กสทช.ไม่ให้ค่ายมือถืออ้างช่องโหว่ธุรกิจไม่คืนเงินผู้บริโภค

กรุงเทพฯ 20 ส.ค. กสทช. บอกปัดค่ายมือถือ ไม่ให้อ้างเหตุช่องโหว่จากธุรกิจค้าค่าโทรปฏิเสธการคืนเงินผู้บริโภค


นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ  ส่งบทควาถึงสื่อมวลชนเพื่อแสดงคามเห็นกรณีเกี่ยวกับคิดอัตราค่าบริการโทรศัพท์ว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมล่าสุด ครั้งที่ 7/2563 ประจำเดือนสิงหาคม ได้มีการพิจารณาแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนกรณีผู้บริโภค 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินหรือแบบจ่ายล่วงหน้า (pre paid)  ต้องการปิดบริการกับค่ายมือถือรายหนึ่ง จำนวนทั้งสิ้น 24 เลขหมาย รวมยอดเงินกว่า 237,000 บาท แต่ปรากฏว่าถูกบริษัทปฏิเสธไม่ยอมคืนเงินคงเหลือในระบบให้ จึงได้ร้องเรียนความเดือดร้อนดังกล่าวมายังสำนักงาน กสทช.


จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกระบวนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ โดยได้เชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าชี้แจง พบว่า ผู้ร้องเรียนกลุ่มนี้มีการขอปิดบริการคราวละจำนวนหลายเลขหมาย และในแต่ละเลขหมายมียอดการขอคืนเงินสูงเกือบ 10,000 บาท ซึ่งในด้านผู้ให้บริการหรือค่ายมือถืออ้างว่า ยอดเงินในเลขหมายที่สูงมากนี้มีลักษณะไม่ใช่เป็นการเติมเงินไว้เพื่อการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามปกติ แต่ใช้เป็นช่องทางการโอนเงินหารายได้ แล้วมาขอรับเป็นเงินสด อีกทั้งยอดเงินบางส่วนก็เป็นการรับโอนต่อมาจากเลขหมายอื่นผ่านบริการของบริษัทที่ให้ผู้ใช้บริการระบบรายเดือน (post paid) สามารถเติมเงินค่าโทรให้กับผู้ใช้เบอร์เติมเงินได้ ซึ่งก็ปรากฏว่ามีผู้ใช้บริการแบบรายเดือนบางรายถูกหลอกให้เติมเงินให้ผู้อื่นและยังไม่ได้ชำระค่าบริการให้แก่บริษัท ดังนั้นบริษัทจึงต้องการอายัดเงินดังกล่าวทั้งหมดไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบ ขณะที่ทางด้านผู้ร้องเรียนชี้แจงว่า ที่มาของเงินในระบบส่วนใหญ่มาจากการซื้อค่าโทรผ่านร้านค้าออนไลน์ที่มีส่วนลดให้ และผู้ร้องเรียนบางรายมีการซื้อค่าโทรผ่านคนรู้จัก โดยเมื่อได้รับการเติมเงินค่าโทรแล้ว ก็จะโอนเงินสดผ่านบัญชีธนาคารไปให้ผู้เติม ซึ่งค่าโทรที่ได้รับจะมีมูลค่าสูงกว่ายอดเงินที่จ่ายไป โดยที่ไม่รู้ว่าค่าโทรที่ได้รับเป็นการโอนมาจากผู้ใด
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า ภายหลังการไต่สวนข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่าย ที่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ มีมติชี้ขาดว่า เนื่องจากประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ระบุว่า เมื่อสัญญาเลิกกัน ในกรณีที่ผู้ให้บริการมีเงินค้างชำระแก่ผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการก็ต้องคืนเงินคงเหลือในระบบให้กับผู้ใช้บริการ โดยที่ต้องดำเนินการคืนเงินภายใน 30 วันนับจากวันที่มีการบอกเลิกสัญญา และในกรณีที่บริษัทไม่สามารถคืนเงินให้กับผู้ใช้บริการได้ภายในกำหนดระยะเวลา บริษัทก็ต้องชำระค่าเสียประโยชน์เพิ่มเติมในอัตราเท่ากับดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้โดยนับตั้งแต่ 30 วันหลังจากวันที่มีการบอกเลิกสัญญา ดังนั้นในกรณีนี้บริษัทจึงไม่มีสิทธิปฏิเสธการคืนเงินให้กับผู้ใช้บริการ แต่หากบริษัทไม่เห็นด้วย ก็มีสิทธิไปร้องขอต่อศาลเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวในการที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง รวมทั้งอาจขอศาลอายัดเงินจำนวนดังกล่าวไว้ก่อนได้ตามที่ค่ายมือถืออ้างธุรกิจค้าค่าโทรเจาะช่องโหว่อุตสาหกรรมมือถือ มีทั้งกรณีโปรโมชั่นเติมเงินค่าโทรราคาถูกผ่านร้านค้าออนไลน์ กรณีชวนผู้ใช้โทรศัพท์ระบบรายเดือนเติมเงินเข้าระบบจ่ายล่วงหน้า แลกกับการรับเงินสดทันที โดยมีค่าส่วนต่าง รวมทั้งกรณีหลอกลวงให้เติมเงินหรือแอบเข้าทำธุรกรรมเติมเงินไปเบอร์ต่างๆ ซึ่งเมื่อผู้ใช้บริการพรีเพดมาปิดเบอร์ขอเงินคืนด้วยยอดรวมระดับแสนบาท ค่ายมือถือจึงขอไม่คืนเงินให้ อ้างเป็นยอดเงินในเลขหมายที่สูงผิดปกติ ผิดจากเจตนาของการเติมเงินเพื่อไว้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กสทช. ไม่รับลูก ยืนยันชัด หากผู้บริโภคเติมค่าโทรโดยช่องทางสุจริต ก็ย่อมมีสิทธิได้เงินคืนเต็มจำนวน

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า  กฎหมายของ กสทช. กำหนดไว้ชัดเจนว่า หากมีการปิดเบอร์ระบบเติมเงินและผู้ใช้บริการขอเงินในระบบคืน เมื่อได้ตรวจสอบหลักฐานแล้วว่าเป็นเจ้าของเบอร์ บริษัทก็ตาองคืนเงินให้ ซึ่งในกรณีผู้ร้องเรียนทั้งสามรายนี้ แน่ชัดว่ามีการลงทะเบียนซิมเป็นเจ้าของเบอร์ และมีหลักฐานการโอนเงินให้กับร้านค้าออนไลน์จำนวนมาก ซึ่งร้านค้าเหล่านี้ก็มีการประกาศโฆษณาขายค่าโทรบนอินเทอร์เน็ตอย่างเปิดเผยชัดเจน ดังนั้นจึงเป็นการซื้อค่าโทรที่ได้มาโดยสุจริต ส่วนการรับซื้อค่าโทรที่โอนค่าโทรมาจากเลขหมายรายเดือนก็มีลักษณะเป็นการยินยอมตกลงใจกันของทั้งสองฝ่าย ซึ่งหากทางบริษัทเห็นว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องไปสกัดกั้นที่ตัวกลางหรือไล่ทลายตัวกลาง ไม่ใช่มายึดเงินที่ปลายทางแล้วเก็บเงินไว้ในบัญชีบริษัท ซึ่งการทำเช่นนั้นย่อมไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เงินที่เติมเข้าไปในระบบคือเงินชำระค่าบริการล่วงหน้า ซึ่งผู้บริโภคอาจจะใช้บริการมากน้อยหรือไม่ใช้บริการเลยก็เป็นสิทธิของผู้บริโภค ดังนั้นเมื่อมีการยกเลิกบริการ มีเงินเหลือเท่าไรก็ต้องคืนให้ผู้บริโภคเต็มจำนวน ส่วนถ้าบริษัทยังมีความประสงค์ที่ไม่ต้องการคืนเงินให้กับผู้ใช้บริการ ก็ต้องไปใช้สิทธิตามกฎหมายอื่น เช่นฟ้องศาลเพื่อขออายัดเงินดังกล่าว แต่บริษัทก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเงินค่าโทรส่วนใดที่ได้มาโดยทุจริตหรือได้มาจากการต้มตุ๋นหลอกลวง ส่วนค่าโทรที่ได้มาโดยสุจริตก็ต้องคืนให้กับผู้ใช้บริการตามกฎหมายที่มีอยู่



ทั้งนี้หากเป็นการครอบครองเบอร์โดยสุจริตและเป็นการเติมเงินโดยสุจริต ก็เป็นความชอบธรรมที่ผู้ใช้บริการต้องได้เงินคงเหลือคืน ส่วนการที่ผู้ใช้บริการได้ค่าโทรมาในราคาถูกแล้วไปขอคืนเงินในราคาเต็มนั้น เป็นเรื่องที่ผู้ให้บริการต้องไปอุดช่องโหว่ในการทำโปรโมชั่นทางการตลาดกับตัวแทนส่งเสริมการขายของบริษัทเอง รวมถึงบริษัทยังสามารถพิจารณาปรับลดวงเงินคงเหลือสะสมสูงสุดในแต่ละเลขหมาย ซึ่งปัจจุบัน กสทช. กำหนดเพดานไว้ไม่เกิน 10,000 บาท แต่บริษัทก็สามารถปรับลดลงได้เอง เช่น 2,000 บาท หรือ 3,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบปกติ และเพื่อไม่ก่อให้เกิดแรงจูงใจนำช่องทางนี้ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น หรือว่าในส่วนของบริการที่เปิดให้ผู้ใช้บริการรายเดือนสามารถเติมเงินให้กับเบอร์เติมเงินได้นั้น บริษัทก็อาจกำหนดให้ผู้ใช้บริการสามารถเติมเงินให้ได้เฉพาะกับเบอร์ภายในครอบครัวหรือปลายทางที่รู้จักชัดเจน เพื่อแสดงความประสงค์ว่ามีความต้องการเติมเงินให้จริง แต่ถ้าบริษัทเลือกที่จะนิ่งเฉยไม่พยายามอุดช่องโหว่เหล่านี้ ก็จะส่งผลเสียกับบริษัทเอง

ส่วนในประเด็นที่บริษัทมือถือจะปฏิเสธไม่คืนเงินค่าบริการคงเหลือในระบบ โดยอ้างเหตุเพราะยังไม่ได้รับชำระหนี้การเติมเงิน ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านโทรคมนาคมกล่าวว่าไม่สามารถยอมรับได้ เนื่องจากบริการที่บริษัทให้เครดิตลูกค้ารายเดือนสามารถเติมเงินให้ลูกค้าระบบเติมเงินนั้น เป็นบริการที่บริษัทนำเสนอขึ้นมาเอง และโดยระบบแล้ว เมื่อเงินมีการโอนก็ย่อมเป็นสิทธิของผู้ใช้บริการระบบเติมเงินโดยทันที ส่วนบริษัทก็มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ที่จะไปเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บริการระบบรายเดือนที่เป็นผู้เติมเงินได้ในภายหลัง
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า ฝากเตือนถึงผู้ใช้บริการทั่วไปเกี่ยวกับการใช้บริการเบอร์รายเดือนเติมเงินค่าโทรให้กับเบอร์เติมเงินว่า ต้องระมัดระวังเรื่องการถูกหลอกลวง โดยควรต้องตรวจสอบว่าปลายทางมีตัวตนที่ชัดเจน เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่ใช่ตัวแทนของบริษัทมือถือ แต่เมื่อถึงกำหนดชำระค่าบริการ ผู้ใช้บริการก็จะกลายเป็นหนี้ค่าบริการกับบริษัท และอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ใช้บริการต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือเรื่องรหัส OTP โดยต้องเก็บเป็นความลับเฉพาะบุคคล อย่าบอกกับผู้อื่นในทุกกรณี เพราะจะทำให้มิจฉาชีพสวมรอยทำธุรกรรมออนไลน์ในฐานะที่เป็นตัวเราได้ ต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่า การบอกรหัส OTP ให้กับบุคคลอื่นก็เหมือนกับเป็นการยื่นกุญแจบ้านให้โจรเข้ามาขโมยของในบ้านของเราเอง ดังนั้นหากมีใครมาขอให้บอกรหัส OTP ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า คนๆ นั้นอาจเป็นมิจฉาชีพ อย่าหลงเชื่อง่ายๆ เด็ดขาด-สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]