“สุพจน์ ทรัพย์ล้อม” ลาออกจาก ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการโครงการนิคมอุตสาหกรรมราขทัณฑ์ แล้ว

ยธ.25 มิ.ย.- “สุพจน์ ทรัพย์ล้อม”ไม่ทนกระแสกดดันและขอยุติความขัดแย้งในสังคมถอดใจ ลาออกจากที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการโครงการนิคมอุตสาหกรรมราขทัณฑ์ “สมศักดิ์” ไม่ยื้อเพราะไม่อยากให้ชอกช้ำไปมากกว่านี้ ขณะที่”ชวนพิศ” ลาออกเพิ่มอีกคน


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เป็นประธานการเสวนาเพื่อแสดงความคิดเห็นการสร้าง  นิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์และผลกระทบจากการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมฯ โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคประชาชน นักวิชาการ และผู้มีประสบการณ์ผ่านคดีความ เช่น นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานมูลนิธิองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย)  นายนัทธี จิตสว่าง ที่ปรึกษาพิเศษสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย นายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ หรือต๊ะ บอยสเก๊าท์


ก่อนเริ่มเสวนารับฟังความคิดเห็น นายสมศักดิ์ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ไม่ว่าความเห็นจะออกมาแบบไหนก็พร้อมยอมรับ เพราะยังอยูในขั้นการศีกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ถ้าศึกษาแล้วมีความเห็นจากรอบด้านแล้วสร้างได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร  เพราะตั้งใจคิดทำโครงการนี้เพื่อต้องการคืนคนดีสู่สังคม  โดยยอมรับว่า โครงการนี้ ถูกสังคมจับตามอง เนื่องจากมีการแต่งตั้งนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นที่ปรึกษาโครงการฯ ตนขอชี้แจงว่า ที่ปรึกษาที่ตั้งขึ้นจำนวน 5คน นั้น มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ และจะขอคำแนะนำในเรื่องที่เขาเชี่ยวชาญ ประกอบด้วย นางอัญชลี เชาวานิชย์ อดีตผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ อดีตผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นายศิวะ แสงมณี อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์และหลายกรมในกระทรวงมหาดไทย นายเทอดศักดิ์ เศรษฐมานพ อดีตอธิบดีกรมทางหลวง และสุดท้ายคือ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกสังคมตั้งคำถาม ยืนยันว่า การตั้งนายสุพจน์ มีเหตุผลเช่นเดียวกับที่ปรึกษาคนอื่นๆ โดยตั้งใจให้มาให้คำแนะนำเรื่องที่เขามีประสบการณ์เป็นหลัก ทั้งในเชิงบริหารที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารงานคมนาคม ระบบการขนส่งต่างๆซึ่งเป็นระบบที่จำเป็นของการขนส่งสินค้าในนิคมรวมทั้งประสบการณ์ตรงในเรือนจำ ที่เคยเป็นผู้ต้องขังจึงรู้ใจ รู้จักและรู้ความต้องการของผู้ต้องขัง แต่สุดท้ายความคิดเห็นรอบด้านออกมาอย่างไรก็พร้อมจะยอมรับ ไม่ฝืนกระแส


ส่วนความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิในเวทีเสวนา  ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เพราะเป็นโครงการที่ สามารถเตรียมความพร้อมให้กับนักโทษที่จะออกสู่สังคมได้มีอาชีพรองรับและมีโอกาสในการกลับสู่สังคมอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการลดโอกาสการกระทำผิดซ้ำที่มีสถิติสูงอยู่ในปัจจุบัน  

นายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ หรือต๊ะ บอยสเก๊าท์ กล่าวว่า เมื่อทราบว่ากระทรวงยุติธรรมมีแนวคิดจัดตั้งโครงการฯนี้ รู้สึกดีใจ เพราะเป็นโครงการที่ดีสำหรับให้ผู้ที่เคยหลงผิดได้มีที่อยู่ที่ถูกต้อง ได้รับการยอมรับ ได้รับโอกาสให้กลับสู่สังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไม่เคยเจอด้วยตัวเองจะไม่มีทางรู้เลยว่า มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ และตนเองก็พบกับตัวมาแล้ว  ซึ่งในอดีตตนเคยตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดและคดีอาวุธปืน ใช้เวลาสู้คดีเกือบ3ปี และสุดท้ายศาลยกฟ้อง แต่แม้ตนจะไม่มีความผืด แต่สิ่งที่ได้รับคือสังคมตราหน้าไปแล้วว่าเป็นคนไม่ดี มีผลกระทบกับงานในวงการบันเทิง โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ ซึ่งก็เข้าใจได้ แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมยอมรับยาก ขนาดตนเองเพียงแค่มีคดีความ แต่ไม่ได้ถูกจำคุก ก็ถูกตีตราจากสังคมแล้ว ดังนั้นหากกระทรวงฯมีโครงการนี้ ก็จะเป็นการให้โอกาสกับผู้ที่เคยหลงผิดได้มีสถานที่และอาชีพที่เหมาะสมเป็นที่ยอมรับของสังคม ส่วนประเด็นที่เป็นข้อสังเกตและมีการแสดงความเป็นห่วง ห่วงใยจากผู้เข้าร่วมในวันนี้โดยเฉพาะจาก  มูลนิธิองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น(ประเทศไทย) คือกรณีการแต่งตั้งนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นที่ปรึกษาโครงการฯ

โดย ดร.มานะ นิมิตรมงคล  เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นประเทศไทย(ACT) กล่าวว่า คดีทุจริต บางคดีใช้เวลานาน 10 กว่าปีกว่าที่ศาลจะมีคำตัดสินเป็นที่สิ้นสุด ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าไม่ต้องถูกโดนลงโทษ ยังสามารถเดินเชิดหน้าชูตาในสังคมได้ ในขณะรายที่โดนลงโทษทางกฎหมายแต่ก็สามารถกลับมามีบทบาทในวงการเมืองและราชการได้ ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำความรู้สึกของ ประชาชนว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวเมื่อพบเห็นการกระทำที่ไม่ถูกกฎหมาย แม้ว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับ ปัจจุบันที่เรียกว่า รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง ที่เพิ่มการรับรู้ของคนทั่วไปว่า คนที่ทุจริตจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง

ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนเห็นด้วยที่ต้องการให้ผู้ต้องขังได้กลับคืนสู่สังคมตามแนวทางที่กระทรวงยุติธรรมมีนโยบายแต่การที่จะกลับเข้ามาสู่ระบบราชการการเมืองในขณะที่ มีความผิดคดีคอร์รัปชั่น ซึ่งไม่ใช่คดี ฉกชิงวิ่งราว หรือคดีทั่วๆไปซึ่งคดีคอรัปชั่นถือเป็นคดีที่ทำลายชาติเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งการที่นายสุพจน์ได้เข้ามาสู่ในตำแหน่งคณะอนุกรรมการ ที่อยู่ในระบบการเมืองและราชการ ทำให้ คนทั่วไปรู้สึกว่าคนนี้มีอำนาจ วาสนา บารมีซึ่งจะเป็นช่องว่างหากพูดหรือแสดงอิทธิฤทธิ์อะไร เราก็ต้องระวังตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้หน่วยราชการต้องตระหนักคนที่พ้นโทษแล้วจะไปเที่ยววัดหรือทำมาค้าขายกับหน่วยงานราชการสามารถทำได้แต่การเข้ามามีบทบาทในวงการเมืองหรือราชการต้องควรจะระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นจะทำให้ ไม่เป็นต้นแบบของสังคมในการประพฤติปฏิบัติ ในทางที่ถูกต้องและข้าราชการชั้นผู้น้อยจะเกิดความเข้าใจผิด ต่อบรรทัดฐานการประพฤติปฏิบัติทั้งที ทั้งที่ มีเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงเขียนว่าอย่างชัดเจน ป้องกันเรื่องการคอรัปชั่นของข้าราชการและนักการเมือง

ภายหลังรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนแล้วนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้แจ้งการลาออกของนายสุพจน์ทรัพย์ล้อม กลางเวทีเสวนา โดยบอกว่าได้ยื่นเรื่องต่อตนเองตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองก็เห็นว่าเขาบอบช้ำ จึงไม่ได้มีการยับยั้งใดๆ จากนั้นได้อ่านหนังสือลาออกของนายสุพจน์ ที่เป็นลายมือเขียนว่า ตามที่คณะกรรมการและประธานได้มีคำสั่งที่ 1/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563 แต่งตั้งเป็นคณะที่ปรึกษาชุดดังกล่าว เมื่อได้รับการทาบทามทางจากกระทรวงยุติธรรมผมเห็นว่าจะสามารถใช้ความรู้ ประสบการณ์และความเข้าใจที่มีต่อผู้ต้องขังในเรือนจำมาถ่ายทอดให้โครงการนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ ผมจึงได้ตอบรับที่จะเข้าร่วม แต่ต่อมาผมได้รับทราบจากสื่อต่างๆว่ามีกระแสความไม่เห็นด้วย และเห็นว่าการที่ผมรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการชุดนี้มีความไม่เหมาะสมผมได้พิจารณาแล้วว่า เพื่อเป็นการยุติความขัดแย้งในสังคมและให้อนุกรรมการสามารถเริ่มปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของประเทศได้ทันทีผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาของคณะอนุกรรมการโดยมีผลทันที ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2563

เช่นเดียวกันกับนางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ ได้ยื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เช่นกันโดยแจ้งว่าขอลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการ ฯ โดยอ้างถึงคำสั่งของคณะกรรมการราชทัณฑ์ที่ 1/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ว่าตามที่นะได้มีการแต่งตั้งตนเองนางชวนพิศฉายเหมือนวงศ์เป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการเพื่อดังกล่าวนั้นข้าพเจ้า ขอกลับขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากข้าพเจ้ามีภารกิจบางประการที่รับผิดชอบและจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเป็นประจำทุกเดือนอาจจะมีผลกระทบทำให้การทุ่มเทเวลาเพื่อที่จะช่วยงานไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ของท่าน ทั้งนี้ภายหลัง รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในวันนี้แล้วก็จะสรุปความคิดเห็นทั้งหมดส่งให้คณะอนุกรรมการศึกษาความเป็นไปได้โครงการฯต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]