ร้อง รมว.คมนาคม เหตุแท็กซี่เมาแล้วขับ ไม่ต่อ พ.ร.บ.

กรุงเทพฯ 28 มิ.ย.-เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมครอบครัวเหยื่อแท็กซี่เมาแล้วขับ2ศพ บาดเจ็บ5 ย่านรามคำแหง ร้องขอความเป็นธรรม รมว.คมนาคม หลังผู้ก่อเหตุขับรถหมดสภาพ  ไม่ต่อ พ.ร.บ.ขาดประกันวิ่งบริการ หวั่นเหยื่อเสียสิทธิที่ควรได้ตามกฎหมาย 


นางสาวเครือมาศ  ศรีจันทร์  ผู้ประสานงานเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต นายอธิวัฒน์  เนียมมีศรี  เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยนายเกียรติคุณ  สุวรรณศิริ  สามีผู้เสียชีวิต กรณีแท็กซี่เมาแล้วขับ ชนเสียชีวิต2ศพ บาดเจ็บ5ราย ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร้องขอความเป็นธรรม กรณีผู้ก่อเหตุ ไม่ทำประกันภัยรถยนต์ ไม่ต่อ พ.ร.บ.ทะเบียนหมดอายุ สภาพรถไม่พร้อมใช้งาน รถหมดอายุ นำรถออกวิ่งทั้งที่ดื่มแอลกอฮอล์ จนเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน  และมีความสุ่มเสี่ยงที่ครอบครัวผู้ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บจะเสียสิทธิในการดูแลช่วยเหลือตามกฎหมาย และเรียกร้องให้ตรวจสอบและจัดระเบียบการให้บริการรถโดยสารสาธารณะเถื่อน  และทำให้ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะแอลกอฮอล์เป็น 0 อย่างเป็นรูปธรรม


นายอธิวัฒน์ฯ กล่าวว่า จากกรณีรถแท็กซี่ชนรถจักรยานยนต์  ปากซอยรามคำแหง 60/1 เมื่อวันที่12 มิถุนายน 2563 ทำให้มีผู้เสียชีวิต2ราย โดยเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง1ราย และเป็นคนเดินเท้า1 ราย ผู้บาดเจ็บสาหัส 5 ราย โดยเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 1 ราย //รถจักรยานยนต์รับจ้าง 2 ราย คนเดินเท้า 1 ราย ผู้ประกอบอาชีพขายกาแฟ ปากซอยรามคำแหง 60/1 จำนวน 1 ราย รวมทั้งทรัพย์สินในบริเวณที่เกิดเหตุเสียหายประมาณ 8,000,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่รถแท็กซี่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้ 147 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และรถที่นำมาใช้ ไม่มีการต่อ พ.ร.บ. และไม่มีประกันภัย ซึ่งอาจเป็นผลให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบรรดาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องเสียสิทธิในการคุ้มครองดูแลตามกฎหมายหลายประการ ประกอบกับเครือข่ายตรวจสอบพบว่ารถแท็กซี่นิติบุคคลที่สังกัดสหกรณ์ หรือบริษัทต่างๆ หมวดอักษรที่หมดอายุคือ ทฉ, ทต, ทท, ทธ, ทน, ทพ, ทม, ทย, ทร, ทล, ทว และหมวด ทศ 1 – 6498 และกรณีเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลสีเขียวเหลืองนั้น หมวดอักษรที่หมดอายุคือ ทจ, มก, มข, มค, มง, มจ และหมวด มฉ 1 – 9439 ผลปรากฎพบว่ามีการนำมาให้บริการประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก  ตามสถานีขนส่งต่างๆ  และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมไปถึงบริเวณสถานีขนส่งรถไฟฟ้า BTS

นางสาวเครือมาศฯ กล่าวว่ากระทรวงคมนาคม ควรมีมาตรการที่เข้มงวดต่อรถโดยสารสาธารณะที่ประชาชนนิยมใช้บริการ คือรถแท็กซี่ รถตู้ และรถจักรยานยนต์รับจ้าง โดยเฉพาะสภาพรถที่ไม่ควรนำรถหมดอายุมาใช้งาน การจดทะเบียน การตรวจวัดแอลกอฮอล์คนขับเพื่อป้องกันกรณีเมาแล้วขับ ฯลฯ เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ มีความปลอดภัยสูงสุด และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ  และขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่สุ่มเสี่ยงในการเสียสิทธิจากเหตุการณ์นี้

 


“เครือข่ายขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาปัญหารถโดยสารสาธารณะ ดังต่อไปนี้ 1. ขอให้พิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและบรรดาผู้บาดเจ็บ ซึ่งกรณีนี้ผู้ก่อเหตุนำรถแท็กซี่ที่ไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมาขับขี่  ไม่มีการต่อ พ.ร.บ.  ไม่มีประกันภัย  สุ่มเสี่ยงที่ผู้เสียหายจะไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมาย  เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อครอบครัว  2. ขอให้มีการตรวจสอบสภาพรถโดยสารสาธารณะ กรณีหมดอายุการใช้งาน การต่อทะเบียน โดยกฎหมายบังคับต้องทำประกันทั้ง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และการทำประกันภัยประเภทที่ 3 (ขั้นต่ำ) ให้ครบถ้วนก่อนนำมาให้บริการแก่ประชาชน เพราะปัจจุบันยังมีรถที่ทะเบียนหมดอายุการใช้งานออกมาให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก 3. ตรวจสอบอู่รถแท็กซี่กรณีแท็กซี่นิติบุคคลที่สังกัดสหกรณ์หรือบริษัทต่างๆ และกรณีที่เป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลว่าละเลยการต่อทะเบียนรถ หรือการตรวจสภาพรถหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบประวัติผู้เช่ารถว่ามีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ชอบดื่มสุราเป็นประจำหรือไม่ เพราะจากกรณีที่เกิดขึ้นได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ต่อบุคคลที่ใช้ชีวิตบนถนนร่วมกัน หากเจ้าของอู่แท็กซี่หรือบุคคลที่เป็นเจ้าของรถละเลยควรมีการเอาผิดอย่างเด็ดขาดไปถึงด้วย  4. เพิ่มมาตรการกวดขันจุดตรวจให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เพิ่มเวลาตรวจในช่วงกลางคืน เนื่องจากผู้กระทำผิดดังกล่าวมักจะลักลอบนำรถที่หมดอายุการใช้งาน มาให้บริการแก่ประชาชนโดย  และ 5. กำกับพฤติกรรมของคนขับรถสาธารณะให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ขับเร็ว ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่รัฐต้องตรวจสอบรถและคนขับรถทุกคันอย่างจริงจังไม่มีข้อละเว้น   เพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระทำความผิด ที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการขนส่งสาธารณะ”นางสาวเครือมาศ กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]