กทม. 24 มิ.ย. – คนขับรถเก๋งวอลโว่ที่ชนรถจักรยานยนต์หญิงท้อง 5 เดือนเสียชีวิตเมื่อ 2 วันก่อน เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.มีนบุรี อ้างไม่ได้ตั้งใจหลบหนี แต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขับรถกลับบ้านไปตั้งสติ ขณะที่ชาวบ้านและญาติรุมตะโกนสาปแช่งขณะทำแผน
สืบเนื่องจากมีกรณีรถเก๋ง วอลโว่ สีดำ ทะเบียน กธ-6498 พระนครศรีอยุธยา ชนหญิงตั้งครรภ์ 5 เดือนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณถนนสุวินทวงศ์ 28 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา
ในวันนี้ (24 มิ.ย.) นายกาวิน สาทร คนขับรถคันดังกล่าวได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า วันเกิดเหตุไม่ได้เมาสุรา แต่เกิดยางระเบิด จึงเกิดเหตุพุ่งชนรถจักรยานยนต์ผู้ตาย ตกใจจึงไม่ได้ลงมาดูผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจหลบหนี พร้อมกราบขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตและญาติๆ
ด้านนางดวง แสงจันทร์ ญาติของผู้ต้องหา กล่าวว่า นายกาวินมาพบที่บ้านเมื่อเช้า เพื่อขอให้พามามอบตัว และเล่าให้ฟังว่าวันนั้นถนนค่อนข้างมืด จึงมองไม่เห็นรถจักรยานยนต์ที่อยู่ข้างหน้า ประกอบกับรถที่ขับค่อนข้างเก่าและเกิดยางรถระเบิดจึงเสียหลักไปชนผู้เสียชีวิต ด้วยความตกใจไม่มีสติ รถไม่มีประกัน และเอกสารอื่นๆ จึงตัดสินใจขับรถกลับบ้านไปตั้งสติ
รุมตะโกนสาปแช่งขณะทำแผน หนุ่มขับรถชนสาวท้อง 5 เดือนดับ
หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปชี้รถเก๋งคันที่ขับในคืนวันเกิดเหตุ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางเสียงตะโกนสาปแช่งจากกลุ่มไทยมุงและญาติของผู้ต้องหา เพราะยังคาใจว่ามีอาการมึนเมาสุราระหว่างขับรถหรือไม่
ขณะที่ผู้กำกับการ สน.มีนบุรี บอกว่า หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งฟ้องและฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคืนเกิดเหตุผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนีจนตำรวจต้องกดดันและออกหมายจับ พร้อมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และผิด พ.ร.บ.จราจรฯ กรณีหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ และไม่แสดงตัวแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
สามีผู้ตายรุดดูหน้าผู้ต้องหา แต่เกิดเหตุชุลมุนบนโรงพัก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากพาผู้ต้องหาชี้จุด ตำรวจได้คุมตัวกลับมาที่ สน.มีนบุรี และนายธนายุทธ พุฒิเพ็ง อายุ 19 ปี สามีของผู้ตายได้เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อดูตัวนายกาวิน ที่อยู่ในห้องพนักงานสอบสวน และเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย ทำให้ตำรวจจึงต้องจับตัวแยกออกจากกัน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องควบคุมเพื่อรการฝากขังวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.). – สำนักข่าวไทย
