รักแท้แพ้รางวัลที่ 1 สามีหอบเงินหนี ภรรยาเดินหน้าทวงสิทธิ์

กทม. 1 มิ.ย. – ทนายรณณรงค์ พา “แอ๊ด” ร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.นนทบุรี หลังสามีอยู่กินกันมาไม่ได้จดทะเบียน ถูกรางวัลที่ 1 ก่อนหอบเงินหนีกลับสุโขทัย ฝ่ายหญิงยันไม่ได้ต้องการจะถึงขั้นฟ้องร้องดำเนินคดี แต่วอนเห็นใจบ้าง ด้านพี่สาวหนุ่มถูกหวย 12 ล้าน เผยน้องชายเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ย้ำ “แอ๊ด” เป็นแค่กิ๊กน้องชายเท่านั้น 


ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.ณัฐนันท์ หรือ แอ๊ด สิริสุขธนานนท์ อายุ 45 ปี เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.นนทบุรี ให้ช่วยเป็นกลางไกล่เกลี่ยเงินที่ได้จากการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 หมายเลข 589227 มูลค่า 12 ล้านบาท หลังสามีอายุ 51 ปี นำไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.สนามบินน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนจะเก็บเสื้อผ้าหนีและบล็อกเบอร์โทรศัพท์ ไม่สามารถติดต่อได้


น.ส.ณัฐนันท์ ผู้เสียหายเล่าว่า ทำอาชีพค้าขาย รู้จักกับสามีเมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่  ขณะว่าจ้างไปส่ง จากนั้นชอบพอรักใคร่กัน ฝ่ายชายจึงย้ายมาอยู่กินด้วยกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส กระทั่งไปส่งสินค้าที่จังหวัดราชบุรี แวะไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอโพธาราม จ.าชบุรี และแวะซื้อลอตเตอรี่มา 5 ใบ คือ 2 คู่ 1 ใบ ในเจ้าเดียว โดยนายแป๊ะ ผู้เป็นสามีบอกให้ซื้อเลขที่ลงท้าย 27 ตนเองจึงควักเงิน 500 บาท ซื้อมา 5 ใบ (2คู่ 1 ใบ) และให้สามีเก็บไว้ จนกระทั่งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ สามีบอกว่าถูกรางวัลที่ 1 เลข 589227 งวดประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 จำนวน 2 ใบ ไปขึ้นเงิน 12 ล้านบาท พร้อมบอกกับเธอว่าต่อไปเราสองคนจะไม่ลำบากแล้ว จะใช้หนี้ให้ตนเองที่กู้ธนาคารมาทำการค้า โดยสามีเปิดมือถือโชว์แคชเชียร์เช็ค 11,940,000 บาท ให้ดู เธอจึงขอถ่ายเก็บไว้ในมือถือเป็นหลักฐานด้วย


จากนั้นสามีเบิกเงินสดมา 400,000 บาท นำไปปิดไฟแนนซ์รถกระบะ ประมาณ 360,000 บาท ซ่อมแอร์ประมาณ 16,000 บาท แบ่งให้ตน 3,000 บาท และสามีเอาไป 1,000 บาท ต่อมาเมื่อ 6 พฤษภาคม สามีเก็บเสื้อผ้าและเครื่องใช้ส่วนตัวหนีไป พร้อมบล็อกเบอร์โทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้อีก 

น.ส.ณัฐนันท์ ผู้เสียหาย ระบุอีกว่า ตั้งแต่คบกันมา เคยไปบ้านสามีที่ จ.สุโขทัย ประมาณ 3 ครั้ง สามีไม่เคยมีพฤติกรรมหรือปฏิบัติตัวกับตนไม่ดี ไม่มีสัญญาณจะส่อแววไปทางนี้ด้วย พยายามติดต่อแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ ยืนยันไม่ได้ต้องการจะถึงขั้นฟ้องร้องดำเนินคดี แต่วอนฝ่ายชายเห็นใจบ้าง ยามลำบากทำไมทิ้งกันไป ไม่บอกลาสักคำ อยากจะบอกว่ายังรักอยู่

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า คดีนี้แม้ทั้งคู่จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นสามีภรรยากันจริง ใช้เงินกระเป๋าเดียวกันจริง ก็ต้องเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม จะต้องแบ่งเงินกันคนละ 6 ล้านบาท

เบื้องต้นต้องรอให้ทางศูนย์ดำรงธรรมเป็นตัวกลางเรียกมาไกล่เกลี่ยก่อน โดยมีระยะเวลา 15 วัน   ส่วนวันพรุ่งนี้คาดว่าจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.ท่าข้าม ต่อไป

พี่สาวหนุ่มถูกหวย 12 ล้าน เผยแอ๊ดเป็นเพียงกิ๊กน้องชาย

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับคุณฝน สุขสวัสดิ์ พี่สาวของนายวรายุ สุขสวัสดิ์ ผู้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ทางโทรศัพท์ เพราะเจ้าตัวไม่สะดวกที่จะให้ไปบ้านพักที่ ต.นาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย คุณฝนยอมรับว่าน้องชายกลับมาที่บ้านที่สุโขทัยจริง น้องชายมีอาการค่อนข้างเครียดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เลยไม่อยากติดต่อใคร

คุณฝนเปิดเผยต่อว่า จริงๆ แล้วคุณแอ๊ดที่ออกมาร้องเรียน แค่เป็นกิ๊กกับน้องชายเท่านั้น น้องชายมีภรรยาแล้วเป็นคนอุบลราชธานี มีลูกชาย 2 คน ยืนยันน้องชายและภรรยายังไม่ได้แยกกันอยู่ ยังคงอยู่ด้วยกันเป็นปกติ

ก่อนหน้านี้น้องชายซึ่งขับรถแท็กซี่และคุณแอ๊ดได้ชักชวนให้ไปช่วยขับรถส่งของให้ ค่าจ้างให้วันละ 500 บาท ใช้งานสารพัดเท่าที่จะใช้ได้ ต่อมามีความสัมพันธ์ต่อกันแล้วน้องชายกลับไม่ได้ค่าจ้างเลย จนน้องชายเครียด ปรึกษาตลอดว่าไม่มีเงินใช้ เมื่อช่วงปีใหม่ น้องชายทะเลาะกันกับคุณแอ๊ด และโดนไล่ออกจากร้าน แต่ต่อมากลางเดือนมกราคม คุณแอ๊ดเรียกกลับไปทำงานขับรถส่งของให้อีกครั้ง จนกระทั่งมีเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าวเมื่อน้องชายถูกรางวัลที่ 1

ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ เพราะไม่อยากรับรู้ และสังเกตว่าช่วงนี้น้องชายค่อนข้างเครียด

มีรายงานว่า นายวรายุ หรือแป๊ะ ยืนยันว่าเงินที่ใช้ซื้อลอตเตอรี่เป็นเงินของตนเอง และที่ให้เงินคุณแอ๊ด เป็นการช่วยเหลือเป็นสินน้ำใจรวมแล้ว 730,000 บาท พื้นเพคุณแอ๊ดเป็นคนมีฐานะอยู่แล้ว ที่บ้านตนเองก็ยากจนลำบาก ตนเองไปทำงานด้วยก็ใช้งานหนัก และไม่ได้รับค่าแรงมีเพียงให้กินใช้บ้างเท่านั้น

พระยอมรับ น.ส.ณัฐนันท์มาระบายทุกข์ถูกผัวโกง

ผู้สื่อข่าวได้ไปที่วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี ซึ่งอ้างว่าได้ซื้อลอตเตอรี่มาจากแม่ค้าเร่ภายในวัดแห่งนี้ โดยพบกับนายชัยวิชิต เนตรวงศอินทร์ พ่อค้าขายสลากกินแบ่ง บอกว่า เคยได้ยินจากคนอื่นว่า น.ส.ณัฐนันท์ และสามี มาซื้อสลากกินแบ่งที่นี้แล้วถูรางวัลที่ 1 จริง แต่ไม่รู้ซื้อกับใคร เพราะวันนั้นมีคนขายสลากกินแบ่งอยู่ 3 เจ้า เจ้าหนึ่งเป็นผู้ชายสูงอายุ ส่วนอีกเจ้าเป็นผู้หญิง และอีกเจ้าเป็นเด็กมาขาย ซึ่งตนได้ยินจากเพื่อนว่า น.ส.ณัฐนันท์ และสามี ซื้อกับเด็ก แต่เด็กคนนั้นไม่ได้มาขายแล้ว เนื่องจากติดโควิด-19 จึงไม่รู้ซื้อกับใครกันแน่

ด้านพระอาจารย์สุเทพ สฺเทวโล พระดูแลวิหารหลวงพ่อขันธ์ พระลูกวัดพระศรีอารย์ ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อ 3 วันก่อน หลัง น.ส.ณัฐนันท์ จะเป็นข่าว อาตมาได้พบ น.ส.ณัฐนันท์ มาที่วัดพระศรีอารย์ กับเพื่อน 2 คน เพื่อมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อขันธ์ ให้ชนะคดี ตอนแรกอาตมาไม่รู้ว่าเขามีเรื่องเดือดร้อนอะไร อาตมาก็ให้ธรรมะไป และ น.ส.ณัฐนันท์ จึงระบายออกมาว่า ถูกรางวัลที่ 1 และถูกผัวโกงไป พรุ่งนี้จะไปฟ้องทนาย อาตมาจึงกลัวว่า น.ส.ณัฐนันท์ จะคิดมากและจะคิดสั้น จึงมานั่งฟัง น.ส.ณัฐนันท์ ระบายความทุกข์ให้ฟัง พอฟังจบจึงพยายามให้ธรรมะสอนใจ ซึ่ง น.ส.ณัฐนันท์ ก็รู้สึกดีขึ้น แต่อาตมาไม่รู้ว่า น.ส.ณัฐนันท์ กับสามีมาซื้อสลากกินแบ่งที่วัดเมื่อไหร่ 

ส่วนพระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ เปิดเผยว่า กรณี น.ส.ณัฐนันท์ อ้างว่ามาซื้อสลากที่วัด จึงอาจเป็นไปได้ เพราะอาตมารู้สึกคุ้นหน้าว่าเคยมาทำบุญที่วัด แต่จำไม่ได้ว่ามากับสามีหรือไม่ เพราะในช่วงนั้นมีญาติโยมเข้ามาที่วัดกันเยอะมาก และไม่สามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าวิหารหลวงพ่อขันธ์ได้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บันทึกภาพได้แค่ 7 วัน แต่เหตุการณ์ของ น.ส.ณัฐนันท์ ผ่านมากว่า 4 เดือนแล้ว. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]