหารและกองทัพสกัดกั้นบรรดาผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ที่ใช้วิธีโดยสารเรือลำเล็กเดินทางจากฝรั่งเศสผ่านช่องแคบอังกฤษเข้ามายังอังกฤษ
ทรัมป์เดินทางออกจากอังกฤษเมื่อวานนี้ เสร็จสิ้นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งตามกำหนดของทำเนียบขาวนั้น ทรัมป์กำลังมุ่งหน้ากลับกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ร่วมกับผู้นำทั่วโลกที่นิวยอร์กในสัปดาห์หน้า ซึ่งปีนี้จะประกอบไปด้วยประเด็นสำคัญ ได้แก่ การกลับมาขึ้นเวทีของประธานาธิบดีสหรัฐของทรัมป์ สงครามในกาซาและยูเครนที่ยังยืดเยื้อ กระแสการยอมรับรัฐปาเลสไตน์ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศตะวันตก รวมถึงพันธมิตรสหรัฐฯ อย่างอังกฤษกับฝรั่งเศส และความตึงเครียดด้านนิวเคลียร์กับอิหร่าน.-815.-สำนักข่าวไทย