มีชัย ชี้วิกฤตการเมืองไทย 4 ด้าน

กรุงเทพฯ 22 มี.ค.-  ประธาน กรธ. ระบุ วิกฤตการเมืองไทย 4 ด้าน  ที่อันตรายที่สุดสำหรับประเทศ คือการเข้าสู่อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง จนทำลายความน่าเชื่อถือ แนะ ปลูกฝังวินัยตั้งแต่เด็ก 


สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานเทศบาลเมืองมหาสารคามและมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดโครงการสัมมนาเชิงวิชาการ สมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย เรื่อง ยุทธศาสตร์และทิศทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่น ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น   

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวปาฐกถาเรื่องบทบาทของรัฐธรรมนูญในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ทางการเมืองไทย โดยย้อนให้เห็นถึงวิกฤติการเมืองไทยใน 4 ด้าน ซึ่งปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ วิกฤตการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ใช้ความดีงามเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหรือท้องถิ่น แต่เข้ามาเพื่อให้ได้อำนาจและใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและพรรคพวก 


ประธาน กรธ. กล่าวว่า เมื่อเข้ามาในวงการการเมืองแล้ว ต้นทุนก็สูง ก็ต้องเอาจากของหลวง จนในที่สุดไม่ได้ทำงานเพื่อพัฒนา แต่ทำเพื่อเอาสัดส่วนจากสิ่งที่ทำ เรียกกันว่า ทุจริตเชิงนโยบาย โดยใช้อำนาจไปในทางที่ไม่สุจริต และรักษาอำนาจด้วยวิธีการเอาทุนคืนและสะสมทุนรอนต่อไปในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นวิกฤตที่อันตรายที่สุดสำหรับประเทศและประชาชน รวมถึงทำลายความน่าเชื่อถือของระบอบประชาธิปไตย

นายมีชัย กล่าวว่า หากไม่ขจัดเรื่องนี้ บ้านเมืองจะไม่มีวันเจริญทัดเทียมกับประเทศอื่นได้ เพราะต้นทุนแพง อาทิ การจะสร้างถนน 100 ล้านบาท แต่ใช้งบประมาณถึง 200 ล้านบาท เป็นต้น เคยได้ยินว่า เมื่อถึงเวลาน้ำท่วม ก็จะมีคนดีใจ เพราะจะได้ไม่เห็นหลักฐานที่เคยทำทุจริตไว้ 

ประธาน กรธ. กล่าวว่า อีกหนึ่งวิกฤตคือ ประเทศไทยเริ่มมีกฎหมายมากขึ้น ประชาชนอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายโดยตลอด ตั้งแต่ตื่นจนนอนหลับ แต่เมื่อถามว่า การบังคับใช้กฎหมายนั้นตรงไปตรงมาหรือไม่ คำตอบก็คือไม่ แต่เป็นไปตามดุลยพินิจของผู้มีอำนาจ ดังนั้น การกระทำผิดกฎหมายจึงเกิดขึ้นทั่วบ้านเมือง และผู้ที่ถูกจับกุมจะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เพราะเห็นว่าสิ่งที่ตนเองกระทำก็มีผู้อื่นกระทำเช่นเดียวกัน และเมื่อไม่มีขื่อไม่มีแป แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ก็ไม่เกิดความสุขสงบและความเป็นธรรม 


นายมีชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีวิกฤตการณ์ที่ข้าราชการทำงานแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวและไม่มีกำหนดเวลา ทำให้ทำงานล่าช้า ก้าวไม่ทันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เมื่อผู้ที่อยู่ในอำนาจสูงไม่สุจริต ผู้ที่อยู่ข้างล่างก็ไม่สุจริตตาม แต่ลืมคิดไปว่า หากทุกคนหยุดไขว่คว้า เงินที่จะนำมาเพิ่มเงินเดือนก็จะมีมหาศาล และวิกฤตสุดท้าย คือ วิกฤติการทุจริต ที่เกิดจากการใช้ดุลยพินิจหลายขั้นตอน ทำให้เกิดการทุจริตง่าย

ประธาน กรธ. กล่าวว่า วิกฤตการณ์ทั้งหมดที่กล่าวมา เกิดขึ้นจากคนไม่มีวินัย ความไม่มีวินัยทำให้การดำรงชีวิตยากลำบาก เกิดหนี้สิน ทำงานโดยไม่มีสำนึกในความรับผิดชอบ เมื่อคนไม่มีวินัย เวลาหาเสียงเลือกตั้งก็จะใช้ทุกวิถีทาง ไม่รู้สึกผิดกับการทุจริต  หัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่คือ สร้างคนให้มีวินัย 2 ระดับ รัฐธรรมนูญจึงมุ่งพัฒนาการศึกษาตั้งแต่เด็ก และประคบประหงมตั้งแต่อยู่ในท้อง ซึ่งรัฐ ท้องถิ่นและประชาชนต้องร่วมมือกัน

นายมีชัย กล่าวว่า ในระยะต้น ก่อนเด็กจะเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา ต้องถูกสอนให้มีวินัย พร้อมกับการพัฒนาสมองตามหลักสาธารณสุข เพื่อให้คนมีคุณภาพ การจะดำเนินการเช่นนี้ กลไกกระบวนการศึกษาที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถทำได้สำเร็จ เพราะถูกจับแบ่งเป็นชิ้น ต่างคนต่างทำ งบประมาณมหาศาลไม่ได้อยู่กับเด็ก รัฐธรรมนูญนี้จึงทั้งบังคับ ชักชวนและขู่เข็ญ ว่า การจะปฏิรูปการศึกษาและการบังคับใช้กฎหมายจะต้องมีกลไกเป็นพิเศษ โดยมีคณะกรรมการที่จะไปปฏิรูปการศึกษาโดยเฉพาะแต่คณะกรรมการนี้จะต้องมาจากกระทรวงศึกษาธิการน้อยที่สุด และการศึกษาต้องเป็นไปตามความถนัดของเด็ก ไม่ใช่ความต้องการของสังคมและพ่อแม่ ดังนั้น กลไกในการปฏิรูปการศึกษาจึงสร้างไว้เฉพาะทาง 

ประธาน กรธ. กล่าวว่า ส่วนกลไกการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย มุ่งเน้นที่ตำรวจ เพราะมีหน้าที่โดยตรง แต่ทุกวันนี้ ตำรวจยังต้องพึ่งผู้มีอิทธิพลในการวิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่ง ดังนั้น การปฏิรูปตำรวจ จึงต้องให้คนนอกมามีส่วนร่วม เพื่อให้ตำรวจมีความมั่นคง และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ แต่หากตำรวจไม่ยอมรับการปฏิรูป จนทำให้การปฏิรูปไม่สำเร็จ ตำรวจก็จะเป็นผู้ถูกกระทำเสียเอง และถูกฉีกไปอยู่ที่ท้องถิ่นหรือจังหวัด 

นายมีชัย กล่าวว่า ขณะที่วิกฤติทางการเมือง ต้องยึดกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  คือ ไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาปกครองบ้านเมือง  ซึ่งหลายเรื่องถูกบัญญัติห้ามไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่พบว่า ผู้บริหารแผ่นดิน และหน่วยงานราชการยังเมินเฉย แต่ต่อไป ทั้งสำนักงบประมาณ กระทรวง ทบวง กรม ที่ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ ยกเว้นทำบันทึกแสดงความเห็นคัดค้านเอาไว้ จะไม่ถูกลงโทษ เพื่อให้โอกาสข้าราชการที่ถูกฝ่ายการเมืองบีบ จึงเขียนเวลาที่จะติดตามเรื่องไว้ 20 ปี รอให้ฝ่ายการเมืองชุดนั้นพ้นจากตำแหน่ง ไม่ให้เป็นอันตรายกับข้าราชการคนดังกล่าว 

ประธาน กรธ. กล่าวว่า การกำหนดรัฐธรรมนูญเช่นนี้ ก็เพื่อแก้วิกฤต และจุดที่สำคัญอยู่ที่ตอนท้ายของรัฐธรรมนูญ คือหมวดว่าด้วยการปฏิรูปในด้านต่างๆ และบังคับด้วยว่า ต้องออกกฎหมายวิธีการปฏิรูป วิธีการจัดทำยุทธศาสตร์ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน โดยอาศัยประสบการณ์จากรัฐธรรมนูญฉบับเก่า ๆ ที่ไม่สามารถออกกฎหมายได้จริง รัฐธรรมนูญใหม่จึงกำหนดเวลาไว้ และกำหนดบทลงโทษกรณีทำไม่แล้วเสร็จตามกำหนดด้วย เชื่อว่า หากดำเนินการครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ยังแก้วิกฤตไม่ทั้งหมด แต่ต้องให้คนรุ่นนี้ไปก่อน แล้วสร้างวินัยเด็กให้เด็กรุ่นใหม่

นายมีชัย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้มุ่งแต่เฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น แต่นึกถึงผลกระทบที่ประชาชนจะได้รับจากการดำเนินการของรัฐ และ กรธ.รู้ว่า สิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดคือกฎหมายที่มีจำนวนมาก เพราะสะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมของคนต้องถูกควบคุมจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี และทุกครั้งที่ออกกฎหมาย คือการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ดังนั้น รัฐธรรมนูญนี้จึงพยายามสร้างกลไกการปฏิรูปเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ดีขึ้น ไม่ให้เกิดวิกฤตแบบที่เคยเกิดขึ้นอย่างที่ผ่านมา แต่จะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทุกคนจะมองเห็นผลสัมฤทธิ์นั้นหรือไม่  หากทุกคนร่วมกัน เชื่อว่า กลไกที่เขียนในรัฐธรรมนูญจะแก้วิกฤตได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]