ทำเนียบรัฐบาล 18 พ.ย.-ที่ประชุมศตส.เตรียมปรับระบบการปิดการจราจรวันหยุดสุดสัปดาห์นี้เหลือเพียง 8 เส้นทางเหมือนวันธรรมดา พร้อมยืนยันข้าราชการไม่ได้แซงคิวประชาชนตามที่มีเสียงวิจารณ์
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์(ศตส.) ว่า ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์การเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ และสรุปว่าจะไม่ปิดการจราจรแบบเต็มรูปแบบ แต่จะปิดการจราจร 8 เส้นทางรอบพื้นที่สนามหลวงเช่นเดียวกับวันธรรมดา แต่ขอความร่วมมือรถยนต์ส่วนบุคคลที่ต้องการเข้าพื้นที่ตอนใน ให้นำรถไปจอดพื้นที่ที่จัดไว้ให้ เพื่อให้รถสาธารณะวิ่งรับส่งคนได้อย่างสะดวก ขณะที่การให้บริการรถขสมก. การบริการทางเรือและจุดจอดรถยังเป็นไปตามปกติ
นายสุวพันธ์ กล่าวถึงการปรับพื้นที่ท้องสนามหลวง ว่า จะให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ขณะนี้ได้ปรับจุดบริการอาหาร เครื่องดื่มและการบริการทางการแพทย์ พร้อมตั้งเต็นท์รองรับประชาชนจำนวน 12,000 คน อีกทั้งปรับช่วงเวลาการแจกอาหาร และน้ำดื่มเพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางมาก่อนเวลา 04.00 น. และจะจัดบริการเพิ่มเติมให้แก่ประชาชนในช่วงเย็น
“ที่ประชุมกำชับถึงการปฏิบัติตัวของข้าราชการกรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการลัดคิวประชาชนเข้ากราบถวายสักการะ ว่า ส่วนราชการจะส่งข้าราชการมาผลัดเปลี่ยนวันละ 6 รอบ รอบละ 100 คน ทุกส่วนต้องมาปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะประสานกับสำนักพระราชวังเพื่อกำหนดจุดอย่างชัดเจน รวมถึงการกำหนดทางเข้าออก โดยขอให้ทุกหน่วยงานสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม และเมื่อร่วมฟังสวดพระอภิธรรมเสร็จแล้วต้องขึ้นไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ ซึ่งเป็นไปตามระบบ ไม่ใช่การแซงคิวตามที่วิพากษ์วิจารณ์กัน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนการจัดระบบจองคิวออนไลน์ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้รายงานว่าขณะนี้ระบบเสร็จแล้ว แต่อยู่ระหว่างการรอการบริหารจัดการ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเพื่อหารือแนวทางปฏิบัติ และต้องทดสอบระบบโดยการปฏิบัติจริงก่อน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดงานรวมพลังแสดงความจงรักภักดี ในวันที่ 22 พฤศจิกายน บริเวณท้องสนามหลวง ว่า จะจัดพื้นที่ให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ร่วมกิจกรรมทำความดีทั้งทางกาย วาจา และใจ โดยจัดอย่างเรียบง่าย และประชาชนที่เข้าแถวอยู่ไม่จําเป็นต้องแตกแถวออกมาเพื่อร่วมกิจกรรม.-สำนักข่าวไทย