TNA News-Now-Next: สิงคโปร์เปลี่ยนผ่านผู้นำสู่ยุค 4G

วันนี้ สิงคโปร์เข้าสู่การเปลี่ยนผ่านผู้นำอีกครั้ง แต่เป็นเพียงครั้งที่ 3 เท่านั้นตั้งแต่สถาปนาประเทศขึ้นเมื่อปี 2508 หรือ 59 ปีก่อน


นาย ลี เซียนลุง ผู้อำลาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ครองมาตั้งแต่ ปี 2547 ประกาศว่า การเปลี่ยนผ่านตำแหน่งผู้นำเป็นช่วงเวลาสำคัญของประเทศ ที่ผ่านมาเขาได้เตรียมการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน กำหนดจะลงจากตำแหน่งเมื่อ 2 ปีก่อนแต่เมื่อยังเกิดวิกฤติโควิด-19 จึงต้องขยายเวลาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับมือ

แม้กระนั้นการเปลี่ยนแปลงผู้นำรอบนี้ก็เกิดขึ้นในเวลาที่ สังคมมีความแตกต่างขยายวงขึ้น ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้น ความไม่เท่าเทียมที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดความขุ่นข้องหมองใจในหมู่แรงงานต่างชาติ ส่วนการเมืองภายในก็เริ่มเห็นความขัดแย้งขึ้น สำหรับการเมืองระหว่างประเทศก็เป็นจังหวะเวลาที่ท้าทาย จากความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจ


สิงคโปร์ในยามเปลี่ยนผู้นำจะก้าวย่างต่อไปอย่างไร มีอะไรที่เราเรียนรู้ได้บ้าง

ทายาทผู้รับไม้ต่อ

นายลี เซียนลุง วัย 72 ปี บุตรชายคนโตของ นาย ลี กวนยู บิดาผู้ล่วงลับที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นรัฐบุรุษ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2547 ขณะอายุ 51 ปี เขาลงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคกิจประชาชนในวันนี้ (15 พ.ค. 2567) และส่งไม้ผู้นำประเทศต่อให้กับ นายลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรี


นายกรัฐมนตรี 4G ของสิงคโปร์

นายลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์และรัฐมนตรีคลัง รับตำแหน่งผู้นำสิงคโปร์คนใหม่ ในการเปลี่ยนผ่านอำนาจทางการเมืองครั้งที่ 3 นับตั้งแต่สิงคโปร์ได้รับเอกราชแยกตัวจากมาเลเซียเมื่อปี 2508

นายหว่อง วัย 51 ปี ออกแถลงการณ์ว่า เขาน้อมรับและตระหนักดีถึงภาระหน้าที่ใหม่ จึงขอให้ประชาชนช่วยกันสนับสนุนการทำงานของเขา โดยเตรียมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะทำงานร่วมกับเขาหลังจากสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของสิงคโปร์

เส้นทางชีวิตและการเมืองลอว์เรนซ์ หว่อง

นายลอว์เรนซ์ หว่อง เกิดวันที่ 18 ธันวาคม ปี 2515 ปัจจุบันอายุ 51 ปี มีชื่อเต็มคือ Lawrence Wong Shyun Tsai บิดาของเขาเป็นชาวจีนที่อพยพมาอยู่ที่สิงคโปร์ และมารดาของเขาเป็นครู เติบโตในชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและสังคม

ด้านการศึกษา เขาเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลและมหาวิทยาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ ในสาขาวิทยาศาสตร์ จากนั้นไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่สหรัฐอเมริกา โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Wisconsin-Madison และยังได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Michigan-Ann Arbor และปริญญาโทอีกใบในสาขารัฐประศาสนศาสตร์จาก Harvard Kennedy School

นายหว่อง เริ่มต้นการงานอาชีพด้วยการทำงานในภาครัฐ เป็นเจ้าหน้าที่สำนักพลังงานในองค์กรการวิจัยสิ่งแวดล้อมแห่งสิงคโปร์ (Singapore Institute of International Affairs) ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการส่วนตัวของนายลี เซียน ลุง ซึ่งทำให้เขาเติบโตบนเส้นทางการเมืองอย่างรวดเร็ว จากตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาและพัฒนา ไปจนถึงรัฐมนตรีคลัง เมื่อปี 2554 ขณะที่มีอายุได้ 39 ปีเท่านั้น ต่อมาในปี 2563 จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีคลัง

นายกรัฐมนตรีจากการปลุกปั้นและฟูมฟัก

นายหว่อง ได้รับการคาดหมายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์มานาน จากหลายปัจจัยตั้งแต่ประสบการณ์การทำงานในภาครัฐ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมือง และที่โดดเด่นมากคือการบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤติโรคโควิด-19

เมื่อโรคร้ายระบาด นาย หว่องเป็นขุนพลต่อสู้ในฐานะประธานร่วมของคณะทำงานเฉพาะกิจโควิด-19 สร้างผลงานในการรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ ปูทางให้เขาได้สัมผัสใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของชาวบ้านเป็นครั้งแรก

บารมีทางการเมืองภายในประเทศเป็นเครื่องพิสูจน์ แม้อายุไม่มากแต่ได้รับการยอมรับในพรรคกิจประชาชน พรรครัฐบาลที่กุมอำนาจทางการเมืองในสิงคโปร์มาตั้งแต่ต้น พลพรรคดูเชื่อมั่นว่า จะเป็นผู้นำที่นำพาพรรคและประเทศจนได้รับการยอมรับจากประชาชนแม้เขาจะไม่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรงก็ตาม มองกันว่า นายหว่อง สะท้อนความตั้งใจของพรรคที่จะรักษาความสมดุลของอำนาจภายในพรรคและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในเวลาเดียวกัน

มองไปข้างหน้ากับผู้นำใหม่สิงคโปร์

นายหว่อง มีความโดดเด่นที่สุดที่สร้างความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชน ด้วยภาพลักษณ์ความมีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการสร้างสิ่งใหม่ๆเพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศ เขามุ่งมั่นให้สิงคโปร์ผงาดในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยที่ผ่านมา มักแสดงวิสัยทัศน์สร้างสิงคโปร์ให้เป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมและเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยแนวทางการสนับสนุนภาคธุรกิจด้านเทคโนโลยีและการสร้างสรรค์ การเสริมสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาและวัฒนธรรม และสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

การเปลี่ยนผ่านผู้นำราบรื่นไร้รอยต่อ

นับตั้งแต่ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษในปี 2508 สิงคโปร์มีนายกรัฐมนตรีเป็นคนที่ 4 เท่านั้น ทุกครั้งที่ผู้นำผลัดใบจะมีกระบวนการที่วางไว้สืบทอดกันมาให้การเปลี่ยนผ่านราบรื่น

เริ่มจากนาย ลี กวนยู ที่อยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ เขาได้แสดงความประสงค์จะลงจากอำนาจก่อนที่จะส่งไม้ต่อถึง 6 ปี นาย โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนต่อมาก็สืบสานธรรมเนียมการเมืองนี้ ลงจากตำแหน่งเปิดทางให้กับนาย ลี เซียนลุง ซี่งได้ประกาศที่จะสละตำแหน่งผู้นำมาหลายปีแล้ว

วัฒนธรรมการเมืองเช่นนี้เองที่อาจเป็นเคล็ดลับให้สิงคโปร์ติดปีก สร้างศักยภาพให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินและศูนย์กลางทางเทคโนโลยีแห่งเอเชีย การเปลี่ยนผ่านผู้นำในหลายประเทศมักตามมาด้วยความขลุกขลัก แต่สิงคโปร์ส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ราวบทประพันธ์ดนตรีที่มีท่วงทำนองไพเราะ จากดำริและการปูรากฐานของนาย ลี กวนยู พรรคกิจประชาชนคำนึงถึงเสถียรภาพ เข้าใจว่า การส่งไม้ต่ออย่างไร้รอยต่อสำคัญอย่างยิ่งต่อชาติบ้านเมืองเพื่อรับประกันความต่อเนื่อง จึงให้ดำเนินการอย่างราบรื่น เป็นระบบ ประณีต และโปร่งใส

Final Thoughts: การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นในโลกที่ปั่นป่วน

แม้สืบทอดความราบรื่นของการเมืองในสิงคโปร์ และมรดกแห่งหัวคิดที่ก้าวหน้า นาย หว่อง มีเรื่องท้าทายรออยู่ข้างหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพ ความไม่เท่าเทียมในสังคม ผู้อพยพ และเรื่องอื้อฉาวในหมู่นักการเมือง ในด้านการต่างประเทศยุคสมัยของผู้นำรุ่นที่ 4 คนนี้จะเผชิญหน้ากับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น โดยต้องพยายามรักษาสมดุลย์เพื่อไม่ให้กระทบกับการค้าและการเดินเรือของสิงคโปร์

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]