ศบค.ขออภัยคนระยอง-กทม. กรณีทหารอียิปต์-ลูกทูตติดโควิด

ทำเนียบฯ 14 ก.ค.-โฆษก ศบค.เผย ศบค.พร้อมเป็นผู้รับผิดชอบ กรณีทหารอียิปต์-บุตรสาวอุปทูตซูดาน ติดโควิด-19  ขออภัยคนระยองและคนกรุงเทพฯ กับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง ยอมรับเสียใจกับคำพูดที่ว่า เจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง แจง ศบค.ชุดเล็กมีข้อสรุป  กต.จะทบทวนให้นักการทูตที่เข้ามาในประเทศ เข้าสู่สถานกักกันที่รัฐจัดให้ 14 วัน  ยกเลิก 8 เที่ยวบินทหารอียิปต์ และชะลอการอนุญาตเดินทางเข้าประเทศแบบผ่อนคลาย โดย จะทบทวนระบบทั้งหมด  ยันทหารอียิปต์ไม่ได้เที่ยวสถานบันเทิง


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. แถลงกรณีการรายงานทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ออกไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า จ.ระยอง และกรณีบุตรสาวอุปทูตซูดาน ประจำประเทศไทย วัย 9 ขวบ ติดโควิด-19 และครอบครัวพักในคอนโด One X ย่านสุขุมวิท ว่า กรณีทหารอียิปต์ สถานทูตได้ขออนุญาตไปยังกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกองทัพอากาศ ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่กลุ่มวีไอพี แต่เป็นกรณีปฏิบัติโดยปกติที่มีการอนุญาตให้เข้ามา ซึ่งเหมือนกับลูกเรือสายการบินทั่วไปที่เข้ามาพักในโรงแรมที่จัดไว้ให้ แล้วเดินทางกลับออกไป เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้ลงที่สุวรรณภูมิตามปกติ แต่ไปลงที่สนามบินอู่ตะเภา 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า เที่ยวบินเข้ามา 2 เที่ยวบิน คือ EGY1215 และ EGY1216 เป็นเที่ยวบินทางทหาร มีกัปตันเรือ และลูกเรือรวม 31 คน วันที่ 6 ก.ค. เดินทางจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ มาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 7 ก.ค. เดินทางต่อมายังปากีสถาน และวันที่ 8 ก.ค.เดินทางถึงไทย โดยบริษัทสายการบินภาคพื้นประสานงานจองห้องพัก มีสถานทูตเป็นผู้เลือก กำหนดพัก 8-11 ก.ค. โดยเข้าพักโรงแรมดีวารี อ.เมือง จ.ระยอง ถึงเวลา 23.00 น. เครื่องบินล่าช้า 2 ชั่วโมงจากกำหนดการ ทุกคนพักร่วมห้อง 2 คน ยกเว้นกัปตันพักห้องเดี่ยว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ค. เวลา 05.30 น. คณะเดินทางออกจากโรงแรม ไปสนามบินอู่ตะเภา เพื่อไปทำภารกิจทางทหาร และเติมน้ำมันเมืองเฉิงตู ก่อนบินกลับถึงไทยลงที่สนามบินอู่ตะเภาเวลา 23.30 น. ของวันเดียวกัน และกลับโรงแรมที่พัก เวลา 02.00 น. ของวันที่ 10 ก.ค. ต่อมาเวลา 11.20 น. มีจำนวนหนึ่งเดินทางออกจากที่พักไปยังห้างสรรพสินค้า 2 แห่งในอำเภอเมือง จ.ระยอง คือ แหลมทอง และเซ็นทรัล ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยอง รับทราบจึงพยายามขอเข้าตรวจคัดกรอง ก็จะเห็นจากคลิปว่ายุ่งยากพอสมควร จนต้องประสานตำรวจ และประสานสถานทูต โดยผลตรวจคือ ไม่ติดเชื้อ 30 คน และผลกำกวม 1 คน จนต้องตรวจซ้ำ ผลออกวันที่ 12 ก.ค. ว่าติดเชื้อ แต่คณะเดินทางกลับไปวันที่ 11 ก.ค.เวลา 11.30 น.

โฆษก ศบค. กล่าวว่า จากการสอบสวนโดยทบทวนจากกล้องวงจรปิดโรงแรม พบว่า ลูกเรือประมาณ 3 คน ใส่หน้ากากอนามัยขณะออกนอกเคหะสถาน ส่วนใหญ่มีหน้ากากอนามัยติดตัว แต่ไม่ได้ใส่ วันที่ 10 ก.ค. มีการเดินทางเป็น 2 คณะ คือ ลูกเรือ 27 คน รวมผู้ติดเชื้อแล้ว เดินทางเข้าไปเที่ยวซื้อสินค้าห้างแหลมทอง เวลา 11.25 – 14.56 น. โดยผู้ติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัยขณะออกไปข้างนอก และกลุ่มลูกเรืออีก 4 คนเหมารถแท็กซี่ส่วนบุคคล เพื่อไปเที่ยวห้างเซ็นทรัลระยอง ช่วงเวลา 14.30-18.00 น. โดยใช้แท็กซี่คันเดิมในการรับกลับ ซึ่งติดตามคนขับแล้ว ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อไม่ใช่ 1 ใน 4 ที่ไปรับไปส่ง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า หากแบ่งตามความเสี่ยงกรณีนี้ พบว่า มีกลุ่มผู้เสี่ยงสูง 9 ราย ตามสถานที่ คือ 1. โรงแรมดีวารี 7 คน เป็นผู้จัดการโรงแรม 2 คน พนักงานขาย 1 คน แม่บ้าน 4 คน ที่ทำงานประจำชั้นที่พบผู้ติดเชื้อคือ ชั้น 7 และ 8 แต่ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ โรงแรมให้หยุดงาน 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-27 ก.ค. โดยให้แยกกักตนเองในโรงแรม ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จะระยอง 2. สนามบินอู่ตะเภา คือ พนักงานขับรถตู้รับส่งไปยังโรงแรม 2 คน และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ 9 คน คือ ทีมสอบสวนโรคและทีมตรวจคนเข้าเมืองระยอง สำหรับผู้ไปห้างแหลมทองช่วงเวลาเดียวกันกับกลุ่มทหารอียิปต์ไปเวลา 11.25-14.56 น. มีคนในห้าง 394 คน ส่วนห้างเซ็นทรัลมี 1,488 คน โดยมีอีก 7 คนตรวจสอบโทรศัพท์ยังไม่ได้ทั้งสองที่ ซึ่งกรมควบคุมจะติดตามเลขหมายให้ท่านเข้ามาตรวจ ถ้ามีข้อสงสัยให้มารับการตรวจได้เลย 


“เราตีวงขอบเขตได้จากการใช้แอปพิลเคชันไทยชนะ  ผู้ลงทะเบียนผ่านเวลานั้นจะได้รับการข้อความแจ้งเตือนให้ไปแจ้งแสดงตัว เพื่อเข้ารับการตรวจ โดยมีข้อความคือ ขอความร่วมมือกักตัวเองที่บ้าน 14 วัน หรือติดต่อกลับ สาธารณสุขจังหวัดระยอง ถ้าต้องการรับการตรวจสาธารณสุขก็ยินดี โดยเรามีรถพระราชทานไปประจำในพื้นที่เพื่อให้บริการ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึง กรณีบุตรสาวอุปทูตซูดานวัย 9 ขวบ ติดโควิด-19 ว่า จากการสอบสวนโรคพบว่า ขณะอยู่ที่ซูดาน อยู่บ้านชั้นเดียวจำนวน 3 ห้องนอน อาศัยรวมกับปู่ ย่า มารดา และน้องสาวอีก 3 คน มารดาขับรถส่วนตัวออกไปซื้ออาหารในตลาดมารับประทาน ไม่มีผู้อื่นมาเยี่ยมบ้าน ไม่ได้ออกนอกบ้านตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. อยู่บ้านไม่ใส่หน้ากากอนามัย ใช้จานชามร่วมกัน ใช้มือในการรับประทาน ในบ้านไม่มีใครป่วย วันที่ 7 ก.ค. มารดาพาบุตรสาว 4 คนตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ. ไม่มีการสัมผัสคนไข้อื่นในรพ. ผลตรวจไม่พบเชื้อ วันที่ 9 ก.ค. เดินทางจากบ้านพักโดยรถส่วนตัว โดยคุณปู่มาส่ง เดินทางสายการบินอียิปต์แอร์ MZ3277 ซึ่งมีคนไทยโดยสาร 245 คน นั่งที่นั่ง 22H จอดเครื่องเติมน้ำมันกรุงไคโร ไม่มีผู้ออกจากเครื่องบิน และนั่งที่นั่งเดิม ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

โฆษก ศบค. กล่าวว่า วันที่ 10 ก.ค. เวลา 05.40 น. ผ่านขั้นตอนตรวจทางมาตรฐานควบคุมโรค โดยตรวจเชื้อจากโพรงจมูกที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีอุปทูตซึ่งเป็นบิดา และคนขับรถ 1 คน เจ้าหน้าที่ทูต 1 คน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดมารับไปที่พักอาศัย คือ คอนโด One X โดยไม่ได้แวะพักจอดที่ใด ซึ่งผู้ป่วยถึงที่พักเวลา 09.25 น. ผู้ป่วยใส่หน้ากากอนามัย ส่วนน้องสาวคนเล็กและมารดาไม่ได้ใส่หน้ากาก ขึ้นลิฟต์หมายเลข 3 จากที่มี 4 ตัว โดยไม่ได้พูดคุยหรือใช้ลิฟต์ร่วมกับผู้ใด และในวันที่ 10 ก.ค. เจ้าหน้าได้โทรแจ้งผลว่า ด.ญ.อายุ 9 ปี ผลยืนยันพบเชื้อ จึงติดต่อโรงพยาบาล ซึ่งสถานทูตแจ้งว่าวันที่ 10 ก.ค. เวลา 11.38 น. มีรถของสถานทูตพร้อมคนขับ ใส่หน้ากาก มารับไปที่ รพ.พญาไท นวมินทร์ ระหว่างรักษามีอาการปอดอักเสบ จึงขอย้ายไปรักษาสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) ในวันที่ 12 ก.ค. เวลา 04.00 น. และครอบครัวย้ายไปพักบ้านพักสถานทูตซูดานที่ซอยสวนพลู ซึ่งมีประตู 3 ชั้น พื้นที่ประมาณ 200 ตารางวา อาศัยร่วมกับภรรยาและลูก 3 คน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ค. ครอบครัวผู้ป่วยที่อยู่ในห้องคอนโดไม่ได้ออกไปใช้บริการสระว่ายน้ำ หรือฟิตเนส บิดาซื้ออาหารให้ 1 ครั้ง และลงมาเปลี่ยนรีโมตแอร์ให้ 1 ครั้ง โดยครอบครัวพักอาศัยชั้นที่ 19 ซึ่งคอนโดมีทั้งหมด 229 ห้อง อาศัยจริง 200 ห้อง เป็นต่างชาติ 70% ซึ่งคอนโดนี้เคยมีผู้ติดเชื้อมาก่อนแล้ว 2 คนในเดือนมีนาคม  มีการประกาศมาตรการป้องกันโดยจำกัดจำนวนคนขึ้นลิฟต์ ทำความสะอาดลิฟต์ทุกตัว แอลกอฮอล์ ถูพื้นทุกวันด้วยน้ำยาฟอกขาว ทั้งนี้ พบว่าลูกบ้าน 50% ไม่ได้ใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในลิฟต์ การประเมินผู้สัมผัสมี 2 กลุ่มใหญ่ คือ สัมผัสเสี่ยงสูง คือ ครอบครัว บิดา มารดา และน้องสาว 3 คน นัดหมายตรวจเชื้อวันที่ 15 ก.ค. คนขับรถ 1 คน เจ้าหน้าที่สถานทูต 1 คน ซึ่งจะนัดหมายตรวจหาเชื้อ และสนามบินคนขับรถตู้ 2 คน ส่วนคนสัมผัสเสี่ยงต่ำ คือ คนใช้ลิฟต์ต่อจากครอบครัวมี 15 คน

โฆษก ศบค. เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. (ศบค.ชุดเล็ก) มีข้อสรุปถึงกรณีนี้  3 ข้อ คือ 1. เรื่องทางการทูต มีข้อสรุปว่า การให้ทูตไปพำนักในสถานทูต มีความเสี่ยง และทำให้เกิดกรณีซูดานขึ้น กระทรวงการต่างประเทศ จะทบทวนขอให้ผู้ที่เป็นนักการทูตที่เข้ามาในประเทศ เข้าสู่สถานกักกันที่รัฐจัดให้ 14 วัน  2. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยกเลิกการอนุญาตการบินเข้าของเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์ ทั้งที่อนุญาตไปแล้วและกำลังจะอนุญาต รวม 8 เที่ยวบิน ในวันที่ 17-20 ก.ค. และวันที่ 25-29 ก.ค. และ 3. ให้ชะลออนุญาตการเดินทางเข้ามาราชอาณาจักรแบบผ่อนคลาย ตามข้อกำหนดฉบับที่ 12 รวม 3 กลุ่ม คือ 1 กลุ่มที่มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาต   2 บุคคลในคณะทูตทั้งหลาย และ 3 กลุ่มนักธุรกิจเข้ามาในระยะสั้น โดยขอใช้เวลานี้ทบทวนระบบทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนอีกครั้ง ก่อนรับคนต่างชาติเข้ามา

“ต้องขออภัยคนจังหวัดระยอง และกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่จังหวัดระยอง เด็กต้องปิดโรงเรียนมากกว่า 10 โรงเรียน พวกเราก็ไม่สบายใจ ต้องขออภัยอย่างสูง และจะทำให้ดีกว่านี้ ละเอียดกว่านี้”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ศบค.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบแน่นอน ส่วนการกำกับดูแลนั้น เนื่องจากกลุ่มทหารอียิปต์ที่เข้ามาเป็นกรณีผู้ควบคุมยานพาหนะ ไม่มีการกำหนดต้องมีผู้ควบคุม เพราะให้เข้ามาแค่มีหนังสือแสดงตัว มีกรมธรรม์ คัดกรองทางเดินหายใจเท่านั้น แม้แต่การเก็บตัวอย่างทางโพรงจมูกตามมาตรการก็ไม่ได้กำหนดไว้ มีเพียงใช้ระบบติดตามตัว ซึ่งตรงนี้ต้องไปติดตามเพิ่ม และใช้พื้นที่กักกันที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อกำหนด ตลอดเวลาที่พำนักอยู่ในราชอาณาจักร สถานที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ราชการกำหนด แต่ข้อหละหลวม คือ สถานทูตไปติดต่อโรงแรมโดยตรง นำไปสู่การเข้าพัก และทำให้ทีมดูแลมารับทราบทีหลัง เมื่อรับทราบจึงขออนุญาตเข้าไปตรวจ

ส่วนต้องทบทวนสิทธิวีไอพีเข้ามาในไทยหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่การ์ดตกเสียเอง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผมเสียใจกับคำพูดที่ว่า เจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง เราคุยเรื่องนี้กันมาก มีอะไรต้องปรับปรุงตัวเอง ก็จะพัฒนาตัวเองมากที่สุด เราต้องขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นทุก ๆ เรื่อง รับมาเป็นข้อปฏิบัติ ทำให้ดีที่สุด ในจุดเล็กๆ หละหลวมทุกจุด ความรับผิดชอบของเราที่อาจไม่ละเอียดในทุกข้อต่อ แต่ยืนยันว่ากลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มวีไอพี

เมื่อถามว่ากลุ่มทหารอียิปต์ไปเที่ยวสถานบริการ อาบ อบ นวด ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากการสอบสวนไม่มีการไปเที่ยวกลางคืน เพราะเดินทางมาถึงดึก บางคืนตีสองและมีภารกิจเช้าและคณะนี้ไม่ใช่วีไอพี เป็นเพียงคณะลูกเรือ และส่วนใหญ่กรณีเช่นนี้จะพักกันที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ มีเพียงคณะนี้เท่านั้นที่มาลงที่สนามบินนานาชาติ อู่ตะเภา ดังนั้นศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบ

ต่อข้อถามว่า จะจำกัดวงความเสียหายจากการดูแลอย่างไร จะเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์จนต้องล็อกดาวน์หรือไม่ และจะเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากความหละหลวมหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เราสอบสวนโรค ดูเส้นทางการเดินทางของ 31 คน ไม่ใช่แค่ผู้ติดเชื้อ เพื่อจำแนกแยกแยะผ่านเวลา และเส้นทาง จึงได้ตัวเลขออกมาของผู้ที่ใช้ไทยชนะในช่วงเวลาเดียวกัน เราตีวงขอบเขตได้ และจะติดตามในระยะเวลา 14 วัน ว่ามีการติดเชื้อในพื้นที่ขึ้นมาหรือไม่ หากควบคุมโรคได้ก็ไม่ต้อง ล็อกดาวน์ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือ แพร่กระจายกันไปมากขึ้น มาตรการเพิ่มเติมก็จะเกิดขึ้น ส่วนเรื่องการเยียวยายังไม่มีการพูดคุยประเด็นนี้ ที่ผ่านมาไม่ว่าสนามมวย สถานบันเทิงทองหล่อ เรายังไม่เคยพูดคุยประเด็นด้านนี้ว่าต้องเยียวยาสถานที่ตรงนั้น ถ้าจะคุยกันก็ต้องโยงทุกที่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องที่พยายามจัดการให้ดีที่สุด

“ในนาม ศบค. ปฏิเสธการรับผิดชอบไม่ได้ เรารับทราบมองเห็นว่า หลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ หลายเรื่องคาดไม่ถึง ไม่รู้จะมีรายละเอียดมากมายอย่างนี้ ที่เกิดขึ้นมาก็ดำเนินการมาแล้วปรับปรุงกันเรื่อย ๆ เป็นบทเรียนสำคัญ ผมตัวแทน ศบค. ผอ. หัวหน้าส่วน ทำงานเต็มที่ ฝากขออภัย ขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือกัน ตอนนี้เห็นความเข้มแข็งสื่อมวลชน ทีมพื้นที่แม้จะมีประเด็นอย่างนี้ บอกว่าการค้นพบผู้ติดเชื้อหนึ่งคน เป็นความเข้มแข็งพื้นที่ ไม่ลดละขอตรวจแม้ผู้ที่เข้ามาไม่ให้ความร่วมมือ มองเห็นคือระบบจากระดับมดงานทำงานได้อย่างดี” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่โลกโซเชียลมีเดียมีการแชร์ไทม์ไลน์ของบุตรสาวอุปทูตซูดาน เดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ นั้น ทาง ศบค.แถลงยืนยันว่าไม่เป็นความจริง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]