จาการ์ตา 4 ก.ค.- อินโดนีเซียเริ่มใช้ค่าโดยสารขั้นต่ำสุดและขั้นสูงสุดสำหรับบริการแอปพลิเคชันเรียกรถแล้ว หวังให้เกิดความเท่าเทียมกับผู้ให้บริการรถแท็กซี่แบบเดิม
ระเบียบใหม่ที่ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคมและมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม กำหนดค่าโดยสารขั้นต่ำสุด-สูงสุดไว้ที่กิโลเมตรละ 3,500-6,000 รูเปียห์ (ราว 8.88 -15.23 บาท) สำหรับเกาะสุมาตรา ชวา และบาหลี ส่วนเกาะอื่น ๆ กำหนดค่าโดยสารขั้นต่ำสุด-สูงสุดไว้ที่กิโลเมตรละ 3,700-6,500 รูเปียห์ (ราว 9.40-16.51 บาท) หวังชะลอธุรกิจเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังกำหนดเงื่อนไขอย่างกว้างขวาง เช่น โควตาจำนวนรถในแต่ละเมือง
กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียระบุว่า ทางการใช้ระเบียบที่เท่าเทียมกันเพื่อให้ธุรกิจรถแท็กซี่แบบเดิมและธุรกิจเรียกรถผ่านแอปสามารถอยู่ร่วมกันได้ อีกทั้งยังช่วยให้คนขับรถผ่านแอปที่มีรายได้จากเปอร์เซ็นต์ค่าโดยสารมีรายได้ที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ค่าโดยสารใหม่นี้ครอบคลุมประกันภัยสำหรับผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ ประกันภัยคนขับและประกันภัยรถด้วย ทางการจะให้เวลาผ่อนผันนาน 6 เดือน หลังจากนั้นแอปใดที่ไม่ปฏิบัติตามอาจถูกระงับการให้บริการ
ด้านบริษัทเดินรถในอินโดนีเซียที่เป็นหุ้นส่วนกับอูเบอร์เผยว่า บริษัทคิดค่าโดยสารขั้นต่ำที่กิโลเมตรละ 2,000 รูเปียห์ (ราว 5 บาท) และเพิ่มขึ้นนาทีละ 300 รูเปียห์ (ราว 0.76 บาท) ค่าโดยสารใหม่ตามกำหนดของทางการอาจทำให้ภาระไปตกอยู่ที่ผู้โดยสาร เช่น ค่าโดยสารจากสนามบินเข้าตัวเมืองอาจเพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก 100,000 รูเปียห์ (ราว 254 บาท) ในปัจจุบัน และอาจทำให้ผู้โดยสารหันไปใช้บริการคมนาคมอื่น.- สำนักข่าวไทย
