กกร.มั่นใจปี 60 ส่งออกกลับมาขยายตัวได้

กรุงเทพฯ 9 ม.ค.-กกร.มั่นใจสัญญาณส่งออกไทยเริ่มดีขึ้น ปรับกรอบจากโตเล็กน้อยเป็นโตได้มากกว่าร้อยละ 3   ส่วนผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ไม่มาก น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 2 สัปดาห์


นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังเป็นประธาน กกร.ว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา แม้จะเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ แต่เศรษฐกิจไทยก็สามารถก้าวผ่านความท้าทายมาได้ โดยในช่วงสุดท้ายของปี ได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรม ราคาสินค้าเกษตรบางรายการที่ปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาลและมาตรการภาครัฐเพื่อกระตุ้น       การใช้จ่ายในช่วงปลายปี  ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ​ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันสูงสุดในรอบ 20 เดือน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม 2559 ปรับตัวดีขึ้นในรอบ 3 เดือน อยู่ที่ระดับ 73.7  เทียบกับเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน อยู่ที่ 73.1 และ 72.3 ตามลำดับ เศรษฐกิจภูมิภาค โดยรวมภูมิภาคปรับตัวดีขึ้นทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล และภาคกลางปรับตัวดีขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ


​อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น รัฐบาลมีแนวทางในการปฏิรูปเศรษฐกิจภายในประเทศให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อให้สามารถรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในอนาคตได้ ภายใต้วงเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท  เพื่อนำวงเงินที่ได้ไปใช้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับกลุ่มจังหวัดทั้ง 18 กลุ่มจังหวัด  ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์.-กันยายน 2560

ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดทำงบประมาณในรูปแบบกลไกประชารัฐ โดย​สาระสำคัญในการจัดทำโครงการของกลุ่มจังหวัดดังกล่าว เป็นโครงการที่เน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจหรือด้านสังคม และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “มั่นคง  มั่งคั่ง ยั่งยืน” ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) นโยบายประเทศไทย 4.0 นโยบายรัฐบาล และ อัตลักษณ์ (Positioning) ของกลุ่ม จังหวัดและยังเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดการพัฒนาและการกระจายความเจริญเติบโตระหว่างจังหวัด และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนระดับฐานราก ได้อย่างทั่วถึงทุกกลุ่มจังหวัด และเป็นโครงการที่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560

ทั้งนี้ ​ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการตามแนวทางการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ เมื่อวันที่ 7-8 มกราคม 2560 ณ สำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาข้อเสนอโครงการของกลุ่มจังหวัดฯ ทั้ง 18 กลุ่มจังหวัด โดยแบ่งงบประมาณออกเป็น 2 ส่วน คือ


งบประมาณ 70,000 ล้านบาท ตามที่เสนอโดย 18 กลุ่มจังหวัด (4,000 ล้านบาท กลุ่ม) งบประมาณ 30,000 ล้านบาท  ( กองทุน SME/Missing Links – Cross Regional หรือ Function to area /Big rock projects)

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะนำเข้า ครม. เพื่อพิจารณา ในวันที่ 16 มกราคม และ เสนอ สนช. ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์  และสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ในเดือนเมษายนนี้  จะช่วยส่งผลในการขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ประมาณ ร้อยละ 0.3 -0.5 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณว่าจะเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ และ​คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2560 จะมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปลายปี 2559 ซึ่งการส่งออกในเดือนพฤศจิกายนมีมูลค่าการค้า 18,911 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว ร้อยละ 10.2 เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 9 เดือน  และในปีนี้แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลบวก ต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรบางรายการ กกร. จึงคาดการณ์ ในปี 2560  การส่งออกของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในกรอบ ร้อยละ 1.0- 3.0 จากกรอบเดิมร้อยละ 0.0 -2.0

ในด้านการท่องเที่ยวในปีนี้  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ  10 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.77 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 1.81 ล้านล้านบาท และรายได้ในประเทศ 950,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.51 หรือจำนวน 34.4 ล้านคน จากปีก่อนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว 32.6 ล้านคนรวมถึง หากรัฐบาลสามารถผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ในแผนประมาณ 956,600 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่า 45,600 ล้านบาท) โครงการที่อยู่ระหว่างการประมูล มูลค่า 488,000 ล้านบาทโครงการที่อยู่ระหว่างเสนอ ครม.อนุมัติ มูลค่า 176,000 ล้านบาท โครงการที่อยู่ระหว่างกระบวนการเจรจา PPP มูลค่า 247,000 ล้านบาท จะช่วยทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนของภาคเอกชน

นอกจากนี้ ภาคเอกชนได้มีการขอขยายระยะเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โดยได้มีหนังสือถึงนายอภิศักดิ์  ตันติวรวงศ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายในลักษณะของค่าเสื่อมราคาได้ 2 เท่าของรายจ่าย เพื่อการลงทุนหรือต่อเติมเปลี่ยนแปลง  ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้น ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ โดยเป็นการลงทุนใทรัพย์สิน ซึ่งมีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559  ภาคเอกชนได้สำรวจความเห็นจากผู้ประกอบการเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นมาตรการที่ดีมาก แต่เนื่องจากระยะเวลาการใช้สิทธิ์ตามมาตรการค่อนข้างสั้น โดยผลการสำรวจของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่ามีสมาชิกประมาณร้อยละ  80 แจ้งว่าจะขอใช้สิทธิ์เพื่อขยายการลงทุนในปี 2560 ในส่วนของความคืบหน้าการขอขยายระยะเวลามาตรการฯ ขณะนี้กระทรวงการคลังจะพิจารณาในเรื่องดังกล่าว โดยอาจจะเพิ่มเงื่อนไขบางกรณีเพื่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนเพิ่ม ส่วนเงื่อนไขและระยะเวลายังอยู่ระหว่างการพิจารณา

หากมีการขยายระยะเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ จะช่วยสนับสนุนให้เอกชนขยายการลงทุน มีเม็ดเงินเอกชนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และจะเป็นการช่วยเสริมแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ให้เติบโตได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา  ซึ่ง กกร. คาดการณ์ในปี 2560 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอยู่ในกรอบ ร้อยละ 3.5-4.0

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดภาคใต้ นั้น กกร. ได้มีการประเมินความเสียหายเบื้องต้นไว้ 10,000-15,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและด้านคมนาคมในการเดินทางเป็นหลัก และเชื่อว่าจะคลี่คลายภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ จึงถือว่าไม่กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศมากนัก โดยหลังน้ำลดลงจะเข้าสู่การซ่อมสร้างถนนหนทางและการเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ ซึ่งจะมีเม็ดเงินลงไปสู่จังหวัดต่างในภาคใต้กันมากขึ้น ที่สำคัญจังหวัดที่ได้เกิดน้ำท่วมหนักไม่ได้อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวมากนัก จึงไม่กระทบด้านการท่องเที่ยวเท่าที่ควรรวมถึงบางพื้นที่ที่มีโรงงานแม้จะถูกน้ำท่วมแต่ก็มีการทำประกันไว้แล้ว ดังนั้น ทางสมาคมธนาคารไทยจะขอให้แต่ละสถาบันการเงินให้การช่วยเหลือปล่อยสินเชื่อเพิ่มที่จะซ่อมสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่ โดยทาง กกร.ขอแสดงความห่วงใยต่อผู้ประสบภัย จึงได้มีมติมอบเงินจำนวน 1 ล้านบาท ในนามสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ผ่านทางกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้กันต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]