หวั่นประมูลปิโตรเลียมล่าช้า กระทบกำลังผลิตลดฮวบ

กรุงเทพฯ 22 พ.ย. – ปตท.หวั่นประมูลบงกช-เอราวัณ กระทบแอลพีจีและกำลังผลิตก๊าซฯ ลดฮวบช่วง 3 ปีหลังหมดอายุสัมปทาน เผยเตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีปีหน้า โอน 6-7 บริษัทให้พีทีทีจีซี ขณะที่ การแยกธุรกิจค้าปลีกน้ำมันจะทำให้รัฐได้ภาษีเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30,000 ล้านบาท


นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)  หรือซีอีโอ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเชื่อมั่นว่ากระทรวงพลังงานจะจัดประมูลแหล่งปิโตรเลียมที่จะหมดอายุสัมปทานปี 2560 ได้ แม้ว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณแก้ไขร่าง  พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม อาจจะพิจารณาล่าช้าไปบ้าง โดยหากประมูลแหล่งบงกชและเอราวัณไม่ทันปี 2560 จะเกิดปัญหาต่อการวางแผนการลงทุนของเอกชน และจะส่งผลให้ปริมาณก๊าซจาก 2 แหล่งลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 3 ปี หลังจากหมดอายุสัมปทานจนน่าเป็นห่วง จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิต 2,100 ล้านลูกบาศ์กฟุตต่อวัน

นายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซ ธรรมชาติ ปตท.กล่าวว่า ผลกระทบทางกระทรวงพลังงานกำลังติดตาม โดยที่น่าเป็นห่วง คือ ก๊าซแอลพีจีปัจจุบันผลิตจากโรงแยกก๊าซครึ่งหนึ่งของความต้องการใช้จะหายไปกระทบผู้บริโภค ในส่วนของปิโตรเคมีทางบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (พีทีทีจีซี) เตรียมผลิตจากน้ำมันทดแทนอยู่แล้ว ขณะที่การนำเข้าแอลเอ็นจีทดแทน ทาง ปตท.ได้เร่งทุกโครงการ ทั้งสถานีนำเข้าแห่งที่ 1 และ 2 โดยภายในปี 2565 จะนำเข้ารวม 19 ล้านตัน หรือประมาณ 2,600 ล้านลูกบาศ์กฟุตต่อวัน ส่วนความต้องการก๊าซธรรมชาติปี 2560 คาดจะใกล้เคียงปี 2559 ที่ประมาณ 4,900 ล้านลูกบาศ์กฟุตต่อวัน เนื่องจากความต้องการเอ็นจีวีลดลง ขณะที่ความต้องการก๊าซเพื่อผลิตไฟฟ้าของเอสพีพีจะมีปริมาณสูงขึ้น


“ปตท.เร่งเดินหน้าโครงการที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพลังงาน โดยเฉพาะการสร้างคลังแอลเอ็นจี 1และ 2 ในส่วนของคลังที่ 1 รับ 10 ล้านตันจะเสร็จต้นปี 2560 และส่วนขยายอีก 1.5 ล้านตันจะเสร็จปี 2562 ส่วนคลังแห่งที่ 2 อีก 7.5 ล้านตัน จะเสร็จปี 2565 เงินลงทุนส่วนนี้กว่า 30,000 ล้านบาท” นายนพดล กล่าว

นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. กล่าวว่า ปตท.อยู่ระหว่างเตรียมแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ทั้งค้าปลีกน้ำมันและปิโตรเคมี โดยในส่วนของปิโตรเคมีจะมีการโอนธุรกิจสายปิโตรเคมีประมาณ 6-7 บริษัทให้กับพีทีทีจีซีภายในปี 60 โดยว่าจ้างให้สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ทำการศึกษา นับเป็นการจัดพอร์ตใหม่เพื่อให้ห่วงโซ่ (value chain) ธุรกิจมีความต่อเนื่อง และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันหลังราคาน้ำมันตกต่ำ บริษัทที่โอนไปเช่น บริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด (HMC) ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกที่ ปตท.ถือหุ้นร้อยละ  40 บริษัทด้านโลจิสติกส์ และการตลาดต่าง ๆ ซึ่งเบื้องต้น ปตท.จะต้องทำความเข้าใจกับผู้ถือหุ้นรายอื่นในบริษัทเหล่านี้ ตลอดจนเจ้าหนี้ต่าง ๆ ด้วย

“พีทีทีจีซีจะเป็นเรือธง (Flagship) สายธุรกิจปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท. การโอนบริษัทย่อยออกไปให้ ก็จะทำให้ ปตท.มีรายได้จากการขายกิจการดังกล่าวแล้ว แต่ ปตท.ก็ยังมีภาระทางภาษีในการโอนกิจการดังกล่าวให้กับภาครัฐด้วยเช่นกัน” นายสรัญ กล่าว


นายสรัญ กล่าวด้วยว่า สำหรับขั้นตอนการปรับโครงสร้างธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกของกลุ่ม ปตท. โดยการโอนธุรกิจในกลุ่มให้กับบริษัท ปตท.ธุรกิจค้าปลีก จำกัด ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (พีทีทีโออาร์) หลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปตท.ก็เตรียมที่จะนำเสนอเรื่องต่อกระทรวงพลังงานและหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ตามขั้นตอน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นประมาณเดือนเมษายน 2560

“หลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติแล้วจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 เดือนในการโอนทรัพย์สิน และรอให้พีทีทีโออาร์ปิดงบอย่างน้อย 1 ไตรมาส ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2560 ที่ประกาศในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน  2560  หลังจากนั้นจะสามารถยื่นแบบเสนอขายหุ้น (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ โดยตามขั้นตอน ก.ล.ต.ปกติใช้เวลาอีกประมาณ 6 เดือน เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ)” นายสรัญ กล่าว

นายสรัญ กล่าวว่า  การปรับโครงสร้างธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก นอกจากจะทำให้กลุ่ม ปตท.ได้รับประโยชน์จากความชัดเจนและความคล่องตัวในการขยายงานของธุรกิจโดยเฉพาะในต่างประเทศ ในส่วนของภาครัฐจะได้รับประโยชน์จากภาษีการโอนกิจการ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าภาษีสูงถึงประมาณ 30,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่ารวมของธุรกิจจะมากขึ้นด้วย จากปกติ ปตท.มี P/E ที่ระดับ 8-9 เท่า แต่ P/E ของธุรกิจค้าปลีกโดยทั่วไปมีระดับสูงถึง 18-20 เท่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]