ฮ่องกง 18 ส.ค. – วันนี้ศาลฮ่องกงเริ่มการแถลงปิดคดีนายจิมมี่ ไหล มหาเศรษฐีชื่อดัง ในข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคง รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามความสำคัญของคดีนี้ที่คาดว่าจะเป็นเรื่องร้อนทางการเมืองโลก
ในบรรดาแกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง บุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ นายจิมมี่ ไหล มหาเศรษฐี เจ้าของธุรกิจมากมาย เขายังเป็นบุคคลสำคัญที่สุดที่ถูกฟ้องร้องละเมิดกฎหมายความมั่นคงของฮ่องกง จึงได้รับทั้งความชื่นชมฐานะวีรบุรุษ ขณะที่ก็ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศ
นายจิมมี่ ไหล ถูกจับกุมครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ฐานต้องสงสัยละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ กฎหมายใหม่ในเวลานั้นที่เริ่มมีผลบังคับใช้ราว 2 เดือนก่อนหน้า ในเดือนธันวาคมปีเดียวกันนั้น เขากลายเป็นบุคคลสำคัญที่สุดที่เผชิญข้อกล่าวหาตามกฎหมายฉบับนี้ ในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เจ้าของสื่อชื่อดังของฮ่องกง และผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ในคำฟ้องนั้นอัยการตั้งข้อหานายจิมมี่ ไหล ว่าสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ ในการคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ มีความผิดสองกระทง ซึ่งตามกฎหมายกำหนดโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต
นายไหล เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย ในนครกว่างโจวของจีน เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์ยึดอำนาจในปี 1949 ขณะเขามีอายุ 12 ปี ครอบครัวสูญสิ้นทรัพย์สิน จึงหลบหนีไปฮ่องกงด้วยการซ่อนตัวบนเรือประมง เริ่มงานหลากหลายแบบสู้ชีวิต ตั้งแต่ถักผ้าในร้านเล็กๆ ด้วยความอุตสาหะเรียนภาษาอังกฤษ เขาจึงเป็นนักธุรกิจประสบความสำเร็จ ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลก แต่หลังเหตุการณ์ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อปี 1991 เขาเริ่มบทบาทใหม่ในการเรียกร้องประชาธิปไตย เขียนบทความและก่อตั้งสำนักพิมพ์หลายแห่ง รวมถึง นสพ.แอปเปิลเดลี ที่ได้รับความนิยมสูง
จากบทบาทนี้เอง สื่อของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่รายงานว่าเขาเป็น “ผู้สนับสนุนการจลาจล” และสื่อของเขา “กระตุ้นความเกลียดชัง เผยแพร่ข่าวลือ และให้ร้ายทางการฮ่องกงและจีนมาหลายปี”
ในการนำตัวขึ้นศาลวันนี้ เป็นการเริ่มต้นแถลงปิดคดี ฝ่ายอัยการผู้ฟ้องร้องเริ่มต้นด้วยการย้ำว่า ตามข้อหาสมคบคิดต่างชาตินั้นแม้ยังกระทำไม่สำเร็จ แต่ก็ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เมื่อสองฝ่ายตกลงเป้าหมายร่วมกัน ตามสำนวนฟ้อง อัยการได้ยกเนื้อหาที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลี่ของเขา ซึ่งมีเนื้อหาปลุกระดมก่อความไม่สงบ เช่น เมื่อปี 2019 ระหว่างการชุมนุมใหญ่นายไหล พบกับกันนายไมค์ เพนซ์ และนายไมค์ ปอมเปโอ ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ทนายจำเลยแย้งว่าการพบกันนั้นเป็นเพียงการหารือบอกเล่าสถานการ์ในฮ่องกงเท่านั้น และนายไหลไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานด้านบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์เลย
กรณีของนายไหล ยังมีผลพวงด้านการเมืองระหว่างประเทศ เพราะเขาเป็นบุคคลสองสัญชาติ คือ จีนและอังกฤษ ทำให้นายเคียร์ สตาเมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศไว้ว่ารัฐบาลของเขาให้ความสำคัญสูงสุดกับอิสรภาพของนายไหล ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเช่นกันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้นายไหลเป็นอิสระ
วันนี้สื่อรายงานว่า นายไหล อายุ 77 ปี ซึ่งถูกคุมขังมานานเกือบ 5 ปีเต็ม อยู่ในสภาพอ่อนแรง กำหนดการแถลงปิดคดีถูกเลื่อนมา 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งเพราะภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ จึงกำหนดให้ใช้เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพา และทีมแพทย์ประจำการเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน การแถลงปิดคดีของทั้งฝ่ายอัยการและฝ่ายจำเลยคาดว่าจะใช้เวลาทั้งสิ้น 8 วัน หลังจากนั้นอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินออกมา ในวันนั้นลูกชายของเขา นายเซบาสเตียน ไหล เผยถึงความกลัวว่าผลจะออกมาเลวร้ายที่สุด ถึงแม้ว่าศาลอาจจะไม่ตัดสินลงโทษขั้นสูงสุด จำคุกตลอดชีวิต อาจกำหนดเวลาหลายปี ด้วยอายุและอาการเจ็บป่วย บิดาของเขาอาจต้องเสียชีวิตภายในรือนจำ.-สำนักข่าวไทย
