“อนุทิน” ย้ำยังไม่อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามารักษาตัวในไทย

ทำเนียบฯ 3 ก.ค.- รมว.สาธารณสุข เผยยังไม่พิจารณาให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลในไทย ต้องรอผลการหารือกับ ศบค.อย่างรอบคอบ เพราะมีหลายประเทศโควิด-19 กลับมาระบาดรอบสอง ส่วนการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม เฟส 6 ต้องรอดูผลจากเฟส 5 ก่อน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ไทยจะเปิดให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามารักษาตัวในประทศไทยว่า เป็นนโนยบายของ ศบค. ที่จะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า เพราะต้องพิจารณา เป็นกรณีไป เนื่องจากยังพบว่าหลายประเทศมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19)  รอบที่ 2 จึงต้องหารือกับศบค.อย่างรอบคอบ อีกรอบเพราะมีกรรมการพิจารณาในหลายระดับ 

เมื่อถามว่า มีผู้ที่ต้องการเข้ามารับการรักษาในไทยแจ้งลงทะเบียนมาเป็นพันคน นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดชัด เพราะต้องดูก่อนว่าเป็นคนป่วยแบบไหน และเดินทางมาจากไหน มีคนพาเข้ามาหรือไม่ และต้องกักตัวอย่างไร ขอไปหารือกับกรมควบคุมโรคก่อนว่าจะอนุญาตในรูปแบบใด เพราะช่วงนี้มีการระบาดเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ประเทศเราผ่อนคลายมาตราการต่าง ๆ มากขึ้น จึงต้องดูแลความปลอดภัยของคนในประเทศก่อน 

เมื่อถามว่ามีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม ในระยะที่ 6 หรือไม่  นายอนุทิน กล่าวว่า เฟส 5 ก็ผ่อนคลายไปเกือบหมด แต่เฟส 6 คงต้องดูเรื่องการแข่งขันกีฬา ต้องขอดูผล จากการผ่อนคลายเฟส 5 ก่อน และวันนี้เข้าสู่วันที่ 3 ของการผ่อนคลาย ถือว่ายังควบคุมได้ดี แต่ยังอยู่ในช่วงระยะการฟักตัวเราต้องรอสัก2 สัปดาห์ถึงจะมั่นใจ ส่วนการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับพ.ร.บ.โรคติดต่อ รอให้มีการเสนอกฏหมายขึ้นมาก่อน เพราะต้องนำสิ่งที่เป็นอุปสรรค ที่พบก่อนใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาพิจารณาปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม 

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายงบประมาณที่สนับสนุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปี 61 พบว่า 18 คลินิกใน กทม.เบิกจ่ายเงิน74 ล้านบาท โดยไม่มีการรักษาจริง นายอนุทิน กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (3 ก.ค.) ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประชุมที่กระทรวงสาธารณสุข โดยเชิญให้ สปสช.มาชี้แจง ให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพที่รับผิดชอบมาชี้แจง ตนมีคำถามว่าหากพบว่าคลินิกมีปัญหา เหตุใดจึงไม่ปิดทันที และที่บอกว่าได้เรียกเก็บเงินคืน ต้องชี้แจงรายละเอียดว่า ข่าวที่ระบุว่ามีการเรียกเก็บเงินคืนจากคลินิก หลังพบว่าไม่ได้ตรวจรักษาจริง เรียกอย่างไรเป็นเงินสด หรือหักกลบลบหนี้กับใคร สิ่งเหล่านี้ต้องจัดการอย่างเฉียบขาด และต้องมีการแจ้งความดำเนินคดี หากพบว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องต้องลงโทษเด็ดขาด เพราะหากเป็นการนำเงินหลวงไปใช้โดยไม่มีเนื้องานจริงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ประเด็นนี้ต้องขอบคุณนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม พรรคเพื่อไทย ที่นำข้อมูลมาอภิปราย แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่ได้คุม สปสช. แต่เป็นหน่วยงานที่ทำงานร่วมกับ สปสช. และในเขต กทม.ส่วนใหญ่กระทรวงไม่เกี่ยวข้องแต่เรื่อง สปสช. รัฐมนตรีสาธารณสุขเป็นประธานในตำแหน่งดังนั้นก็ต้องลงไปดูว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น 

เมื่อถามถึงเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด19 มีความคืบหน้าอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่าพัฒนาไปตามขั้นตอน สถาบันต่าง ๆ ที่ค้นคว้าวิจัยทดลองได้ผล  การทดสอบแต่ละครั้งดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นทดลองในมนุษย์ เพราะอยู่ระหว่างการปรัปรุงแก้ไขให้ได้ผลดี และวัคซีนอยู่ได้นาน เพราะบางครั้งภูมิต้านทานเกิดขึ้นจริงแต่อยู่ในระยะเวลาที่สั้น.-สำนักข่าวไทย